สำนักงานกกต. 5 เม.ย.-ประธาน กกต. เซ็นต์ตั้ง 30 อนุกรรมการฯ ขี้ขาดข้อโต้แย้ง รับมือเลือกตั้ง
นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ลงนามแต่งตั้งคณะอนุกรรมการวินิจฉัยขี้ขาดปัญหาหรือข้อโต้แย้ง ตามที่กกต.มีคำสั่ง ที่ 48 /2564 เรื่องแต่งตั้งคณะอนุกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดปัญหาหรือข้อโต้แย้ง ลงวันที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2564 และคำสั่งคณะกรรมการการเลือกตั้งที่แต่งตั้งอนุกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดปัญหาหรือข้อโต้แย้ง แทนตำแหน่งที่ว่าง เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามที่ระบุไว้ในระเบียบกกต.ว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ. 2561 และแก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 3 ) พ.ศ. 2566 และงานอื่นตามที่กกต.มอบหมาย ซึ่งมีวาระการดำรงตำแหน่ง 2 ปีนับแต่วันที่ได้รับแต่งตั้งนั้น
อาศัยอำนาจตามมาตรา 37 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วย กกต. พ.ศ. 2560 และข้อ 74 ของระเบียบ กกต.ว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวนและการวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ. 2561 และแก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 3 ) พ.ศ. 2566 กกต.จึงมีคำสั่ง แต่งตั้งคณะอนุกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดปัญหาหรือข้อโต้แย้ง จำนวน 30 คณะ อาทิ นายพีระพันธ์ เหมะรัต เป็นประธานอนุกรรมการ นายอัศวิน โชติพนัง เป็นอนุกรรม พ.ต.ท.สมชัย ประชาเสริมศาสตร์ เป็นอนุกรรมการ นางกาญจนา วีณานันท์ เป็นอนุกรรมการ นายไชยยา ตาบทิพย์วัฒนา เป็นอนุกรรมการ เป็นต้น
ทั้งนี้ คณะอนุกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดปัญหาหรือข้อโต้แย้ง มีอำนาจพิจารณาและวินิจฉัยขี้ขาดปัญหาหรือข้อโต้แย้ง ตามระเบียบ กกต.ว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวนและการวินิจฉัยขี้ขาด พ.ศ.2561และที่แก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 3 ) พ.ศ. 2566 และการพิจารณาวินิจฉัยปัญหาหรือข้อโต้แย้งที่เกี่ยวข้องกับ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง และที่เกี่ยวกับการยื่นค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งทุกระดับ และงานอื่น ๆ ตามที่ กกต.มอบหมาย ส่วนกรณีมีความจำเป็นเร่งด่วนอนุกรรมการวินิจฉัยขี้ขาดปัญหาหรือข้อโต้แย้ง คณะหนึ่งอาจไปร่วมพิจารณากับคณะอนุกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดปัญหาหรือข้อโต้แย้งในอีกคณะหนึ่ง เพื่อให้ครบองค์ประชุมในการพิจารณาและทำความเห็นก็ได้ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม 2566 เป็นต้นไป.-สำนักข่าวไทย