กรุงเทพฯ 31 มี.ค.-กรมฝนหลวงฯ ทำฝนต่อเนื่อง ดับไฟป่าในพื้นที่ จ.นครนายก โดยวันนี้ความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศใกล้เคียงกับเมื่อวาน มีโอกาสปฏิบัติการทำให้ฝนตกได้ เช่นเดียวกับวานนี้ ทำให้ฝนตกบริเวณพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จ.ปราจีนบุรี จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นบริเวณที่ใกล้เคียงกับเขาชะพลู เขาแหลม
นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยว่า จากที่เมื่อวานนี้ (30 มี.ค.) ได้สั่งการให้หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดจันทบุรี ขึ้นบินปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ไฟป่า จากเหตุการณ์ไฟไหม้ป่าบริเวณเขาชะพลู ตำบลพรหมณี อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก บริเวณด้านหลังโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า และได้ลุกลามไปยังเขาแหลมที่อยู่ติดกัน ตั้งแต่เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา จากผลการปฏิบัติการฝนหลวงเมื่อวานนี้ ทำให้มีฝนตกบริเวณพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จ.ปราจีนบุรี จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นบริเวณที่ใกล้เคียงกับเขาชะพลู เขาแหลม จ.นครนายก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากกลุ่มเมฆที่หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.จันทบุรี ขึ้นบินปฏิบัติการอยู่บริเวณทิศตะวันออกเฉียงเหนือของพื้นที่ไฟป่าเขาชะพลู เขาแหลม จ.นครนายก โดยทิศทางลมขณะปฏิบัติการเป็นลมทิศตะวันออกเฉียงเหนือที่ระดับความสูง 5,000-10,000 ฟุต ส่งผลให้กลุ่มเมฆที่พัฒนาตัวก่อให้เกิดฝน เคลื่อนตัวไม่ถึงพื้นที่ปัญหาไฟป่า โดยในวันนี้ยังคงมีไฟลุกลามบริเวณสันเขาอยู่นั้น ทางกรมฝนหลวงและการบินเกษตร จึงได้สั่งการและเน้นย้ำให้หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดจันทบุรี ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และวางแผนเพื่อขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง ซึ่งในเช้าวันนี้ จากข้อมูลสภาพอากาศพบว่ามีความชื้นสัมพัทธ์มากกว่า 60% เป็นค่าความชื้นสัมพัทธ์ที่สามารถก่อเมฆได้ และมีโอกาสเกิดฝนตก หน่วยฯ จันทบุรี จึงได้วางแผนบินในเวลา 08.50 น. โดยใช้เครื่องบินขนาดเล็ก (caravan) จำนวน 3 ลำ ปฏิบัติการ 3 เที่ยวบิน ใช้สารฝนหลวง จำนวน 2,100 กิโลกรัม บินที่ความสูง 6,500 ฟุต บริเวณอำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ถึงอำเภอประจันตคาม จังหวัดปราจีนบุรี เพื่อช่วยเหลือพื้นที่เป้าหมาย ได้แก่ พื้นที่การเกษตรจังหวัดปราจีนบุรี และพื้นที่ไฟป่าจังหวัดนครนายก
นายสุพิศ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับสถานการณ์หมอกควันและฝุ่นละอองทางพื้นที่ภาคเหนือและภาคกลาง ยังคงส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน และมีสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง ทางกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ยังคงมีการปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือทุกวัน ซึ่งเมื่อวานนี้ (30 มี.ค.66) ได้ขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่ประสบปัญหาหมอกควันและไฟป่า บริเวณจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ตาก ลำพูน ลำปาง และพะเยา ซึ่งสามารถช่วยบรรเทาปัญหาได้ในระดับหนึ่ง ขณะเดียวกันก็ได้ปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรบางส่วนของจังหวัดปราจีนบุรีและนครราชสีมา และในวันนี้ หน่วยฯ เชียงใหม่ ได้วางแผนบินช่วยบรรเทาปัญหาหมอกควันและไฟป่า และช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร บริเวณจังหวัดเชียงราย และแม่ฮ่องสอน หน่วยฯ แพร่ ช่วยเหลือพื้นที่ประสบปัญหาหมอกควันและไฟป่า บริเวณจังหวัดแพร่ และน่าน และหน่วยฯ อุดรธานี ช่วยเหลือบริเวณพื้นที่การเกษตร จังหวัดขอนแก่น สกลนคร และกาฬสินธุ์ หน่วยฯ อุดรธานี ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.สกลนคร มุกดาหาร และกาฬสินธุ์
ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนในภาคเหนือเฝ้าระวังสุขภาพ หลีกเลี่ยงหรือลดการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หากมีความจำเป็นควรใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เพื่อลดการส่งผลกระทบต่อสุขภาพจากหมอกควันและฝุ่นละอองในอากาศ และสามารถแจ้งสถานการณ์และความต้องการฝนหลวงเข้ามาได้เป็นประจำ ผ่านทางอาสาสมัครฝนหลวงในพื้นที่ หน่วยงานอำเภอ จังหวัด ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงทั่วประเทศ หรือช่องทางโซเชียลมีเดีย Facebook Instagram Twitter TikTok : @drraa_pr หรือหมายเลขโทรศัพท์ 02-1095100 ต่อ 410.-สำนักข่าวไทย