กรุงเทพฯ 28 พ.ค.- พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม ในฐานะ ประธานคณะอนุกรรมการด้านการประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง เปิดเผยถึง กระบวนการสร้างความสามัคคีปรองดองและผลการดำเนินงานกว่า 3 เดือน คือ ตั้งแต่ 14 ก.พ.60 ที่ผ่านมาว่า ในภาพรวมมีความคืบหน้าไปมาก ประชาชนตื่นตัวและให้ความร่วมมืออย่างดียิ่ง โดยหลังจากผู้แทนพรรคการเมือง กลุ่มการเมือง องค์กรภาคประชาสังคม ภาคเอกชน และภาคประชาชนจากทั่วประเทศ ได้ร่วมกันสะท้อนความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ รวมทั้งร่วมตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลอย่างครบถ้วนผ่านกระบวนการรับฟัง โดยมีอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็น ที่มี พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล ปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นประธานแล้วนั้น ล่าสุด ข้อมูลจากการรับฟังดังกล่าว ได้ถูกส่งต่อให้อนุกรรมการพิจารณาบูรณาการข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะ โดยมี พล.อ.สุรพงษ์ สุวรรณอัตถ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเป็นประธาน ไปดำเนินการวิเคราะห์และสังเคราะห์ ร่วมกับผลศึกษาแนวทางสร้างความสามัคคีปรองดองที่มีมา ด้วยผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆตามหลักวิชาการ จนได้ “เอกสารความเห็นร่วม” ที่สมบูรณ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และขณะนี้ อยู่ระหว่างการจัดส่งเอกสารความเห็นร่วมดังกล่าวให้คณะอนุกรรมการจัดทำข้อเสนอกระบวนการ ซึ่งมี พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสารท ผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธาน เพื่อจัดทำเป็น “ร่างสัญญาประชาคม” หรือ กรอบความต้องการของประชาชนในการอยู่ร่วมกันอย่างสงบสันติสุขในอนาคตต่อไป
พล.ต.คงชีพ กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เน้นย้ำเป็นนโยบายถึงความตั้งใจจริงของรัฐบาลในการสร้างความสามัคคีปรองดองของสังคม โดยให้ เปิดกว้างรับฟังประชาชนอย่างทั่วถึงในทุกภาคส่วน ดำเนินงานในทุกขั้นตอนด้วยความเป็นกลาง ตามหลักวิชาการอย่างรอบคอบ ครบถ้วนในทุกประเด็น เพื่อให้ข้อมูลที่ได้ เป็นประโยชน์ในการจัดทำร่างสัญญาประชาคม และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถพิจารณาใช้ประโยชน์จากข้อมูลดังกล่าว กำหนดเป็นแผนงานในระดับปฏิบัติการ ระดับนโยบายและระดับยุทธศาสตร์ ในการขับเคลื่อนแก้ปัญหาแต่ละพื้นที่และเร่งคลี่คลายปัญหาความเหลื่อมล้ำของสังคม ซึ่งมุ่งเน้นสนับสนุนสร้างความเข้มแข็งของชุมชนท้องถิ่นอย่างเป็นรูปธรรม ตามนโยบายของรัฐบาลในภาพรวม โดยเฉพาะเรื่องที่เป็นวาระเร่งด่วนและสามารถทำได้ทันทีในปี 60 ซึ่งเป็น “ปีแห่งการปฏิรูปประเทศ”
พล.ต.คงชีพ กล่าวย้ำว่า กระบวนการสร้างความสามัคคีปรองดองมิใช่เรื่องใหม่ เป็นเรื่องที่ทุกรัฐบาลพยายามแก้ปัญหาความขัดแย้งที่มีมาอย่างต่อเนื่อง กว่า 10 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลปัจจุบัน เพียงเข้ามาสานต่อโดยมุ่งเน้นความเป็นรูปธรรม ด้วยการหยุดสถานการณ์ความขัดแย้งที่ใช้ความรุนแรงทันทีและนำสังคมเข้าสู่ความเป็นปกติด้วยการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ควบคู่กับการเปิดกว้างรับฟังปัญหาและความต้องการของประชาชนทุกภาคส่วน เพื่อเข้าใจมูลเหตุหรือปัญหาพื้นฐาน และกำลังใช้ความพยายามคลี่คลายปัญหาและทำความต้องการของประชาชนส่วนใหญ่ให้บรรลุผลเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ เราตระหนักดีว่า ความร่วมมือและการมีส่วนร่วมของประชาชนในทุกภาคส่วน เป็นปัจจัยหลักที่สำคัญ ขอเพียงเชื่อมั่นและมั่นใจกัน คณะกรรมการเตรียมการสร้างความสามัคคีปรองดองทุกคน จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เพื่อส่งเสริมการสร้างความสามัคคีปรองดองของคนในชาติ ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ร่วมกันกำหนด .-สำนักข่าวไทย