ภูมิภาค 21 มี.ค.- จ.นครพนม เมื่อวานอากาศแปรปรวน กลางวันอุณหภูมิสูงเกือบ 40 องศาฯ แต่ช่วงเย็นกลับมีพายุลูกเห็บถล่มในเขตตัวเมือง ช่วยลดหมอกควันพิษที่เกินมาตรฐานมาตลอดสัปดาห์ ขณะที่เชียงใหม่ช่างซ่อมหลังคาไม่พอ หลังเจอพายุลมแรง 3 วันติด
นี่เป็นภาพพายุฝน ลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตก ในพื้นที่ อ.เมืองนครพนม รวมถึงเขตเทศบาลเมืองนครพนม เมื่อช่วงเย็นวาน (20 มี.ค.) เป็นเวลานานกว่า 30 นาที หลังจากที่ตลอดทั้งวันสภาพอากาศร้อนจัด อุณหภูมิสูงเกือบ 40 องศาเซลเซียส ขณะเดียวกันพายุฝนและลูกเห็บที่ตกลงมาช่วยชะล้างฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 หลังจากที่ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา พื้นที่ จ.นครพนม โดยเฉพาะ 4 อำเภอ ติดกับประเทศเพื่อนบ้าน สปป ลาว ประกอบด้วย อ.บ้านแพง อ.ท่าอุเทน อ.เมืองนครพนม และ อ.ธาตุพนม มีค่า PM2.5 พุ่งสูงเกินค่ามาตรฐาน วัดได้ที่ 180-200 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ต้นเหตุมาจากการเผาพื้นที่การเกษตร และการก่อสร้างถนน แต่หลังพายุฝนและพายุลูกเห็บ ก็ทำให้ค่า PM2.5 ลดลง
แต่อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบล่าสุดวันนี้ค่า PM 2.5 ใน ต.ในเมือง อ.เมืองนครพนม ยังสูง 114 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนอาจเกิดอากาศแปรปรวนในช่วงนี้ และยังต้องระมัดระวังฝุ่น PM 2.5 เนื่องจากในพื้นที่มีอุณหภูมิสูง ร้อนอบอ้าว ไม่มีลมพัดแรง ซึ่งจะส่งผลให้ค่ามลพิษในอากาศสูง พร้อมแจ้งเตือนให้งดกิจกรรมกลางแจ้ง และสวมแมสก์ทุกครั้ง ก่อนออกจากบ้าน
เชียงใหม่ช่างซ่อมหลังคาไม่พอ หลังเจอพายุลมแรง 3 วันติด
ส่วนที่เชียงใหม่ยังเกิดพายุลมแรงติดต่อกันเป็นวันที่ 3 สร้างความเสียหายให้บ้านเรือนประชาชนจำนวนมาก เช่น พื้นที่บ้านแม่แฝก ตำบลแม่แฝกใหม่ อำเภอสันทราย พายุพัดแรงจนต้นไม้ใหญ่ล้มทับสิ่งปลูกสร้าง บ้านเรือนประชาชนมีหลายหลังที่พายุพัดหลังคาปลิวหาย เจ้าหน้าที่เร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อให้ความช่วยเหลือ ส่วนที่อำเภอแม่ริม พบลูกเห็บตกเป็นบริเวณกว้าง เช่นเดียวกับพื้นที่ 7 หมู่บ้าน ของตำบลฟ้าฮ่าม ในตัวเมืองเชียงใหม่ เมื่อวานมีลูกเห็บตก และมีลมพัดแรง จนหลังคาบ้านปลิวหายไปหลายหลัง บางจุดหลังคาถูกแรงลมพัดปลิวไปทั้งแถบ บางครอบครัวต้องไปอาศัยบ้านญาติชั่วคราว เพราะยังไม่สามารถกลับเข้าไปอาศัยอยู้ในบ้านได้ เนื่องจากยังไม่ได้ซ่อมแซมหลังคา เพราะช่างไม่เพียงพอ หลายคนต้องประกาศหาช่างหรือผู้รับเหมาเปลี่ยนหลังคา เช่นเดียวกับเทศบาลตำบลฟ้าฮ่าม ที่ประกาศหาช่างซ่อมหลังคาบ้านเรือนชาวบ้าน
ด้านจังหวัดสรุปความเสียหายจากเหตุวาตภัย มีประชาชนได้รับผลกระทบ 7 อำเภอ 22 ตำบล 87 หมู่บ้าน จำนวน 3,595 ครัวเรือน.-สำนักข่าวไทย