กรุงเทพฯ 21 มี.ค.- “อนุทิน” ตั้งเป้า 100 ที่นั่ง หวังเป็นพรรคแกนนำตั้งรัฐบาล สร้างความปรองดอง ประชาชนอยู่ดีกินดี เน้นพัฒนาฐานรากแข็งแรง ประเทศจะแข็งแรงตาม
นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยภายหลังราชกิจจานุเบกษาประกาศพระราชกฤษฎีกายุบสภา ว่า พรรคภูมิใจไทยมีความพร้อมในการเลือกตั้ง และเตรียมมานานแล้ว จากนี้จะเร่งสร้างความไว้วางใจให้ประชาชน ซึ่งที่ผ่านมาพรรคถูกกล่าวถึงว่าพรรคดำเนินการเพื่อเป็นพรรคตัวแปรแล้วร่วมรัฐบาล ตนขอบอกว่า ถ้าคิดแบบนั้น พรรคภูมิใจไทยมีแค่ 30-40 เสียงก็ได้แล้ว ไม่ต้องตั้งใจจะเอามากมาย ซึ่งจำนวนส.ส.ที่คาดว่าจะได้รับในการเลือกตั้งครั้งนี้ จากข้อมูลของโพลระบุว่าพรรคจะได้ประมาณ 75 ที่นั่ง แต่เป้าหมายของพรรคต้องแตะหลัก 100
“เรามองว่านอกจากโอกาสทำงาน จะต้องพาประเทศไทยไปสู่ความรุ่งเรืองอย่างมั่นคง มีความปรองดอง “เรื่องนี้สำคัญและเป็นความโดดเด่นของพรรคภูมิใจไทย พรรคภูมิใจไทยต้องนำทั้งฝ่ายอนุรักษ์และฝ่ายประชาธิปไตยมาร่วมมือกัน แล้วเดินหน้าพัฒนาประเทศ เราต้องสร้างให้พี่น้องประชาชนแข็งแรงก่อน ถ้าฐานมันแข็งแรง ส่วนอื่นๆ ก็แข็งแรง ถ้าฐานอ่อนแอ มันก็พังทั้งหมด ตอนนี้ต้องหาทางให้ประชาชน อยู่ดี กิน ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ เราเลยมีนโยบายพักหนี้ 3 ปี ไม่เกิน 1 ล้านบาท เราเลยมีนโยบายเกษตรร่ำรวย เพื่อช่วยเหลือประชาชน” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าว
ส่วนความสัมพันธ์กับพรรคร่วมรัฐบาล นายอนุทิน กล่าวว่า ที่ผ่านมาเราทำงานด้วยกันได้ มีผลงานทุกพรรค ประชาธิปัตย์ ดูแลกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรฯ ได้ดี อย่างกระทรวงทรัพยากร ก็ทำงานดี ทุกพรรคตั้งใจทำงาน ภูมิใจไทยก็จัดการโควิดมีประสิทธิภาพ ต้องขอบคุณคณะรัฐมนตรี(ครม.) และภาคประชาชนที่สนับสนุน คมนาคม เราก็พัฒนาถนนหนทางการเดินทางสะดวกสบาย ขณะที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ตอนนี้ นักท่องเที่ยวเข้ามาประเทศไทยมากมาย เป็นความร่วมมือที่ดี รัฐบาลผสม ก็มีส่วนดี มันเช็กแอนด์บาลานซ์
เมื่อถามย้ำว่า แล้วจะเลือกใครเป็นนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ต้องรอหลังเลือกตั้งแล้วหารือกัน เรื่องนี้มีหลายปัจจัยให้ต้องคิดทั้งเสียง ส.ส. ที่แต่ละพรรคจะได้ ทั้งท่าทีของ ส.ว.
ส่วนกรณีที่พรรคภูมิใจไทยถูกโจมตีทางการเมืองจะกระทบต่อคะแนนเสียงหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยมีราคา ก็ต้องถูกด้อยค่าแค่นั้นเอง แต่เราไม่ไปสู้ ลุยหาเสียง สร้างความไว้ใจกับประชาชนดีกว่า การที่เรามาหยุดโต้ตอบ มันอาจจะทำให้เราพลาดลงพื้นที่ไป 10-20 ตำบล
“แล้วเรื่องที่เขาพูด มันก็ชัดอยู่แล้วว่าไม่เป็นความจริง อย่างเรื่องเงินเข้าธนาคาร 30,000 ล้านบาท มันเป็นไปได้ที่ไหน เงินเข้ามาขนาดนี้ ถูกตรวจสอบตาย แล้วมาบอกว่ามีทุจริตรถไฟฟ้าสายสีส้ม นี่ก็เป็นไปไม่ได้ เรื่องยังไม่ผ่านครม.เลย กาลเวลาจะพิสูจน์เอง” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าว.-สำนักข่าวไทย