นนทบุรี 3 มี.ค. – ใครที่กำลังจะซื้อบ้านน็อกดาวน์ ควรระวัง หลังมีบริษัทแห่งหนึ่งอ้างสร้างบ้านน็อกดาวน์ขาย แต่ไม่ส่งมอบบ้านให้ผู้ซื้อ มีผู้เสียหาย 15 ราย สูญเงินไปกว่า 6 ล้านบาท
เมื่อวานนี้ (2 มี.ค.66) นายสนั่นศิลป์ อายุ 34 ปี สไตลิสต์ทำผมชื่อดังย่านปทุม โพสต์ผ่านโซเชียลว่า “ใครที่กำลังจะซื้อบ้านน็อกดาวน์ ระวังจะโดนมันโกง หลายคนโดนโกงไปหลายแสนแล้ว”
หลังโดนบริษัทสร้างบ้านน็อกดาวน์รายหนึ่งขายบ้านน็อกดาวน์ผ่านเพจเฟซบุ๊ก สร้างบ้าน ราคาถูก ผ่อนได้ หลอกเงินสร้างบ้านไปกว่าแสนบาท ซ้ำยังลงทุนจ้างช่างมาปรับพื้นหมดเงินไปอีกกว่า 70,000 บาท แถมแจ้งความแล้วตำรวจก็ไม่รับแจ้ง พบผู้เสียหายมากกว่า 15 คน หลังพบเพจดังกล่าวยังเปิดขายบ้านน็อกดาวน์ได้ตามปกติ หวั่นมีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อเพิ่ม จึงรวมตัวกันปรึกษาทนาย รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 6 ล้านบาท ลั่นจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
นายสนั่นศิลป์ เล่าว่า เนื่องจากสนใจที่จะต่อเติมบ้านย่านสายไหม และที่บ้านมีพื้นที่ว่างอยู่พอดี จึงหาบริษัทรับสร้างบ้านจนมาเห็นเพจดังกล่าวมีการขายบ้านน็อกดาวน์ จึงติดต่อซื้อบ้าน คุยผ่านคนที่อ้างว่าเป็นแอดมินเพจ ชื่อ ยุ้ย เมื่อช่วงต้นเดือนกรกฎาคม 2565 จนตกลงซื้อบ้านน็อกดาวน์ในราคา 350,000 บาท และได้โอนค่ามัดจำงวดแรกไป 50,000 บาท โดยโอนผ่านบัญชีธนาคารในชื่อ รังสิมันตุ์ ในเวลาต่อมาก็ได้รับการติดต่อจากแอดมินยุ้ย ให้โอนเงินมัดจำงวดที่ 2 อีก 52,000 บาท ในชื่อบัญชีบริษัทแห่งหนึ่ง รวมเป็นเงิน 102,000 บาท ต่อมา น.ส.ยุ้ยบอกว่าจะต้องปรับพื้นเพื่อนำบ้านมาวาง และให้โอนเงินอีก 90,000 บาท เพื่อเป็นค่าช่างและค่าอุปกรณ์ โดยบอกว่าช่างจะข้าไปทำการปรับพื้นให้หลังจากที่โอนแล้ว ตนเห็นว่าผิดปกติจึงไม่ได้โอนเงินจำนวนดังกล่าวไป จึงจ้างช่างข้างนอกมาปรับพื้นที่ด้วยตัวเองในราคา 70,000 บาท โดยพูดคุยและมีสัญญาการสร้างบ้านและจะส่งมอบภายในช่วงเดือนพฤศจิกายน 65 ต่อมาเมื่อถึงกำหนดเวลาส่งมอบบ้าน กลับไม่ได้บ้านที่สั่งไว้ จึงโทรไปสอบถามกับทาง น.ส.ยุ้ย แต่กลับได้รับคำตอบว่า บ้านยังไม่เสร็จ ขอเลื่อนกำหนดส่งไปเป็นช่วงเดือนธันวาคม 65 แต่พอถึงกำหนดส่งเดือนธันวาคม ก็ยังไม่เสร็จ และ น.ส.ยุ้ย ขอเลื่อนไปอีกเป็นเดือนมกราคม 66 พอถึงกำหนดส่งบ้านก็ยังไม่เสร็จอีก น.ส.ยุ้ยอ้างว่า ช่างไม่ว่าง ช่างไม่สบายบ้าง ช่างเป็นโควิดบ้าง จึงได้เดินทางไปที่ออฟฟิศของ น.ส.ยุ้ย ที่คลอง 8 หน้าตลาดวิลล่า แต่ก็ไม่พบ น.ส.ยุ้ย พบแต่คนดูแลออฟฟิศ พอถามถึงคนดูแลก็บอกไม่ทราบว่า น.ส.ยุ้ยไปไหน สังเกตถึงความผิดปกติและคิดว่าโดนหลอกแน่ๆ จึงโทรไปหา น.ส.ยุ้ย และสอบถามถึงบ้านที่สั่ง และหากว่ายังไม่ได้รับบ้านที่สั่งตนจะไปแจ้งความ แต่ น.ส.ยุ้ย กลับพูดท้าทายว่าให้ไปแจ้งความ ไม่กลัวหรอก ต่อมาวันที่ 14 ก.พ.66 จึงเดินทางไปแจ้งความที่ สภ.หนองเสือ แต่ตำรวจกลับไม่รับแจ้งความ
นายสนั่นศิลป์ เล่าต่ออีกว่า หลังจากตำรวจ สภ.หนองเสือ ไม่รับแจ้งความแล้ว ตนจึงได้ติดต่อผู้เสียหายทั้งหมดที่โดนหลอกในลักษณะเดียวกัน 15 คน ไปยื่นหนังสือร้องทุกข์ที่กระทรวงยุติธรรม เมื่อวันที่ 28 ก.พ.66 ต่อมาเมื่อวันที่ 2 มี.ค.66 ได้รวมตัวผู้เสียหายที่ติดต่อตนเข้ามาทั้งหมด 5 คน ไปแจ้งความที่ สภ.หนองเสือ อีกครั้ง โดยทั้ง 5 คน ได้สั่งซื้อบ้านน็อกดาวน์จากเพจดังกล่าว และได้ติดต่อกับ น.ส.ยุ้ย ทุกคน ในราคาบ้านหลังละ 2-5 แสนบาท รวมความเสียหายแล้วกว่า 6 ล้านบาท และมีผู้เสียหายอีกรายที่ติดต่อซื้อบ้านกับ น.ส.ยุ้ย และ น.ส.ยุ้ยได้บอกว่าจะต้องรื้อบ้านหลังเก่าออกเพื่อปรับพื้นที่ และได้ให้ทีมช่างของบริษัทเข้ามารื้อบ้านหลังเก่าออก จนตอนนี้บ้านที่คุณส้มซื้อกับ น.ส.ยุ้ย ก็ยังไม่ได้ แถมบ้านหลังเก่าก็ถูกรื้อ จนตอนนี้ไม่มีที่อยู่จนต้องออกไปหาเช่าบ้านอยู่แทน
ด้านนายนที อายุ 34 ปี อาชีพพนักงานบริษัท เล่าว่า ได้ติดต่อซื้อบ้านน็อกดาวน์ในเพจดังกล่าวผ่าน น.ส.ยุ้ย เช่นกัน เมื่อวันที่ 27 พศจิกายน 64 ในราคา 325,000 บาท แต่บ้านของตนอยู่ในพื้นที่น้ำท่วม น.ส.ยุ้ย จึงแนะนำให้สร้างฐานยกสูงในราคา 180,000 บาท โดยโอนค่าก่อสร้างฐานดังกล่าวจำนวน 2 งวด งวดแรกโอนผ่านบัญชี นายรังสิมันตุ์ จำนวน 100,000 บาท และงวดที่สอง โอนผ่านบัญชีชื่อบริษัท จำนวน 179,000 บาท ในเวลาต่อมา น.ส.ยุ้ย ได้ให้ช่างเข้ามาก่อสร้างฐานยกสูงที่ตกลงกันไว้ จนตอนนี้ก็ยังก่อสร้างฐานไม่เสร็จ ก่อนหน้านี้ตนก็เคยซื้อบ้านน็อกดาวน์และถูกหลอกมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ไม่ใช่บริษัทนี้ พอจะซื้อบ้านหลังนี้ ต้องเอารถยนต์ไปขายเพื่อนำเงินมาจ่ายค่าบ้าน ตอนนี้ก็ต้องไปเช่าบ้านอยู่เหมือนกัน เพราะบ้านที่สั่งไว้กับ น.ส.ยุ้ย ก็ไม่ได้ ก่อนหน้านี้เคยติดต่อไปที่ น.ส.ยุ้ย เพื่อสอบถามถึงบ้านที่สั่งไว้ แต่ก็ได้รับการบ่ายเบี่ยงตลอดมา โดยอ้างว่าช่างไม่พอบ้าง ช่างไม่สบายบ้าง ช่างเป็นโควิดบ้าง จนมาจนถึงตอนนี้ไม่สามารถติดต่อ น.ส.ยุ้ยได้เลย แค้นใจมาก
ด้านทนายโป้ง หรือนายเกียรติคุณ ต้นยาง ประธานชมรมทนายจิตอาสา กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า เรื่องดังกล่าวน่าจะเป็นควมผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ในการนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ และจากข้อมูลมีการโอนเงินก็จะเข้าข่ายในเรื่องของการฉ้อโกงด้วย ส่วนเรื่องมูลค่าความเสียหายหลังจากนี้ทางผู้เสียหายจะรวบรวมพยานหลักฐานเข้าแจ้งความที่ สภ.หนองเสือ และตนได้ประสานกับทางร้อยเวรเจ้าของคดีแล้ว นัดหมายทางผู้เสียหายเข้าให้ปากคำในวันที่ 4 มี.ค.นี้ ทางพนักงานสอบสวนจะได้รวบรวมข้อมูลเพื่อขออนุมัติหมายศาลในเรื่องของการปิดเพจดังกล่าวไปก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้มีผู้ตกเป็นเหยื่อรายอื่นอีก และจะอายัติบัญชีธนาคารดังกล่าวเพื่อตรวจสอบว่าเป็นบัญชีม้าหรือไม่ ส่วนเรื่องการฉ้อโกงประชาชนนั้น จะต้องดูว่ามีผู้เสียหายกี่คน อยากฝากไปถึงผู้การปทุมธานี, ผกก.สภ.หนองเสือ,พนักงานสอบสวน สภ.หนองเสือ ช่วยเร่งดำเนินการคดีดังกล่าวเพราะถือว่าเป็นเรื่องใหญ่มาก คดีนี้มีผู้เสียหายหลายคน มูลค่าความเสียหายหลายล้านบาท จะต้องจับตัวคนผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้ เพื่อจะได้ไม่มีผู้เสียหายเพิ่มเติมนอกจากนี้อีก. – สำนักข่าวไทย