มะนิลา 25 ก.พ. – ผู้ประท้างในฟิลิปปินส์จัดการชุมนุมในวันนี้ เพื่อรำลึกวาระครบรอบ 37 ปีของเหตุการณ์ที่ประชาชนลุกฮือขึ้นโค่นล้มผู้นำเผด็จการของฟิลิปปินส์ในขณะนั้น ซึ่งก็คือการขับประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส ซีเนียร์ ออกจากตำแหน่ง ทำให้ครอบครัวมาร์กอสต้องอพยพไปอยู่ต่างประเทศ
การรำลึกเหตุการณ์ดังกล่าว จัดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่นายเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ซึ่งเป็นบุตรชาย ชนะการเลือกตั้งและได้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว นายมาร์กอส จูเนียร์ ยกย่องการบริหารประเทศเป็นเวลา 20 ปีของบิดา ในขณะที่นักวิจารณ์ทางการเมืองกล่าวว่า เป็นยุคมืดของการละเมิดสิทธิมนุษยชนและการทุจริตจนทำให้ประเทศเกิดความยากจน
การชุมนุมในวันนี้ มีผู้ประท้วงเข้าร่วมหลายร้อยคน ซึ่งรวมถึงผู้รอดชีวิตจากการใข้กฎอัยการศึกของนายมาร์กอส ซีเนียร์ ในการจัดการกลับฝ่ายตรงข้าม ซึ่งนำไปสู่การทารุณกรรมและจำคุกศัตรูททางการเมืองและผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลในขณะนั้น ผู้ประท้วงเดินขบวนไปที่อนุสาวรีย์ “พลังประชาชน” ในกรุงมะนิลา เพื่อรำลึกเหตุการณ์ดังกล่าว ในขณะที่มีตำรวจ 200 นายคอยดูแลความเรียบร้อย นายมาร์กอส จูเนียร์ ส่งพวงมาลาทำด้วยดอกไม้สีขาวไปที่อนุสาวรีย์เพื่อร่วมรำลึกเหตุการณ์ดังกล่าว นายมาร์กอส จูเนียร์ ยังออกแถลงการณ์ รำลึกถึงผู้ที่อุทิศตัวและการก้าวผ่านเหตุกรณ์ไปสู่ความสามัคคีและเป็นประเทศที่แข็งแกร่งกว่าเดิม นอกจากนั้น เขายังขอยื่นมือเพื่อขอแสดงความปรองดองกับผู้ที่มีความเห็นต่างทางการเมือง ให้มาร่วมมือกันเป็นหนึ่งเพื่อสร้างสังคมที่ดีกว่าเดิม.-สำนักข่าวไทย