ศาลฎีกา 23 ก.พ. – ทนายเผย “ประหยัด” สู้คดีต่อ รอยื่นอุทธรณ์ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา ยืนยันเจตนาไม่ได้ปกปิดบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน
นายเอนก คำชุ่ม ทนายความของนายประหยัด พวงจำปา อดีตรองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. จำเลยในคดียื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จ เปิดเผยภายหลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษาว่า ศาลชี้ 2 ส่วน คือ กระบวนการตรวจสอบและการไต่สวนของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชอบด้วยกฎหมาย และการออกระเบียบที่เกี่ยวข้องเป็นอำนาจของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่สามารถส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดดำเนินการฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
ส่วนเรื่องบัญชีเงินฝากของนางธนิภา พวงจำปา ภรรยา ที่พ่วงกับบัญชีออมทรัพย์ ซึ่งศาลได้วินิจฉัยแล้วว่านายประหยัดไม่ได้มีเจตนาที่จะปกปิด ส่วนเรื่องหุ้นในบริษัทปาล์ม บิช คอร์ปอเรชัน จำกัด 2 ล้านบาท เป็นกิจการในครอบครัว แม้จะเคยมีชื่อนางธนิภา แต่ได้มีการออกจากการถือหุ้นไปแล้ว ไม่ได้มีการเกี่ยวข้องหรือได้รับผลประโยชน์ใด
ส่วนเรื่องห้องชุดที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ นางธนิภาถือครองกรรมสิทธิ์แทนบุคคลอื่นหรือไม่นั้น มีข้อเท็จจริงที่หลากหลายที่จะนำมาวินิจฉัย และสรุปว่านางธนิภาเป็นเจ้าของห้องชุดดังกล่าว ซึ่งมีจำนวนเงินที่ซื้อห้องชุดสูง และศาลวินิจฉัยว่านางธนิภาไม่ได้แจ้ง และนายประหยัดไม่ได้ยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินในส่วนนี้
ตามที่ได้ยืนยันในการสู้คดีมาโดยตลอดนั้น ย้ำว่าทางนายประหยัดไม่ได้รับทราบในการทำธุรกิจในส่วนของนางธนิภาและครอบครัว โดยเฉพาะทรัพย์สินดังกล่าวไม่ได้อยู่ในชื่อของนายประหยัด และหากนางธนิภาแจ้งมาอย่างไรก็เชื่ออย่างนั้น แต่เมื่อศาลเชื่อว่านายประหยัดน่าจะรู้ก่อน จึงวินิจฉัยว่าจงใจปกปิดบัญชีทรัพย์สิน ศาลจึงมีคำพิพากษาว่า มีความผิดตามคำฟ้อง แต่ให้รอลงโทษทางอาญา 1 ปี
ส่วนกระบวนการหลังจากนี้ ทีมทนายจะต้องรอคำพิพากษา แต่แนวโน้มของนายประหยัดจะต่อสู้คดีต่อไป เพื่อให้สิ้นกระแสความทั้งหมด พร้อมย้ำว่านายประหยัดเชื่อตามข้อเท็จจริงที่ได้รับทราบจากภรรยา และเชื่อโดยสุจริตใจว่าตนเองไม่ได้ปกปิดบัญชีทรัพย์สินฯ
ส่วนคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดที่มีคำสั่งคุ้มครองที่เกี่ยวกับมติของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ของนายประหยัดนั้น แยกเป็นคนละส่วน ซึ่งจะต้องนำมาพิจารณารายละเอียดในการต่อสู้คดีครั้งหนึ่ง.-สำนักข่าวไทย