กรุงเทพฯ 9 ก.พ.- ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย คาดเศรษฐกิจไทยในปี 66 เติบโต ร้อยละ 3.7 จากนักท่องเที่ยวไหลเข้าไทย ผลักดันการบริโภคและการใช้จ่ายภายในประเทศ
นายเอ็นริโก้ ทานูวิดฮาฮา นักเศรษฐศาสตร์ Global Economic and Market Research ธนาคารยูโอบี เปิดเผยว่า นักท่องเที่ยวจากจีน เริ่มกลับเข้าไทย หลังโควิด-19 คลี่คลาย ส่งให้ภาคธุรกิจท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัว เมื่อนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น จึงช่วยกระตุ้นการบริโภคและการใช้จ่ายในประเทศ คาดว่า เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ร้อยละ 3.7 และอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยร้อยละ 2.7 ในช่วงครึ่งปีแรก ในปี 2565 อัตราเงินเฟ้อของไทยขยับขึ้นไปจุดสูงสุด ก่อนทยอยปรับลดลงในช่วงปลายปีที่ผ่านมา เพราะราคาพลังงานลดลงต่อเนื่อง
สำหรับปี 2566 ยูโอบีประเมินว่าอัตราเงินเฟ้อ ประมาณร้อยละ 2.7 โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไป (headline inflation) อาจขึ้นไปแตะร้อยละ 3.9 ในช่วงครึ่งปีแรก และคงค่าเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ1.5 ในช่วงครึ่งปีหลัง จากความต้องการบริโภคที่ลดลง ราคาพลังงานและราคาสินค้าทั่วโลกทรงตัว ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง คาดการณ์อัตราเงินเฟ้อ นับว่าสอดคล้องกับค่าเฉลี่ยของธนาคารแห่งประเทศไทย ประเมินอยู่ที่ร้อยละ 2-3
ส่วน ค่าเงินบาท ยูโอบีประเมินว่าในปีนี้ ค่าเงินบาทจะอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลอื่นในภูมิภาคเอเชีย และดอลลาร์สหรัฐ จากปัจจัยต่างๆเช่น การใช้นโยบายการเงินอย่างผ่อนปรนและยืดหยุ่นของ ธปท. รวมถึงดอกเบี้ยทั่วภูมิภาคยังอยู่ในระดับต่ำ และความไม่แน่นอนของสถานการณ์โลก ส่วนดุลบัญชีเดินสะพัด คาดว่าจะกลับมาเกินดุลอีกครั้งที่ร้อยละ 2.8 ของจีดีพี ทำให้ค่าเงินบาทอ่อนตัวและเคลื่อนไหวอยู่ที่ 35 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯในช่วงครึ่งปีแรก และกลับมาแข็งค่าอยู่ที่ 33 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐในไตรมาสสุดท้าย.-สำนักข่าวไทย