กรุงเทพฯ 22 เม.ย.-ยูโอบี แนะนำกระจายการลงทุนเพื่อก้าวผ่านผลกระทบของความขัดแย้งระหว่างอิหร่านและอิสราเอล ลงทุนหลายสินทรัพย์และตราสารหนี้คุณภาพดี
นายกิดอน เจอโรม เคสเซล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผลิตภัณฑ์เงินฝากและบริหารการลงทุนบุคคลธนกิจ ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย ระบุจากความขัดแย้งในตะวันออกกลางที่มีการโจมตีกันระหว่าง อิหร่าน-อิสราเอล นักลงทุนควรระมัดระวังในการลงทุนเพิ่มขึ้น และคาดว่าตลาดจะยังผันผวนในระยะสั้น ผลกระทบคือราคาน้ำมันที่สูงขึ้นจากความเสี่ยงของการหยุดชะงักของอุปทานน้ำมันจากตะวันออกกลาง หากอิหร่านปิดกั้นช่องแคบฮอร์มุซ อาจทำให้เกิดความเสียหายได้ 21 ล้านบาร์เรลต่อวันหรือประมาณ 21% ของการบริโภคทั่วโลก ความไม่แน่นอนทำให้นักลงทุนมองหาสินทรัพย์ปลอดภัย เป็นปัจจัยหนุนต่อราคาทองคำ พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ (UST) และเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD)
“การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของราคาน้ำมันอาจส่งผลต่ออัตราเงินเฟ้อและทำให้การลดอัตราดอกเบี้ยล่าช้าออกไป อย่างไรก็ตาม ภาวะการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นเพียงช่วงสั้นๆ และความเชื่อมั่นของตลาดก็คาดว่าจะกลับมามีเสถียรภาพได้อีกครั้ง หากความขัดแย้งไม่บานปลาย คำแนะนำควรทบทวนพอร์ตการลงทุน เพื่อพิจารณาความเสี่ยงว่ามีการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงที่กระจุกตัวมากเกินไปหรือไม่ มุ่งเน้นไปที่การบรรลุเป้าหมายทางการเงินในระยะยาวโดยการสร้างพอร์ตการลงทุนที่แข็งแกร่ง ผ่านสินทรัพย์กลุ่ม Core Investment กระจายการลงทุนในหลายสินทรัพย์ (Multi-Asset) ที่มีการลงทุนหลากหลายสินทรัพย์ , ภูมิภาค และอุตสาหกรรม เพื่อลดความผันผวนของพอร์ตการลงทุน”ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ยูโอบี ประเทศไทย ระบุ
ทั้งนี้ ควรพิจารณากองทุนตราสารหนี้และตราสารหนี้คุณภาพดี (Investment Grade) ที่จะช่วยสร้างความมั่นคงให้กับพอร์ตการลงทุนในช่วงตลาดผันผวน ตราสารหนี้ยังมีอัตราผลตอบแทนที่น่าสนใจและมีโอกาสได้กำไรด้านราคา หากธนาคารกลางเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปลายปีนี้ และนักลงทุนที่สามารถยอมรับความเสี่ยงได้ ลองพิจารณาธีมการลงทุนด้านการดูแลสุขภาพระดับโลก (Global Healthcare) , เอเชีย ยกเว้นญี่ปุ่น และอาเซียน และสามารถทยอยสะสมการลงทุนในหุ้นคุณภาพดีที่มีการเติบโต (quality growth) และหุ้นปันผล ในช่วงที่ตลาดปรับตัวลง
ล่าสุด ยูโอบีเปิด ฟีเจอร์ Wealth ใน UOB TMRW จะช่วยให้นักลงทุนสามารถซื้อ-ขาย-สับเปลี่ยนกองทุนรวมได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น สามารถจัดการความมั่งคั่งผ่านโทรศัพท์มือถือ เปิดตั้งแต่วันที่ 23 เมษายน 2567 เป็นต้นไป นักลงทุนจะสามารถเข้าถึงกองทุนต่างประเทศได้โดยตรง ทำให้สามารถลงทุนโดยตรงในกองทุนรวมที่เป็นสกุลเงินต่างประเทศจากบริษัทจัดการกองทุนที่มีชื่อเสียงถึง 14 แห่ง .-511 สำนักข่าวไทย