กรุงเทพฯ 7 ก.พ.- สมาคมผู้ค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับ ประกาศความพร้อมจัดงาน Thailand Gems & Jewelry Fair 2023 หวังดัน “พลอยไทย” ให้เป็น Soft Power
สมาคมผู้ค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับ (TGJTA) และสมาพันธ์อัญณี เครื่องประดับ และโลหะมีค่าแห่งประเทศไทย (GJPCT) ประกาศความพร้อมจัดงาน Thailand Gems & Jewelry Fair 2023 งานแสดงอัญมณีและเครื่องประดับนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน ณ อิมแพคชาเลนเจอร์เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 22 – 26 กุมภาพันธ์ 2566 หวังดัน “พลอยไทย” ให้เป็น Soft Power ใหม่คู่คนไทย สนับสนุนและสร้างประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการค้าและการลงทุนในธุรกิจอัญมณีและเครื่องประดับนานาชาติ โดยปัจจุบันอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับเป็นอุตสาหกรรมหลักของประเทศ และไทยยังถือเป็น “เมืองหลวงแห่งอัญมณี” สำหรับคู่ค้าทั่วโลก เป็นแหล่งการค้าที่ผู้ค้าจากทั่วโลกนึกถึงเป็นอันดับแรก จึงนำไปสู่แนวคิดการสร้าง Soft Power “พลอยไทย” ขยายความนิยมสู่นักท่องเที่ยวและบุคคลทั่วไปในระดับนานาชาติ
นายยุทธศักดิ์ สุกสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ภาพรวมของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในปัจจุบัน มีการแข่งขันกันในระดับสูง แต่ละประเทศได้ยกระดับการแข่งขันด้วยการเน้นแสดงให้เห็นถึงจุดเด่น Soft Power และ Cultural Experience อัญมณีและเครื่องประดับไทย เป็นหนึ่งใน soft Power ที่สามารถช่วยพัฒนาเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของประเทศไทยได้ โดยประเทศไทยเป็นผู้ผลิตต้นน้ำและเป็นผู้คิดค้นนวัตกรรมที่สร้างงานให้กับแรงงานกว่าล้านคน มียอดส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับที่สร้างรายได้เป็นอันดับ 3 ของไทย มีมูลค่าการส่งออกถึงปีละ 5 แสนล้านบาท การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจึงได้ร่วมสนับสนุน จัดงาน “เทศกาลซื้ออัญมณีและเครื่องประดับไทย Thailand Gems & Jewelry Fair” โดยจะสร้างให้เป็นเทศกาลที่เกิดขึ้นในสัปดาห์ที่ 4 ของเดือนกุมภาพันธ์ในทุกๆ ปี เพื่อสนับสนุนให้นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกสามารถเข้ามาเลือกซื้ออัญมณีที่มีคุณภาพดีที่สุด หรือ “พลอยไทย” พร้อมสร้าง Soft Powerเสริมแกร่งให้การท่องเที่ยวไทยอย่างยั่งยืน ซึ่งผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ยังได้ให้สัญญาว่าจะพาลูกค้าเข้ามาซื้อพลอยไทย
นายสมชาย พรจินดารักษ์ ประธานสมาพันธ์อัญมณีเครื่องประดับและโลหะมีค่าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ความพิเศษของงานในครั้งนี้จะมีการเปิดตัว “มาตรฐานราคาอ้างอิงพลอยสี” ซึ่งได้ใช้เวลาวิจัยและพัฒนามากว่า 4 ปี ร่วมกับ NGTC ที่เป็นหน่วยงานด้านอัญมณีที่สำคัญที่สุดของจีน โดยประเทศจีนจะประกาศใช้อย่างเป็นทางการ ซึ่งมาตรฐานราคานี้จะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้แก่ผู้ซื้อและสร้างเสถียรภาพให้แก่ตลาด โดยในระยะยาวสมาพันธ์ฯ มุ่งหวังผลลัพธ์ที่จะยกระดับ Asset Class ของพลอยสีให้เทียบเท่าเพชรและทองคำ และจากการสนับสนุนของกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา และ ททท. จะช่วยขยายฐานผู้ซื้อจากเดิม B2B ไปสู่นักท่องเที่ยวและชาวต่างชาติทั่วโลกอีกด้วย
นางสาวพรทิวา นิพาริน นายกสมาคมผู้ค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับ กล่าวว่า อัญมณีและเครื่องประดับเป็นอุตสาหกรรมของไทยที่แข็งแกร่งต่อเนื่องมายาวนาน เป็นสินค้าส่งออกอันดับ 3 ของประเทศ นอกจากความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจแล้ว ลักษณะของอุตสาหกรรมยังมีความชับซ้อน เป็นการผสมผสานของศาสตร์และศิลป์ ที่ยากต่อการสร้างเป็นอัลกอริทีม AI ไม่สามารถมาทดแทนได้ อุตสาหกรรมนี้จึงเป็นส่วนสำคัญมากสำหรับอนาคตของเศรษฐกิจไทย “เทศกาลซื้ออัญมณีและเครื่องประดับไทย Thailand Gems & Jewelry Fair 2023” จะ สร้างโอกาสให้คู่ค้าและผู้คนทั่วโลกได้ซื้อพลอยสีที่คุณภาพดีที่สุดโดยตรงจากผู้ผลิตในไทย นึกถึงพลอยสี นึกถึง “พลอยไทย” และคาดว่านี้ จะสร้างมูลค่าการส่งออกไม่ต่ำกว่าแสนล้านบาท
งานในครั้งนี้ผู้เข้าชมจะได้พบกับโซนใหม่ “The Lux” ที่สุดแห่งความหรูหรากับที่สุด 7 บริษัทชั้นนำของโลก ที่จะมาแสดงทั้งอัญมณีล้ำค่า และเครื่องประดับสุดอลังการ และยังมีผู้ผลิตกว่า 1,000 บูทในโซนพลอยสี, เพชร,เครื่องประดับทอง, เครื่องประดับเงิน, เครื่องจักรและอุปกรณ์การผลิต และนอกจากนี้ยังจะได้พบกับผู้ผลิตโดยตรงจาก ฮ่องกง จีน ศรีลังกา ตุรกี แทนซาเนีย สิงคโปร์ โปแลนด์ เกาหลี เมียนม่าและอีกนานาประเทศ
สำหรับงาน “เทศกาลซื้ออัญมณีและเครื่องประดับไทย Thailand Gems & Jewelry Fair 2023” มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22 – 26 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 10.00 – 18.00 น. ณ อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี เปิดให้บุคคลทั่วไปสามารถเข้าชมได้โดยไม่มีค่าเข้างาน -สำนักข่าวไทย
