กรุงเทพฯ 26 ม.ค.- รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุทยานฯ ชี้ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการแก้ปัญหาการแต่งตั้งโยกย้ายไม่เป็นธรรมเป็นคำสั่งแรก พร้อมเร่งฟื้นและปลุกขวัญกำลังใจข้าราชการและเจ้าหน้าที่ทุกนาย ย้ำการใช้งบประมาณต้องสุจริตโปร่งใส เดินหน้าปกป้องรักษาป่าและสัตว์ป่าควบคู่กับการช่วยเหลือและแก้ปัญหาให้ประชาชน
นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งและรักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชกล่าวว่า ได้ลงนามในคำสั่งแต่งตั้ง “คณะกรรมการแก้ไขปัญหาการแต่งตั้งโยกย้ายในกรมอุทยานฯ ที่ไม่เป็นธรรม” เป็นคำสั่งแรก โดยคณะกรรมการจะทบทวนการแต่งตั้งโยกย้ายทุกคำสั่งเพื่อพิจารณาว่า เป็นไปตามระเบียบและเป็นธรรมหรือไม่ ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าจะเปลี่ยนตัวผู้ดำรงตำแหน่งทุกคนตามคำสั่งเดิม แต่จะพิจารณาถึงความเหมาะสมในการทำหน้าที่ในตำแหน่งนั้นๆ ที่สำคัญคือ ผู้ที่ถูกโยกย้ายไม่เป็นธรรมจะต้องได้รับความช่วยเหลือและแก้ไขให้ถูกต้องเหมาะสม
ส่วนที่นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) ผู้ร้องต่อ ป.ป.ช. เกี่ยวกับการเรียกรับเงินแลกกับการแต่งตั้งโยกย้ายซึ่งระบุว่า ขณะนี้ยังมีการข่มขู่หัวหน้าหน่วยงานต่างๆ อยู่นั้น ได้พูดคุยกับนายชัยวัฒน์แล้ว ยืนยันว่าการแต่งตั้งโยกย้ายแบบไม่เป็นธรรมจะไม่เกิดขึ้น นายชัยวัฒน์ได้แจ้งว่า พร้อมจะร่วมทำงาน
สำหรับการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการทุจริตและซื้อขายตำแหน่งเป็นเรื่องทางคดีที่ตำรวจและ ป.ป.ช. ดำเนินการอยู่ เช่นเดียวกับที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดำเนินการสอบสวนทางวินัยร้ายแรง
ในการจัดสรรและใช้จ่ายงบประมาณของกรมอุทยานฯ จะต้องเป็นไปด้วยความสุจริตโปร่งใส ยืนยันจะไม่มีการเรียกเก็บเงินเปอร์เซ็นต์จากงบประมาณของหน่วยงานในสังกัดกรมอย่างที่มีการร้องเรียนก่อนหน้านี้แน่นอน จะใช้งบประมาณทุกบาทเพื่อปกป้องทรัพยากรธรรมชาติและประโยชน์ของประชาชน
นายอรรถพล กล่าวว่า จะเร่งฟื้นและปลุกขวัญกำลังใจของข้าราชการและเจ้าหน้าที่ทุกคน เพื่อให้สามารถปฏิบัติงานปกป้องดูแลรักษาป่าและสัตว์ป่าอย่างมีประสิทธิภาพ กอบกู้ภาพลักษณ์ของกรมอุทยานฯ กลับมา รวมถึงดูแลสวัสดิการของเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะพนักงานพิทักษ์ป่าซึ่งทำหน้าที่ลาดตระเวนอย่างเสี่ยงภัย ตามที่นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงฯ มอบนโยบายไว้
พร้อมกันนี้ย้ำว่า ตำแหน่งรักษาราชการอธิบดีกรมอุทยานฯ นั้น มีอำนาจเต็มเหมือนอธิบดี จึงจะเข้ามาสะสางปัญหาที่เกิดขึ้น โดยไม่มีความกดดัน ภายในสัปดาห์หน้าจะต้องมีความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นภายในกรมอุทยานฯ
สำหรับการดำเนินงานตามภารกิจของกรมอุทยานฯ จะต้องทำควบคู่กันไปทุกด้านเช่น การป้องกันและแก้ปัญหาไฟป่าในฤดูแล้ง รวมถึงปัญหาเร่งด่วนที่ต้องช่วยเหลือประชาชนด้วยได้แก่ การแก้ปัญหาช้างป่าออกหากินนอกพื้นที่ป่าอนุรักษ์ การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากช้างป่า การแก้ไขปัญหาที่ดินเพื่ออยู่อาศัยและทำกินในพื้นที่ป่าอนุรักษ์เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ไม่มีที่ดินทำกิน ให้สามารถอยู่อาศัยและทำกินในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยกรมอุทยานฯ จะทำหน้าที่ดูแล ปกป้อง คุ้มครอง และอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติป่าไม้และสัตว์ป่าให้คงอยู่อย่างสมดุลและยั่งยืน.-สำนักข่าวไทย