fbpx

ปิดสวิตช์ส.ว.-หยุดแก้รธน.เอื้อ “พล.อ.ประยุทธ์”อยู่ยาว

พรรคเพื่อไทย 17 ม.ค.-วงเสวนาเพื่อไทย เห็นพ้อง “พล.อ.ประยุทธ์” ไม่ควรไปต่อ ย้ำต้องปิดสวิตซ์ ส.ว. หยุดข้อเสนอแก้รธน.เอื้ออยู่ยาว


พรรคเพื่อไทยจัดเสวนา  “ประเทศไทยต้องไปต่อ แต่ประยุทธ์ต้องพอเถอะ” นำโดย นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี และนายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย โดยนายจาตุรนต์ กล่าวว่า สิ่งที่ประชาชนอยากเห็นที่สุด คือการเลือกตั้งครั้งต่อไปเป็นไปอย่างบริสุทธิ์ ยุติธรรม รวมถึงมีผู้นำที่ทุกคนยอมรับ ซึ่งอุปสรรคสำคัญคือเสียงสนับสนุนจากสมาชิกวุฒิสภา 250 เสียงที่มีอำนาจเลือกนายกรัฐมนตรีได้ ดังนั้น การปิดสวิตช์ส.ว.คือสิ่งที่ควรจะทำเพื่อให้มีประชาธิปไตยที่สมบูรณ์

นายจาตุรนต์ มองเจตนารมณ์พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่า ไม่ได้ต้องการอยู่ต่อเพียง 2 ปีตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเห็นได้จากความพยายามของส.ว.กลุ่มสนับสนุนพล.อ.เอกประยุทธ์ โยนหินถามทางต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปลดล็อกให้พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีได้อย่างไม่สิ้นสุด


นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ปัจจุบันเรามีรัฐบาลที่ไม่มีเสถียรภาพ ไม่เกิดการยอมรับจากประชาชน หาช่องแก้ไขกติกาให้ตัวเองได้เปรียบ อีกทั้งงูเห่ายังเต็มสภา ใช้อำนาจและเงินในทางที่ผิด ซึ่งปัญหาเหล่านี้ประชาชนสามารถหยุดได้จากการเลือกตั้ง ที่สำคัญต้องเลือกฝ่ายประชาธิปไตยให้ชนะ รวมถึงต้องเรียกร้องให้สมาชิกวุฒิสภาเห็นแก่บ้านเมือง ร่วมกันปิดสวิตช์ตัวเอง การแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้พล.อ.ประยุทธ์อยู่ต่อได้ไม่จำกัด ต้องไม่เกิดขึ้น

“การส่งออกหยุดชะงัก โครงสร้างพื้นฐานมีปัญหา การคอร์รัปชั่นที่มากขึ้น ทุกปัญหาถูกสะสมและเลวร้ายมากขึ้นตลอดช่วง 8 ปีของพล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งหากพล.อ.ประยุทธ์ยังอยู่ เราจะไม่สามารถแก้ไขอะไรได้เลย และประเทศจะเกิดทางตัน ประเทศไทยต้องเปลี่ยนรัฐบาล ต้องเปลี่ยนผู้นำประเทศ และคำว่า “ประยุทธ์” นั้นหมายถึงองคาพยพที่ร่วมกันทำรัฐประหาร พรรครวมไทยสร้างชาติ รวมแต่บุคคลที่เคยชัตดาวน์กรุงเทพฯ ส่วนคนที่กำลังเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญยืดอายุให้พล.อ.ประยุทธ์คือพวกที่ได้ดีจากพล.อ.ประยุทธ์ ฉะนั้น การต่ออายุให้พล.อ.ประยุทธ์จะทำให้ประเทศเกิดหายนะยกกำลังสอง ต้องหยุดกระบวนการเหล่านี้” นายจาตุรนต์ กล่าว

นายชูศักดิ์ กล่าวว่า การที่พล.อ.ประยุทธ์ประกาศที่เวทีเปิดตัวและเป็นสมาชิกกับพรรครวมไทยสร้างชาติ ว่า ประเทศไทยต้องไปต่อ ซึ่งตนตีความว่า พล.อ.ประยุทธ์คิดว่าตัวเองคือประเทศไทย ดังนั้น ถ้าจะไปต่อตัวพล.อ.ประยุทธ์ ต้องเป็นคนพาไปต่อพร้อมกับการที่ตัวเองจะต้องเป็นนายกรัฐมนตรี  ซึ่งหากย้อนไปเมื่อปี 2557 พล.อ.ประยุทธ์ได้ยึดอำนาจการปกครองประเทศจากรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยการยึดอำนาจปกครองประเทศแท้จริงแล้วคือกบฏ เพราะคนที่ยึดอำนาจเมื่อทำสำเร็จก็จะนิรโทษกรรมความผิดให้ตนเองว่าการกระทำของตนเองไม่ผิด ลงโทษไม่ได้ ซึ่งพรรคเพื่อไทยจะแก้ไขปัญหานี้ โดยเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า 1.การยึดอำนาจการปกครองประเทศ ต้องไม่มีอายุความ 2.ก้ามนิรโทษกรรม และให้ยึดถือเป็นธรรมเนียบการปกครองประเทศ


นายชูศักดิ์ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ตั้งตนเองเป็นนายกรัฐมนตรี และแต่งตั้งองคาพยของตัวเองขึ้นมาเป็น สนช. คำถามคือ สนช.เป็นสภาเดียวออกกฎหมายอิง ม.44 แล้วระบุว่าเอามาปฏิรูปประเทศ  คำถามคือ ตอนนี้ปฏิรูปประเทศไปถึงไหน คำตอบคือ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เราไม่เห็นเรื่องการปฏิรูปประเทศ และเมื่อมีส.ว.กลับพบว่า มีกฎหมายค้างอยู่ในสภา โดยเฉพาะพ.ร.บ.การศึกษา ซึ่งทำท่าจะไปไม่รอด ฉะนั้น การเขียนในท้ายรัฐธรรมนูญว่าจะปฏิรูปการเมือง ความจริงนั้นสวนทางกัน เพราะนับวันยิ่งเลวลง และมีความแปลก เป็น ส.ส.พรรคหนึ่ง แต่ไปโหวตให้อีกพรรคหนึ่งและมานั่งอยู่ในสภา ถึงเวลาก็โหวตให้รัฐบาล เท่ากับว่า ปฏิรูปการเมือง ปฏิรูประบบราชการล้มเลว ซึ่งไม่เคยเห็น” นายชูศักดิ์ กล่าว

“วันดีคืนดีไปจับ ค้นห้องข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในห้องทำงาน และเมื่ออ่านข่าวก็รู้สึกแปลกประหลาดสังเวช นายตำรวจระดับสูงไปยืนเข้าแถว มีพวงมาลัยคนละพวงใส่พานไปให้รัฐมนตรี เพื่อขอบคุณ ถามว่าการเมืองประเทศไทย เป็นเช่นนี้หรือ และหากไปดูอาจขัดรัฐธรรมนูญ เพราะไปเข้าข่ายแทรกแซงการทำงานของข้าราชการประจำ แปลว่าที่ผ่านมาปฏิรูปล้มเหลวถอดหลังลงคลอง “ นายชูศักดิ์ กล่าว

นายชูศักดิ์ กล่าวถึง การจัดทำรัฐธรรมนูญว่า กว่าจะได้มาต้องจัดทำ 2 รอบ และเพื่อให้สง่างามจึงไปทำประชามติ แต่กลับเลวร้ายที่สุด รณรงค์ไม่ได้ และมีคำถามพ่วงเพิ่มมาด้วย เท่ากับว่าการสร้างรัฐธรรมนูญเพื่อสืบทอดอำนาจให้ตัวเอง แต่สุดท้ายรัฐธรรมนูญที่เขียนมากลับสะดุดขาตัวเอง พร้อมมองว่า หาก พล.อ.ประยุทธ์ จะฉุดกระชากลากถูกประเทศแบบนี้ และคิดว่าตัวเองสำคัญ ประเทศไทยจะยิ่งดิ่งลง

“ผมรู้สึกแปลกว่าทำไมพล.อ.ประยุทธ์ มาประกาศตัว ทั้งที่ไม่รู้ว่าพรรคที่ไปสังกัดจะได้ ส.ส.ถึง25 ที่นั่งหรือไม่ แต่เมื่อไปย้อนดูจะรู้ว่าเมื่อการเลือกตั้งปี 62 พรรคเพื่อไทยมีคะแนนมาเป็นอันดับหนึ่ง แต่กลับมาถูกพรรคอันดับสอง รวมเสียงและจัดตั้งรัฐบาล ครั้งนี้ก็คงใช้แผนเดิมไปรวมคนจัดตั้งรัฐบาล และมีเสียง250 ส.ว. เพื่อนำพาประเทศไทยไปต่อ และการเมืองก็เป็นแบบนี้ เชื่อว่าในสภาฯ กล้วยน้ำว้าคงเต็มไปหมด”  ันพฤหัสที่ 19 มกราคม 2566” นายชูศักดิ์ กล่าว

นายชูศักดิ์ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยและพรรคฝ่ายค้านเสนอแก้ ม.272 เพื่อสกัดไม่ให้ส.ว.โหวตเลือกนายกฯ จากนั้นก็ปรากฎข่าวว่าจะมีการเสนอแก ม.158 เรื่องวาระการ ดำรงค์ตำแหน่งนายกฯ รวมถึงเรื่องคุณสมบัติ ของ ส.ส เรื่องการเว้นวรรคหลังพ้นตำแหน่ง ส.ว.2 ปี หากเป็นแบบนี้ตัวเองจะกลายเป็นยุคที่โกลาหล จึงไม่ควรใช้แผนอุบาทที่ทำอยู่

“เราจะแก้รัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยได้หรือไม่ คำตอบคือ ไม่ได้ ดูได้จากไม่เป็นไปตามนโยบายรัฐบาล  เพราะมีการสร้างรัฐธรรมนูญที่ผิดเพี้ยน เช่น การสร้างพรรคพลังประชารัฐ เพราะพล.อ.ประยุทธ์ ต้องการ และเสนอให้เป็นแคนดิเดตนายกฯ โดยไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคพปชร. แต่วันดีคืนดีคิดเปลี่ยน และไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองอื่น ทั้งที่พรรค พปชร.ก็ยังอยู่ สิ่งเหล่านี้ ไม่ควรจะเกิดขึ้น ดังนั้นจึงต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่มีส.ส.ร. แต่ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ ยังอยู่กระบวนการเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้น” นายชูศักดิ์ กล่าว

นายสุทิน กล่าวว่า มีหลายเหตุผลที่พล.อ.ประยุทธ์ ควรหยุด ตั้งแต่เรื่องข้อกฎหมายรัฐธรรมนูญที่ชี้ว่านายกฯ มีวาระดำรงตำแหน่ง 8 ปี ซึ่งทุกคนต้องปฏิบัติ ความจริงพลเอกประยุทธ์ ควรหยุดตั้งแต่เดือน ส.ค. 2565 แต่ในเมื่อไม่หยุดขอไปต่ออีก 2 ปี ควรคิดว่ามีประเทศอื่นใดบ้างที่นายกฯ อยู่ได้แค่ครึ่งเดียว จะบริหารนโยบายอย่างไร เผชิญวิกฤติความเชื่อมั่นอย่างไร

“สำหรับประเด็นสำนึกที่ดีซึ่งพล.อ.ประยุทธ์พยายามชูเรื่องการปฏิรูป แต่ตัวเองดำรงตำแหน่งมา 8 ปีแล้ว แต่กลับเปลี่ยนบรรทัดฐานไปเรื่อย ๆ เป็นการสร้างมรดกทางความคิดที่เลวร้ายให้คนรุ่นหลัง และเมื่ออ้างว่าเป็นผู้นำที่รักประชาชน ต้องดูด้วยว่าปฏิกิริยาของสังคมอยากไปต่อหรือไม่ ผมไม่เชื่อว่าพล.อ.ประยุทธ์ไม่รู้ว่าประชาชนเกลียดตัวเอง ถ้าเป็นสมัยอดีตผู้นำมีสิทธิไม่รู้เพราะลูกน้องทูลเท็จ แต่ทุกวันนี้มีโลกโซเชียลให้รู้ได้ แต่ไม่เคารพประชาชนเท่านั้นเอง เพราะมีบทเรียนมา 8 ปี จะค้านยังไงก็ช่าง ฉันเอาอยู่” นายสุทิน กล่าว

นายสุทิน กล่าวว่า ขณะที่สำนึกในความรักประเทศ ควรมาวัดเป็นเกณฑ์ว่า พล.อ.ประยุทธ์ควรอยู่ต่อหรือไป อยู่แล้วจะมีเรื่องดี ๆ หรือจะยุ่งเหยิงมีปัญหาเยอะ หากคิดได้ควรต้องหยุด แต่หากจะอยู่ต่อต้องลงทุนทำหลายประการ เช่น วางแผนทำพรรคเฉพาะกิน แบบสุกเอาเผากิน แทงเพื่อนหักพวก จะสร้างความเสียหายให้ประเทศ ไม่ดูบทเรียนจากพรรคพลังประชารัฐที่มาเป็นรัฐบาลเป็ดง่อยอย่างทุกวันนี้

“สมมติเอา ส.ว.หักได้เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย รัฐบาลจะอยู่ได้ไหม วันนี้ผมเชื่อว่าประธานสภาฯ เป็นซีกเพื่อไทยแน่นอน ถ้าทำให้เราเป็นฝ่ายค้าน ประธานฯ และเสียงส่วนใหญ่ในสภาฯ อยู่ทางเรา คุณจะเป็นรัฐบาลที่ถูลู่ถูกัง อ่อนเปลี้ยมาก จะผ่าน พ.ร.บ.ทีก็ต้องแจกกล้วยในสภาฯ” นายสุทิน กล่าว

นายสุทิน กล่าวว่า 4 ปีที่ผ่านมาประชาชนยังไม่จนหนักขนาดนี้ แต่กลับมาทุบความหวังเขา ทั้งยังมาแก้ไขกฎหมาย เอามือเขียนแต่ใช้อะไรลบ ตนมองว่าหายนะจะเกิดหากไม่รู้จักพอ ควรเสียสละคนเดียวให้แผ่นดินสงบ ดีกว่าโลภคนเดียวแล้วแผ่นดินลุกเป็นไฟ อายุเท่านี้แล้วควรคิดได้ มองตามหลักธรรมชาติ ดวงอาทิตย์มีขึ้นก็ต้องมีลง 12 ชั่วโมงต้องลง ไม่เช่นนั้นโลกจะไหม้เป็นจุล แม่น้ำลำธารแห้งแล้ง นี่คือหลักธรรมะ การกำหนดวาระ 8 ปี ก็มาจากสัจธรรมแห่งอำนาจเช่นนี้

“แม้รัฐบาลจะยุบสภาฯ หนีการอภิปราย 152 ความจริงจะถูกเผยจนได้ ไม่ในสภาฯ ก็นอกสภาฯ แม้จะหนีการอภิปรายพ้น ก็จะไปรับกรรมช่วงเลือกตั้ง และท้ายสุดประชาชนจะเป็นผู้หยุดตัดสิน ด้วยการทำงานของพรรคร่วมฝ่ายค้านที่ผ่านมา 4 ปี ทั้งนี้ยังต้องหยุดพรรคร่วมรัฐบาลที่เป็นหุ้นส่วนมาด้วยกัน ให้ออกไปด้วยกัน ใครบ้างนั้น เชื่อว่าประชาชนคิดเองได้” นายสุทิน กล่าว.-สำนักข่าวไทย   

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ชีวิตติดลบ! ชาวแม่สายจมน้ำจมโคลน 10 วันแทบหมดตัว

หลายชุมชนชายแดนแม่สาย เผชิญน้ำท่วมและจมโคลนมา 10 วันแล้ว อยู่ในสภาพแทบหมดตัว ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่กับชีวิตที่ต้องติดลบจากน้ำท่วมครั้งนี้

อาลัย “อดีตแข้ง U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา

วงการลูกหนังอาลัย “อดีตนักเตะ U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา ชาวบ้านเผยจุดนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อย ลงสะพานอย่าขับเร็ว

สอบเพิ่ม “ไอ้แม็ก” ฆ่าชิงทรัพย์หญิงขับโบลท์ ฝากขังพรุ่งนี้

ตำรวจคุมตัว “ไอ้แม็ก” สอบปากคำเพิ่มคดีฆ่าชิงทรัพย์โชเฟอร์สาวขับโบลท์ เจ้าตัวปฏิเสธไปชี้จุด อ้างปวดท้องไม่สบาย เตรียมฝากขังพรุ่งนี้