นนทบุรี 12 ม.ค. – นักธุรกิจหนุ่มเข้าให้ปากคำเพิ่มเติม หลังแจ้งความถูกขโมยของจากล็อกเกอร์ ขณะเข้าใช้บริการฟิตเนสในห้างฯ ย่านงามวงศ์วาน ทรัพย์สินสูญหายรวมกว่า 10 ล้านบาท
นายสาธิต อายุ 35 ปี นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม กรณีเมื่อวันที่ 10 ม.ค.66 เวลา 18.00 น. ไปออกกำลังกายที่ฟิตเนสแห่งหนึ่งภายในห้างฯ ย่านงามวงศ์วาน อ.เมืองนนทบุรี และทรัพย์สินส่วนตัวที่เก็บไว้ภายในตู้ล็อกเกอร์ของฟิตเนสสูญหาย มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท
นักธุรกิจหนุ่มเล่าว่า วันเกิดเหตุ หลังเลิกงานเข้าไปออกกำลังกายที่ฟิตเนสดังกล่าวตามปกติ โดยจะมาที่ฟิตเนสแห่งนี้เป็นประจำสัปดาห์ละ 4-5 วัน จากนั้นก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดออกกำลังกาย ถอดสร้อย ถอดแหวน ทุกอย่างใส่เข้าไปในล็อกเกอร์ ซึ่งทุกคนที่มาใช้บริการก็จะมีกุญแจล็อกเกอร์คนละ 1 ดอก ส่วนทางคลับจะมีกุญแจสำรอง เผื่อไว้กรณีใครทำหายหรือลืมกุญแจ แต่ละครั้งจะใช้เวลาเล่นอยู่ประมาณ 2 ชั่วโมง เล่นเสร็จก็ออกมาไขตู้ล็อกเกอร์ เพื่อจะอาบน้ำ แต่เมื่อเปิดประตู ล็อกเกอร์โล่ง ของหายเกลี้ยง
จากนั้นตนก็ไปแจ้งเจ้าหน้าที่ฟิตเนส ว่าของหายหมดตู้ เขาก็บอกจะช่วยดูกล้องให้ ตนจึงโทรไปแจ้งความกับตำรวจ แต่เมื่อตำรวจมา เขาก็ยังไม่ให้เข้า อ้างว่าต้องมีหมายศาลก่อน ตนเลยรีบไปแจ้งความที่ สภ.เมืองนนทบุรี แล้วกลับไปที่ฟิตเนสใหม่ พร้อมกับเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ฟิตเนสก็ปิดพอดี
ส่วนทรัพย์สินที่สูญหายมีหลายรายการ มูลค่ารวมประมาณ 10 ล้านบาท อาทิ เลส 1.5 ล้านบาท แหวน 1 ล้านบาท พระสมเด็จวัดระฆัง ราคา 8-10 ล้านบาท ซึ่งเป็นมรดกจากปู่ให้พ่อมาจนพ่อให้ตนเองอีกทีหนึ่ง ส่วนกรณีที่มีคนสงสัยว่า เข้าฟิตเนสทำไมต้องพกทรัพย์สินมูลค่าไปด้วย ปกติของพวกนี้ตนก็พกติดตัวตลอดอยู่แล้ว และสถานที่ให้บริการแบบนี้ ก็ค่อนข้างจะมั่นใจว่าล็อกเกอร์จะเก็บของมีค่าไว้ได้
ด้าน พ.ต.อ.จาตุรนต์ อนุรักษ์บัณฑิต ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี กล่าวว่า วันนี้มีการเรียกประชุมเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งชุดสืบสวน เพื่อหาแนวทางในการติดตามคนร้าย หลังประชุมสั่งการให้ชุดสืบสวนเร่งตรวจสอบสถานที่ กล้องวงจรปิด และรวบรวมหลักฐาน เพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป .-สำนักข่าวไทย