ปัตตานี 10 พ.ค. – ทีมข่าวสำนักข่าวไทย อสมท ลงพื้นที่ จ.ปัตตานี พบตำรวจและฝ่ายความมั่นคงเร่งสืบสวนติดตามคนร้ายก่อเหตุระเบิดคาร์บอมบ์ห้างบิ๊กซี ปัตตานี มาดำเนินคดี จนนำไปสู่การขอศาลอนุมัติหมายจับผู้ต้องหาแล้ว 1 คน
กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะผู้ก่อเหตุขับรถกระบะ ป้ายทะเบียน บจ 3303 ยะลา ซึ่งเป็นรถยนต์ประกอบระเบิดแสวงเครื่องบรรจุในถังแก๊ส น้ำหนัก 80 กิโลกรัม 1 ถัง และถังแก๊สปิกนิก น้ำหนัก 30 กิโลกรัม 1 ถัง ซุกซ่อนภายในรถ ขับเข้ามาภายในห้างฯ คนขับเปิดกระจกเพียงเล็กน้อย แสดงบัตรประชาชนของนายนุสน ขจรคำ ให้พนักงานรักษาความปลอดภัยของห้างฯ ซึ่งเป็นบัตรของเจ้าของรถ แล้วขับรถมาจอดบริเวณหน้าประตูห้างฯ จากนั้นคนร้าย 2 คน ลงจากรถแล้วเดินออกจากห้างฯ ก่อนจะมีชาย 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์มารับบริเวณด้านหน้าห้างฯ แล้วหลบหนีไป
ข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ระบุว่า รถยนต์คันดังกล่าวเป็นของนายนุสน ขจรคำ ชาวจังหวัดยะลา ซึ่งถูกคนร้ายดักปล้นรถยนต์ ก่อนจะถูกนำมาประกอบระเบิดเป็นคาร์บอมบ์ก่อเหตุที่ห้างบิ๊กซี ปัตตานี แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถติดต่อและทราบชะตากรรมของนายนุสน เจ้าของรถ
ล่าสุดผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี พร้อมด้วยผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี และผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี ร่วมแถลงข่าวความคืบหน้าคดี โดย พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้งคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี กล่าวว่า จากการบูรณาการหลายฝ่ายร่วมติดตามคนร้าย พบว่ามีผู้ก่อเหตุครั้งนี้ 4 คน ขยายผลสอบสวนโดยมีพยานบุคคลยืนยัน จนนำมาสู่การขอศาลออกหมายจับได้ 1 คน คือ นายมะกอเซ็ง หม้าแอ้ อายุ 25 ปี ชาวจังหวัดปัตตานี เป็นสมาชิกร่วมขบวนการ มีหมายจับศาลจังหวัดปัตตานี 3 หมาย ซึ่งตำรวจเชื่อว่า เขาเป็นผู้ลงมือก่อเหตุระเบิดคาร์บอมบ์ครั้งนี้ โดยเป็นหนึ่งในผู้ที่อยู่ในรถคาร์บอมบ์
แม้เหตุระเบิดคาร์บอมบ์ห้างบิ๊กซี จ.ปัตตานี ครั้งนี้พบว่ามีผู้ก่อเหตุ 4 คน แต่ตำรวจเชื่อว่าเป็นการกระทำลักษณะเป็นกลุ่มขบวนการ จึงพยายามติดตามขยายผลสอบสวนทั้งหมดต่อไป และเร่งแกะรอยเส้นทางที่คนร้ายดักปล้นรถยนต์ เพื่อหาตัวเจ้าของรถ ซึ่งขณะนี้ยังไม่ทราบชะตากรรม. – สำนักข่าวไทย