fbpx

ผบ.ตร. นัด “ชูวิทย์” กินข้าว เคลียร์ใจคดี “ตู้ห่าว”

กรุงเทพฯ 16 ธ.ค. – ผบ.ตร.นัด “ชูวิทย์” กินข้าวกลางวันร่วมกับ “บิ๊กโจ๊ก-บิ๊กต่อ” เคลียร์ใจคดี “ตู้ห่าว” หลังความเห็นไม่ตรงกัน พร้อมให้ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ประสานอัยการร่วมดำเนินคดีใกล้ชิด


พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยการดำเนินคดีกับนายตู้ห่าว และธุรกิจทุนจีนผิดกฎหมาย หลังจากที่สำนักงานอัยการสูงสุด ได้รับพิจารณาเป็นคดีองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ และกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ได้รับคดีฟอกเงินทางอาญาไปเป็นคดีพิเศษแล้ว

ซึ่งก็ถือว่าคดีนี้จะได้ร่วมกันทำงานหลายฝ่าย เพื่อทำให้คดีมีน้ำหนัก และรอบคอบชัดเจนมากขึ้น ซึ่งจะทำให้ประชาชนเชื่อมั่นในการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่จะสามารถดำเนินคดีนี้ได้ โดยได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ประสานกับคณะทำงานของอัยการสูงสุด และให้รายงานความคืบหน้าทางคดีอย่างต่อเนื่อง


วันนี้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้รับมอบรถห้องเย็นเพื่อให้โรงพยาบาลตำรวจนำไปใช้ในภารกิจงานนิติเวช และศูนย์ส่งกลับและรถพยาบาลจากนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ที่ได้นำมาบริจาค และได้เชิญให้ไปร่วมรับประทานอาหารกลางวันร่วมกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. พร้อมกับให้ร่วมพูดคุยข้อมูลทางคดี และปรับความเข้าใจในข้อมูลบางอย่างที่อาจจะเห็นต่างกัน ยืนยันว่าไม่ได้ขัดแย้งกัน

นายชูวิทย์ ยืนยันว่าที่นำรถห้องเย็นมามอบให้เพื่อสนับสนุนการทำงานของตำรวจ และก่อนหน้านี้ได้นำรถห้องเย็นไปมอบให้กับโรงพยาบาลศิริราช และโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติมาแล้ว และเตรียมจะมอบให้กับโรงพยาบาลของรัฐอีก 20 คัน

พร้อมยอมรับว่าที่ผ่านมาเห็นว่าตำรวจเป็นผู้เสียสละทำงานเพื่อประชาชน ซึ่งในอดีตก็เคยทำป้อมตำรวจจราจรให้กว่า 70 ป้อม และที่เคยพูดวิจารณ์การทำงานของตำรวจเป็นเฉพาะบุคคล ไม่ได้กล่าวหาทั้งองค์กร ที่ยังมีตำรวจที่ดีมากกว่า และการมอบรถครั้งนี้ก็ไม่ได้มีเจตนาแอบแฝง ต้องการให้นำไปใช้ประโยชน์กับประชาชนต่อไป ส่วนการร่วมรับประทานอาหารวันนี้ ก็อยากให้ พล.ต.ท.ธิติ ในฐานะหัวหน้าชุดสืบสวนสอบสวนของคดีนี้มาร่วมด้วย แต่ทราบว่าติดภารกิจ และหลังจากที่ พล.ต.ท.ธิติ ได้แถลงข่าวชี้แจงการทำคดีไปแล้วก็เป็นที่น่าพอใจ และก็มีข้อมูลที่สนับสนุนทางคดีซึ่งกันและกัน. -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

พายุโซนร้อนซูลิก

ฤทธิ์พายุโซนร้อนซูลิก ทำฝนเริ่มตกหนักในพื้นที่นครพนม

ฤทธิ์พายุโซนร้อน “ซูลิก” ทำฝนเริ่มตกหนักในพื้นที่ จ.นครพนม เจ้าหน้าที่ต้องเร่งเดินเครื่องสูบน้ำลงน้ำโขง

อุตุฯ เตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ฝนถล่มหลายจังหวัด

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ภาคเหนือ อีสาน กลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมแรง

ชายแดนแม่สายยังเละจมโคลน จับตาพายุลูกใหม่

แม้จะผ่านน้ำท่วมใหญ่ในรอบร้อยปีมาหลายวันแล้ว แต่ตอนนี้ชายแดนแม่สายยังเต็มไปด้วยความเสียหายและดินโคลนจำนวนมาก ชาวบ้านหลายคนยังไม่สมารถกลับเข้าบ้านได้

นายกฯ ตรวจความพร้อมการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค

นายกฯ ตรวจความพร้อมการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค การซ้อมเป็นรูปขบวนเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา ครั้งที่ 7 ณ โรงเรือพระราชพิธี ท่าวาสุกรี และวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ขณะที่ “เจ้าอาวาสวัดอรุณฯ” ให้กำลังใจทำหน้าที่ได้เต็มที่-ประสบความสำเร็จ