กรุงเทพฯ 4 พ.ค.- 2 แกนนำ นปช. ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตรวจสอบการทำงาน สน.ดุสิต สภ.พัทยาดำเนินการซ้ำซ้อนหรือไม่ หลังดำเนินคดีในข้อหาชุมนุมทางการเมืองปี52 “
นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อพลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ ผ่านพันตำรวจเอกภมร รัตนสมัย นายตำรวจเวรอำนายการ เพื่อขอความเป็นธรรมโดยให้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตั้งคณะกรรมการวินิจฉัยขอบเขตอำนาจของพนักงานสอบสวน รวมทั้งเป็นการใช้สิทธิที่อยากให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตรวจสอบกระบวนการออกหมายจับ ฐานมีส่วนร่วมกับการชุมนุมทางการเมือง ที่ โรงแรมรอยัล คลิฟ บีชรีสอร์ท พัทยา เมื่อปี 2552
นายจตุพร ระบุ กรณีที่ตำรวจพัทยา มีการออกหมายเรียกตนเองพร้อมพวกรวม 6 คนเพื่อให้ไปรับทราบข้อกล่าวหา ฐานก่อเหตุความวุ่นวายทางการเมืองเมื่อปี 2552 ยืนยันว่าตนและพวกไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์เมืองที่พัทยา แต่ยอมรับว่าได้เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สน.ดุสิตในห้วงดังกล่าวแล้ว ฐานชุมนุมรอบพื้นที่ทำเนียบรัฐบาล แต่หากจะมีการออกหมายเรียกในวันที่ 8 พฤษภาคม ที่ สภ.พัทยาให้ไปพบนั้น มองว่า การปฎิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่มิชอบหรือไม่ หรือเป็นการทำงานซ้ำซ้อนหรือไม่ จึงอยากให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติตรวจสอบกระบวนการทำงานดังกล่าวให้เกิดความชัดเจน และอยากให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยข้อมูลของบุคคลที่มาร้องทุกข์กล่าวโทษว่ากลุ่มตนเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นั้นด้วย ในขณะเดียวกันหากไม่ได้รับความเป็นธรรมจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็จะเข้าร้องทุกข์ขอความเป็นธรรม พลเอกประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี
ด้านนายณัฐวุฒิ ยืนยันตัวเองไม่เคยมีพฤติการณ์หลบหนี และหลีกเลี่ยงกระบวนการยุติธรรมสู้คดีมาโดยตลอด และเมื่อปี 52 ตนเองก็ได้เข้ารับทราบข้อกล่าวหาที่ สน.ดุสิต ฐานชุมนุมรอบทำเนียบรัฐบาล ซึ่งในขณะนั้น คณะกรรมการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่มีมติดำเนินการกับกลุ่มของตนแต่อย่างใด ซึ่งเวลาผ่านมาแล้วกว่า 8 ปี สภ.พัทยากลับมีการขอศาลออกหมายจับ ถึง 2 ครั้งแต่ศาลไม่อนุมัติ ตนเองจึงมองว่าเจ้าหน้าที่ข้ามขั้นตอนในการปฏิบัติ จึงเชื่อว่าอาจมีการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ซึ่งในวันที่8 พฤษภาคม จะมีการไปพบพนักงานสอบสสน สภ.พัทยา จะทำให้ถูกดำเนินการจับกุม ฐานผิดคำสั่งหมายเรียก2ครั้ง จึงขอความชัดเจนในการตรวจสอบ และตั้งคำถามการทำงานของ สภ.พัทยา และสน.ดุสิต ซ้ำซ้อนกันหรือไม่ ซึ่งขณะนี้ได้ให้ฝ่ายกฎหมายตรวจสอบการทำหน้าที่ของตำรวจ ก่อนดำเนินการตามสิทธิของตัวเอง แต่หากจะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตนเองก็พร้อมและจะไม่หลบหนี
ด้านพ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนะเจริญ รองโฆษกสำนักตำรวจแห่งชาติ ระบุจะรับเรื่องดังกล่าวไว้ก่อนส่งให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาในรายละเอียดต่อไป
ขณะที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้จัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งในและนอกเครื่องแบบ กว่า1 กองร้อยจำนวน150นาย กระจายกำลังติดตามสถานการณ์ และเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยโดยรอบพื้นที่.-สำนักข่าวไทย