กาตาร์ 8 ธ.ค.- การเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายของโมร็อกโก เป็นความภูมิใจที่สุดของโลกอาหรับและแอฟริกา ขณะที่ Guinness World Records บันทึกสนามฟุตบอลในกาตาร์ถูกปกคลุมด้วยผืนผ้าใบขนาดใหญ่ 9,652 ตารางเมตร
ชาวแอฟริกันที่อาศัยอยู่ในโมร็อกโก เปิดเผยหลังทีมชาติโมร็อกโก เอาชนะทีมชาติสเปน ในฟุตบอลโลก 2022 เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ว่า เป็นชัยชนะและความภาคภูมิใจของชาวแอฟริกาและโลกอาหรับ นับเป็นฟุตบอลโลกครั้งแรกที่จัดขึ้นในประเทศอาหรับ ซึ่งโมร็อกโกถือเป็นชาติเดียวของชาวอาหรับที่ผ่านผู้เข้ารอบก่อนรองชนะเลิศ ของโลกครั้งนี้
โดยโมร็อกโกกลายเป็นเพียงประเทศที่สี่ในแอฟริกาที่เข้าถึงรอบก่อนรองชนะเลิศในการแข่งขันฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยการเอาชนะสเปน 3-0 ในการดวลจุดโทษ หลังจากเสมอกัน 0-0 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ โดยเซอร์เก ตันโต นักเรียนชาวโตโก ที่อาศัยอยู่ในราบัตกล่าวว่ามันเป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจสำหรับโมร็อกโก และยังเป็นเหตุผลที่ทำให้แอฟริกาต้องภาคภูมิใจ เพราะตั้งแต่ปี 2010 เราไปไม่ถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ ชาวโมร็อกโกกำลังจะเล่นเกมน็อกเอาต์นัดที่สองในฟุตบอลโลก ซึ่งเป็นรายการที่จัดขึ้นในตะวันออกกลางเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์เกือบ 100 ปี นอกจากนี้ประเทศอื่นๆ ทั่วโลกอาหรับและแอฟริกา ผู้คนพากันออกไปตามท้องถนนเพื่อเฉลิมฉลองความก้าวหน้าของโมร็อกโกในทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลโลกครั้งนี้
ภาพวาดที่ใหญ่ที่สุดในโลกถูกบันทึกโดย Guinness World Records เมื่อวันพุธที่ผ่านมา เมื่อสนามฟุตบอลของมหาวิทยาลัยในกาตาร์ถูกปกคลุมด้วยผืนผ้าใบขนาดใหญ่ โดยสนามฟุตบอลขนาด 9,652 ตารางเมตร ถูกปกคลุมด้วยภาพวาดชื่อ “The story of the ball” โดยศิลปินชาวอิหร่าน ที่ชื่อว่า Emad Salehi ซึ่งทำลายเจ้าของสถิติโลกกินเนสส์คนก่อนได้วาดภาพที่ใหญ่ที่สุดคือ Sasha Jaffery โดยมีงานศิลปะขนาด 1,595.76 ตารางเมตร โดยธีมของงานศิลป์ของ Salehi คือตัวลูกบอล – ความทรงจำทางประวัติศาสตร์ของฟุตบอลโลกครั้งก่อน ประเทศเจ้าภาพ ผู้ชนะ ผู้เล่นที่ดีที่สุด และผู้ทำประตู ซึ่งการวาดภาพครั้งนี้ Salehi ใช้เวลาห้าเดือน โดยใช้เวลาเฉลี่ย 14 ถึง 18 ชั่วโมงต่อวันในการทำงาน ใช้สีมากกว่า 3,000 ลิตร หรือ 660 แกลลอน และพู่กัน 150 ด้ามเพื่อสร้างงานศิลปะให้เสร็จสมบูรณ์ .-สำนักข่าวไทย