กรุงเทพฯ 13 พ.ย. – อัยการสูงสุดสั่งตรวจสอบปมอัยการร่วมลงขันฆ่าเสี่ยรับเหมาสุราษฎร์ธานี เผยยังไม่พบอัยการเอี่ยว กำชับหากพบผิด ไม่ปกป้อง
นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏข่าวคนร้ายยิงผู้รับเหมาก่อสร้างเสียชีวิต ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี และข้อเท็จจริงจากข่าวมีผู้บอกเล่าว่าคนร้ายสามคนร่วมกันลงขันและหนึ่งในนั้นเป็นอัยการนั้น เรื่องนี้ ทาง น.ส.นารี ตัณฑเสถียร อัยการสูงสุด ได้รับทราบแล้วและได้มอบหมายให้นายธรัมพ์ ชาลีจันทร์ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด และคณะโฆษกตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งในชั้นต้นได้สอบถามไปยังผู้บริหารของสำนักงานอัยการภาค 8 ซึ่งตั้งอยู่ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีและดูแลอัยการในพื้นที่ภาค 8 ทั้งหมด ตรวจสอบข้อเท็จจริง
เบื้องต้นยังไม่พบว่ามีอัยการคนใดไปเกี่ยวข้องกับการจ้างวานตามที่เป็นข่าว แต่จะดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป หากพบว่าบุคลากรของสำนักงานอัยการสูงสุดเข้าไปเกี่ยวข้องในการกระทำความผิดไม่ว่าคดีนี้หรือในคดีใดๆ ก็ตาม จะไม่ปกป้องบุคลากรของอัยการหากกระทำความผิดกฎหมายในทุกกรณี อัยการทุกคนต้องปฏิบัติตามนโยบายอัยการสูงสุดที่ให้ดูแล และปฏิบัติหน้าที่ ให้ความยุติธรรมกับประชาชนและทุกฝ่ายอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
จากกรณีเกิดเหตุคนร้ายไม่ต่ำกว่า 3 คน ขับรถยนต์เก๋งตามประกบยิงรัวกว่า 20 นัด นายสมพร อายุ 46 ปี ผู้รับเหมาก่อสร้างและนักธุรกิจคนดังเสียชีวิต ขณะขับรถกระบะตอนเดียวสีดำ อยู่หน้าโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเวียงสระ หมู่ 10 ต.บ้านส้อง อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี พบปลอกกระสุนปืนขนาด 11 มม. จำนวน 20 ปลอก เบื้องต้นตำรวจพุ่งเป้าไปที่ประเด็นขัดแย้งส่วนตัว ขัดแย้งทางธุรกิจและชู้สาว และภรรยาผู้เสียชีวิตให้การกับตำรวจเบื้องต้นว่าสามีพูดก่อนเกิดเหตุว่าถูกลงขันตั้งค่าหัว 3 ล้าน โดยไม่มั่นใจว่าสามีจะพูดด้วยความมึนเมาสุราหรือไม่และประมาณ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาก่อนเกิดเหตุมีผู้หญิงโทรศัพท์มาเตือนให้ระวังตัวด้วยนั้น
พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 8 เปิดเผยว่า ได้ประชุมทีมทำงานทั้งทีมสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 8 และพิสูจน์หลักฐาน 8 โดยในส่วนพยานหลักฐานที่เกิดเหตุได้เก็บครบสมบูรณ์และอาจจะเก็บเพิ่มเติมบ้างในส่วนที่ขาด และให้ความมั่นใจว่าคดีนี้จับกุมคนร้ายได้แน่นอน ประเด็นความขัดแย้งมีอยู่ 3 เรื่อง คือ ประเด็นทางธุรกิจ ประเด็นชู้สาว และประเด็นเรื่องหนี้สิน .-สำนักข่าวไทย