นนทบุรี 12 พ.ย. – หญิงวัย 37 ปี อาชีพปล่อยเงินกู้ ร้องทนายดังให้ช่วยติดตามคดี หลังถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกให้กู้เงินสูญ 1.8 ล้านบาท แจ้งความที่ สภ.ชัยภูมิ 2 เดือน แต่คดีไม่คืบ
ช่วงบ่ายวันนี้ (12 พ.ย.) ที่สำนักงานทนายความคู่ใจ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี น.ส.เจน อายุ 37 ปี อาชีพปล่อยเงินกู้ เข้าขอความเป็นธรรมกับนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เพื่อขอให้ช่วยติดตามคดี หลังถูกมิจฉาชีพหลอกให้โอนเงินจำนวน 1.8 ล้านบาท และแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ แล้ว แต่ผ่านไปเกือบ 2 เดือน คดีไม่มีความคืบหน้า
น.ส.เจน เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 8 กันยายนที่ผ่านมา เห็นเพจๆ หนึ่งลงข้อความว่า “ให้กู้เงินดอกถูกมาก เพียงแค่ 0.4% ใช้บัตรประชาชนเพียงใบเดียว” ตนจึงทักไป ต่อมามีหญิงสาวคนหนึ่งแจ้งตอบกลับมา แนะนำตัวกับตนว่าเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของบริษัทแห่งหนึ่ง ให้ตนเองส่งรายละเอียดการเดินบัญชีเพื่อทำเรื่องขอกู้เงินจำนวน 400,000 บาท ให้สามีไปซื้อวัว ควาย ทำไร่-นา ที่ จ.ชัยภูมิ
ต่อมาวันที่ 9 กันยายน 65 หญิงสาวคนดังกล่าวแจ้งกลับมาว่าบัญชีของตนสามารถกู้ได้ถึง 3,200,000 บาท แต่ต้องวางเงินก่อน 10% คือ 32,000 บาท และให้ตนโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่งของหญิงอีกคนหนึ่ง ตนจึงโอนให้ไป แต่หญิงสาวคนดังกล่าวแจ้งกลับมาว่าระบบ AI ไม่สมบูรณ์ ทำให้เรื่องไม่ผ่าน ถ้าอยากให้ผ่านต้องโอนเงินเข้ามาใหม่ รวมเวลาประมาณเดือนครึ่ง ตนโอนเงินไปให้หญิงสาวคนดังกล่าวรวม 1.8 ล้านบาท ส่วนที่ต้องโอนไปครั้งละ 30,000-150,000 บาท เพราะอยากได้เงินคืน แต่ถูกชักชวนหว่านล้อมให้โอนเงินเข้ามาเรื่อยๆ ไม่อย่างนั้นจะไม่ได้ยอดเงินกู้ 3.2 ล้านบาท ตามที่เขาเสนอมา ทั้งๆ ที่ตนทำเรื่องกู้เพียงแค่ 400,000 บาท
ด้านทนายรณณรงค์ กล่าวว่า ถ้าเป็นแถวนี้ หรือ สภ.ปากเกร็ด ภายในครึ่งชั่วโมงสามารถไปอายัดเงินให้ได้แล้ว แต่ 2 เดือนแล้วยังไม่มีความคืบหน้าเลย ต้องฝากถึงผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ ช่วยเร่งรัด เพราะ 2 เดือนแล้ว อยากฝากเอาไว้ว่าถ้าจะไปกู้เงิน ไม่มีธนาคารหรือสถาบันการเงินไหนในประเทศไทยที่ให้เอาเงินไปค้ำประกันเงินตัวเอง ถ้าเจออย่าไปกู้ อันนี้ขอกู้แค่ 400,000 บาท แต่เสียไป 1.8 ล้านบาท นับว่าเสียหาย โดยเฉพาะเป็นคนปล่อยกู้แต่มาโดนซะเอง.-สำนักข่าวไทย