ร้องกองปราบถูกหลอกขายดาวน์รถ เสียหายกว่า 36 ล้านบาท

กรุงเทพฯ 28 ต.ค. – ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคมพาผู้เสียหายกว่า 60 คน ร้องกองปราบ ถูกหลอกขายดาวน์รถยนต์ มูลค่าความเสียหายกว่า 36 ล้านบาท หลังร้องเรียนหลายหน่วยงาน แต่คดีไม่คืบ


นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พาผู้เสียหายกว่า 60 คน ถูกเต็นท์ย่านรามคำแหงหลอกซื้อดาวน์รถ ความเสียหายรวมกว่า 36 ล้านบาท ถือป้ายร้องเรียนเดินขบวนมายังศูนย์รับแจ้งความกองปราบปราม เพื่อยื่นหนังสือต่อพลตำรวจโทจิรภพ ภูริเดช ผู้บังคับการกองปราบ เพื่อให้กองปราบรับคดีไปตรวจสอบ เพราะที่ผ่านมากลุ่มผู้เสียหายไปร้องเรียนมาหลายพื้นที่ หลายหน่วยงาน แต่ไม่มีใครรับแจ้งความ ทำได้เพียงลงบันทึกประจำวันเท่านั้น

หนึ่งในผู้เสียหาย เล่าว่ารู้จักเต็นท์รถย่านรามคำแหงผ่านทางเฟซบุ๊ก จึงติดต่อเข้าไป เพื่อจะทำการขายดาวน์รถยนต์ปาเจโรผ่อนมาแล้ว 24 งวด ทางเต้นท์แจ้งว่าจะทำสัญญาเปลี่ยนเจ้าของให้ภายใน 3 เดือน แต่อีก 10 วัน ก็มีคนติดต่อขอซื้อรถจากเต็นท์ หลังจากขายรถไปแล้ว จึงทวงถามไปยังเจ้าของเต็นท์รถถึงเรื่องการเปลื่ยนชื่อเจ้าของ แต่ทางเต็นท์บ่ายเบี่ยงไม่ตอบคำถาม ไม่ดำเนินการ และขาดการติดต่อ หลังจากนั้นบริษัทไฟแนนซ์รถทวงค่างวดรถ ทำให้ทราบว่าทางเต็นท์รถยังไม่ได้ดำเนินการเปลี่ยนชื่อเจ้าของรถที่ขายไป ทำให้ต้องรับภาระผ่อนค่างวดต่อ ขณะที่ระหว่างผู้เสียหายให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว สามีของเธอได้นำบันไดมาปีนโชว์ เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ หลังก่อนหน้านี้เคยไปปีนลานจอดรถของสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาแล้ว เพราะเครียดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะยังต้องผ่อนค่างวดต่อเดือนละ 19,700 บาท


ผู้เสียหายชายอีกคน เล่าว่าหลังถูกเต็นท์รถหลอกได้ไปแจ้งความที่ สน.บางชัน จากนั้นคนที่ซื้อรถของตนไป ได้ติดต่อกลับมาหาว่าต้องการจะซื้อรถคืนหรือไม่ในราคา 70,000 บาท ตนเองไม่ได้จ่ายเงิน จึงไปแจ้งความที่ สภ.ท้องที่ ที่เจอพิกัดรถ แต่ตำรวจไม่ได้รับแจ้งความ ทำให้รู้สึกเป็นทุกข์ใจมาก พร้อมสงสัยว่าทำเป็นขบวนการเดียวกันหรือไม่

ด้านทนายรณณรงค์ เชื่อว่าการหลอกขายดาวน์รถจะต้องมีการทำเป็นขบวนการ เนื่องจากมีผู้เสียหายจำนวนมากขายดาวน์รถไปกว่า 50 คัน ความเสียหายประมาณ 36 ล้าน ส่วนใครอยู่เบื้องหลังยังไม่มีข้อมูลแน่ชัด จึงต้องการให้ตำรวจกองปราบรับทำคดี เพราะมีผู้เสียหายจำนวนมากและความเสียหายสูง ขณะที่ผ่านมาผู้เสียหายมีการแจ้งความหลายพื้นที่ แต่ไม่มีความคืบหน้าทางคดี มีเพียง 2 โรงพักที่ออกหมายจับผู้ก่อเหตุเท่านั้น พร้อมฝากเตือนผู้ที่จะขายดาวน์รถจะต้องทำสัญญาซื้อขายรถและเปลี่ยนชื่อผู้ครอบครองรถให้ถูกต้อง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ข่าวแนะนำ

เปิดปมสังหารยกครัว 4 ศพ แค้นชู้สาว

เปิดปมเหตุสลดฆ่ายกครัว 3 ศพ ก่อนผู้ก่อเหตุยิงตัวเองเป็นศพที่ 4 ใน จ.สมุทรปราการ พบข้อมูลว่าความแค้นครั้งนี้มาจากเรื่องชู้สาว แต่ลูกชายของผู้ตายยังไม่เชื่อว่าแม่มีความสัมพันธ์กับมือปืน แต่ยอมรับมือปืนให้เงินแม่ใช้ทุกวัน

ศาลไม่ให้ประกัน “สามารถ” ชี้พฤติการณ์ร้ายเเรง

ทนายเผยศาลไม่ให้ประกัน “สามารถ” เพราะพฤติการณ์ร้ายเเรง เตรียมยื่นอุทธรณ์คำสั่งประกัน ด้าน “แม่สามารถ” วอนผู้มีอำนาจอย่าเอาความลูกชายตน ลั่นหลังจากนี้จะสู้เพื่อความยุติธรรม