สธ.ย้ำ ปชช.ต้องขออนุญาต เมื่อจำหน่าย วิจัย หรือส่งออกกัญชา

กรุงเทพฯ 25 ต.ค.- กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก แนะนำประชาชนที่ใช้กัญชา ต้องขออนุญาตให้ถูกกฎหมาย ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง สมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ. 2565 พร้อมเปิดช่องทางการขออนุญาตอย่างถูกต้อง ทั้งส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค เพื่อลดปัญหาที่ขัดต่อกฎหมาย


นพ.ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ.2542 ตามความในมาตรา 44 บัญญัติให้อำนาจรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขประกาศให้สมุนไพรเป็นสมุนไพรควบคุมได้ ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศให้กัญชาเป็นสมุนไพรควบคุมไว้แล้ว ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง สมุนไพรควบคุม (กัญชา) ลงวันที่ 16 มิถุนายน พ.ศ.2565 ทั้งนี้ ตามมาตรา 46 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว ได้บัญญัติห้ามมิให้ผู้ใดศึกษาวิจัยหรือส่งออกสมุนไพรควบคุม หรือจำหน่าย หรือแปรรูปสมุนไพรควบคุมเพื่อการค้า เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตจากผู้อนุญาต ซึ่งตามคำนิยามในมาตรา 3 ให้นิยามความหมาย กรณี “จำหน่าย” หมายความว่า ขาย จ่าย แจก หรือแลกเปลี่ยน ต้องมีการขออนุญาตให้ถูกต้องตามกฎหมาย ถ้าไม่มีการขออนุญาตถือว่าผิดกฎหมายตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง สมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ. 2565 เนื่องจากประกาศดังกล่าวเป็นกฎหมายใหม่ ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่ทราบว่าต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างไรบ้าง

ที่ผ่านมากรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้สื่อสารประชาสัมพันธ์ประโยชน์ และข้อควรระวังจากการใช้กัญชา และผลิตภัณฑ์กัญชาแก่ประชาชนและผู้ประกอบการอย่างถูกต้อง พร้อมสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการสื่อสาร ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการใช้ประโยชน์จาก สมุนไพรควบคุม (กัญชา) แก่ประชาชนและผู้ประกอบการ ณ ถนนข้าวสาร, เขตสีลม, และเขตทองหล่อ เป็นต้น กัญชาเป็นสมุนไพรไทย เน้นคุณค่าการใช้ในการแพทย์ สร้างงาน สร้างอาชีพ และเสริมเศรษฐกิจชาติ เป็นสมุนไพรที่มีค่าต่อการศึกษาหรือวิจัยและมีความสำคัญทางเศรษฐกิจ เพื่อใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์แผนไทยและเศรษฐกิจชุมชน เป็นการปิดช่องสุญญากาศ พร้อมสร้างความรู้ ความเข้าใจ ปลอดภัยให้กับสังคม และเพื่อประโยชน์ในการคุ้มครองสมุนไพรกัญชา อย่างยั่งยืน


สำหรับการขออนุญาตใช้สมุนไพรควบคุม ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ.2542 มี 3 ลักษณะ คือ 1.การขออนุญาตศึกษาวิจัย 2.การขออนุญาตจำหน่าย/แปรรูปสมุนไพรควบคุมเพื่อการค้า และ 3.การขออนุญาตส่งออกสมุนไพรควบคุมเพื่อการค้า ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความประสงค์ของผู้มาขออนุญาต ในส่วนผู้ประกอบการ รวมถึงประชาชนทั่วไปที่จะมีการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากกัญชาในเชิงพาณิชย์และทำการค้า ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบใดก็ตามต้องขออนุญาตจำหน่ายหรือแปรรูปสมุนไพรควบคุม เพื่อการค้า ถ้าอยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร ต้องยื่นขออนุญาต ที่กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก โดยกองคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาแพทย์แผนไทยและแพทย์พื้นบ้านไทย หากอาศัยอยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัด ต้องขออนุญาตจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดที่ท่านอาศัยอยู่ หากมีข้อสงสัยหรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อได้ที่ กองคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาแพทย์แผนไทยและแพทย์พื้นบ้านไทย กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก โทร. 0 2149 5607-8 หรือ 0 2591 7007 ต่อ 3708, 3713. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สามีเข้าเกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาดับ

สลด! สามีขับรถใส่เกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาเสียชีวิตในบ้านพักย่านวิภาวดี ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การเบื้องต้น นำตัวสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” เจ้าตัวปิดปากเงียบ

ตร.ไซเบอร์คุมตัว “เอ็ม เอกชาติ” ฝากขัง เจ้าตัวปิดปากเงียบ ไม่ตอบคำถามสื่อ ด้านตำรวจพบเส้นทางการเงินจากเว็บพนัน กว่า 30 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

บกปภ.ช. แถลงความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือเหตุแผ่นดินไหว

บกปภ.ช. แถลงความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือเหตุแผ่นดินไหว สั่งพื้นที่เร่งสำรวจและให้ความช่วยเหลือ หากงบประมาณไม่เพียงพอให้ขอขยายวงเงินทันที ด้านอาคารที่ถล่มได้ส่งทีม USAR Thailand สลับกำลังเพิ่มเติม

นายกฯ กล่าวในวันอีฎิ้ลฟิตริ ฮ.ศ.1446 ส่งความปรารถนาดีชาวไทยมุสลิม

นายกรัฐมนตรี กล่าวในวันอีฎิ้ลฟิตริ ฮ.ศ.1446 ส่งความรัก ความปรารถนาดียังชาวไทยมุสลิมทุกคน ชื่นชมศรัทธาที่เข้มแข็ง ความอดทน อดกลั้น ความมุ่งมั่น เสียสละ

เร่งปฏิบัติการค้นหาผู้รอดชีวิตจากใต้ซากอาคาร สตง.

ปฏิบัติการค้นหาผู้ติดใต้ซากอาคาร สตง. ยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผ่านมาเกือบ 54 ชั่วโมงแล้ว ตอนนี้ยังไม่พบผู้รอดชีวิตเพิ่ม ส่วนยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดเพิ่มเป็น 11 รายแล้ว

สตง.ตั้งศูนย์ประสานงานช่วยผู้ประสบภัยตึกถล่มจากแผ่นดินไหว

สตง. เร่งตั้งศูนย์ประสานงานเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยและผู้ได้รับผลกระทบ จากกรณีอาคารที่ทำการสำนักงานแห่งใหม่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว พร้อมยืนยันกระบวนการดำเนินโครงการฯ เป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย