บาห์เรน 24 เม.ย.-นายกรัฐมนตรีเดินทางเยือนราชอาณาจักรบาห์เรนอย่างเป็นทางการ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ในโอกาสครบรอบ 40 ปี รวมทั้งขยายความร่วมมือการค้าการลงทุนระหว่าง 2 ประเทศ โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยรายงาน
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ เดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 กองทัพอากาศ ดอนเมือง โดยเที่ยวบินพิเศษที่ RTAF229 ไปยังกรุงมานามา ราชอาณาจักรบาห์เรน ระหว่างวันที่ 24-26 เมษายน 2560 ตามคำเชิญของเจ้าชายคอลิฟะห์ บิน ซัลมาน อัล คอลิฟะห์ นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรบาห์เรน ซึ่งถือเป็นประเทศแรกในภูมิภาคตะวันออกกลาง ที่นายกรัฐมนตรีเดินทางเยือนอย่างเป็นทางการ และมีกำหนดการเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทสมเด็จพระราชาธิบดีฮามัด บิน อิซา อัล คอลิฟะห์ แห่งราชอาณาจักรบาห์เรน เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศในโอกาสครบรอบ 40 ปี แห่งการสถาปนาทางการทูต รวมทั้งใช้โอกาสนี้แสดงความขอบคุณราชอาณาจักรบาห์เรนที่สนับสนุนไทยในทุกเวทีระหว่างประเทศ และมีส่วนสำคัญในการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้กลุ่มประเทศมุสลิม เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย
นอกจากนี้ ยังมีการหารือถึงการยกระดับความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจ เพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าการลงทุนระหว่าง 2 ประเทศ ที่ปัจจุบันอยู่ที่เฉลี่ยปีละ 447 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 15,645 ล้านบาท โดยเชิญบาห์เรนเข้ามาร่วมลงทุนในโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC รวมถึงต่อยอดการจำหน่ายสินค้าเกษตรของไทย นอกเหนือจากข้าวที่เป็นสินค้าหลัก โดยให้บาห์เรนเป็นศูนย์กลางกระจายสินค้าออกสู่กลุ่มประเทศในตะวันออกกลาง
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีทั้ง 2 ประเทศ จะร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามเอกสาร 3 ฉบับ ประกอบด้วย ร่างพิธีสารแก้ไขอนุสัญญาระหว่างไทย-บาห์เรน เพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อนและป้องกันการเลี่ยงรัษฎากรในส่วนที่เกี่ยวข้องกับภาษีเงินได้ บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการเกษตร ระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ของไทยกับกระทรวงกิจการเทศบาลและผังเมืองแห่งราชอาณาจักรบาห์เรน และร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์กับมหาวิทยาลัยบาห์เรน รวมทั้งจะมีการแลกเปลี่ยนความเห็น เพื่อแสวงหาความร่วมมือในมิติใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์ร่วมกันในฐานะมิตรประเทศ โดยเฉพาะการปราบปรามการค้ามนุษย์และปัญหายาเสพติด.-สำนักข่าวไทย