นนทบุรี 13 ต.ค.- นายกฯ นำคณะตรวจสถานการณ์น้ำชุมชนริมเจ้าพระยา ท่าอิฐ เมืองนนท์ ลุยน้ำท่วมเคาะประตูบ้านให้กำลังใจผู้ประสบภัย
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมพลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่วัดแสงสิริธรรม ตำบลท่าอิฐ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจประชาชนชุมชนริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ได้รับผลกระทบจากน้ำทะเลหนุนสูงและมีน้ำท่วมขังอยู่นานนับสัปดาห์แล้ว โดยทันทีที่เดินทางมาถึง นายกรัฐมนตรีและคณะ รับฟังบรรยายสรุปจากอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของจังหวัดนนทบุรีถึงเส้นทางน้ำ และปัญหาภาพรวมในจังหวัดนนทบุรี
จากนั้น นายกรัฐมนตรี เดินลุยน้ำเข้าไปถึงบ้านที่ยังมีผู้สูงอายุอาศัยอยู่ พร้อมพูดคุยทักทายประชาชนในชุมชนอย่างเป็นกันเอง ขณะเดียวกันยังให้กำลังใจกับผู้ประสบภัยและย้ำว่าจะช่วยดูแลให้ความช่วยเหลือ ขอให้ประชาชนสู้เพื่อประเทศไทย ถึงจะมีปัญหาอยู่บ้างแต่ก็ดีกว่าหลายประเทศ ขณะเดียวกันประชาชนบางคนขอให้นายกฯ นำไดโว่มาเร่งสูบน้ำออกจากบ้านเรือน ซึ่งนายกฯ ก็ได้ถามกลับว่าหากสูบออกแล้ว จะไปกระทบกับบ้านหลังอื่นหรือไม่ หากไม่กระทบก็พร้อมที่จะดำเนินการให้โดยจะเร่งสั่งการให้เจ้าหน้าที่เข้ามาดำเนินการ พร้อมกันนี้ นายกฯ ยังให้กำลังใจทหารที่ช่วยกันบรรจุกระสอบทรายทำผนังกั้นน้ำให้ชาวบ้าน
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้พูดกับชาวบ้านว่าปีนี้มีพายุเข้ามาหลายลูก เดิมฝนตกแค่ท้ายเขื่อนแต่ปีนี้มาเหนือเขื่อนด้วย ทำให้ระดับน้ำจากที่ต่างๆ ไหลมารวมกันระบายไปจุดหนึ่งแต่อีกจุดหนึ่งก็เต็ม รัฐบาลพยายามดูแลเยียวยาและจะจัดสรรงบประมาณมาแก้ไขปัญหาในระยะยาว ซึ่งระหว่างนั้นชาวบ้านได้ตะโกนส่งกำลังใจให้นายกฯ ขอให้สู้ๆ และขอให้ยิ้มหน่อยเพราะนายกฯ มีสีหน้าเคร่งเครียด พร้อมบอกเลยว่ารักลุงตู่ขอให้ลุงตู่อยู่ยาว ซึ่งนายกฯ ได้ทำท่าประจำ คือ ทุบอกพร้อมส่งสัญลักษณ์ไอเลิฟยูให้ประชาชน อย่างไรก็ตามระหว่างเดินลุยน้ำเข้าเยี่ยมให้กำลังใจประชาชนแต่ประชาชนก็ได้เข้ามาให้กำลังใจนายกรัฐมนตรีเช่นกันทั้งการกอดและขอถ่ายรูป ซึ่งมีบางจุดมีเด็กๆ มารอให้กำลังใจด้วย ซึ่งนายกฯ ได้สอบถามว่าช่วงนี้ปิดเทอมใช่หรือไม่ เมื่อเปิดเทอมแล้วก็ขอให้ตั้งใจเรียนเชื่อฟังผู้ใหญ่ เพื่อเป็นอนาคตของชาติ
จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้ให้สัมภาษณ์ในแต่ละปีก็มีปัญหามากมาย ซึ่งในปีนี้มีพายุแล้วฝนตามฤดูกาลมากกว่าทุกปี ดังนั้นสิ่งที่ต้องทำคือการปรับตัว ซึ่งรัฐบาลก็พยายามจัดสรรงบแก้ไขปัญหาในหลายโครงการ บางพื้นที่ต้องใช้งบถึง 500 ล้านบาท ก็ต้องทำไปเรื่อยๆ ขณะเดียวกันต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับน้ำ สำหรับประชาชนที่อยู่ริมน้ำ ในขณะที่โครงการต่างๆ ยังไม่แล้วเสร็จ หรือยังแก้ไม่ได้ ก็ต้องเรียนรู้ที่จะอยู่ให้ได้ ซึ่งไม่ควรตอบโต้กันไปมาเพราะไม่สร้างสรรค์ จึงต้องขอชื่นชมในพื้นที่ ที่มีการดูแลเป็นอย่างดีแสดงให้เห็นว่าทุกคนร่วมใจกันและที่สำคัญยังมีรอยยิ้มให้นายกฯ แสดงว่าประชาชนเข้าใจว่ารัฐบาลกำลังทำอะไร พื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล อยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยาย่อมได้รับผลกระทบ
เมื่อถามว่าจากการลงพื้นที่ประชาชนต้องการให้ช่วยเหลืออะไรเป็นเรื่องเร่งด่วนนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าที่ผ่านมาประชาชนมีประสบการณ์อยู่แล้ว รู้ว่าจะต้องทำอะไรรับมืออย่างไร ทั้งการเตรียมความพร้อมด้านบ้านเรือนชีวิตความเป็นอยู่ชีวิตความเป็นอยู่ ส่วนที่ต้องการให้นำไดโว่มาสูบน้ำออกนั้น จะต้องดูว่าไม่ให้กระทบกับพื้นที่อื่น
สำหรับการลงพื้นที่ของพลเอกประยุทธ์และคณะครั้งนี้จากเดิมมีกำหนดการลงพื้นที่ที่วัดเขมาภารตารามราชวรมหาวิหาร เปลี่ยนในเวลา 09.00 น. มาลงพื้นที่จุดที่สองที่วัดแสงสิริธรรม ตำบลท่าอิฐ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนบุรี และหลังจากลงพื้นที่จุดนี้เสร็จนายกรัฐมนตรีและคณะก็ได้ยกเลิกภารกิจการลงพื้นที่ที่วัดเขมาภารตารามราชวรมหาวิหาร ซึ่งจุดนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.เมืองนนทบุรี ตั้งจุดตรวจ บริเวณหน้าโรงเรียนสตรีนนทบุรีก่อนจะถึงวัดเขมาภารตารามราชวรมหาวิหาร เพื่อคัดกรองประชาชนและรถที่ผ่านเข้าออก หลังได้รับการข่าวว่ามีกลุ่มผู้ชุมนุมมาต่อต้านการลงพื้นที่ของพลเอกประยุทธ์ แต่ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่ยืนยันว่ากลุ่มผู้ชุมนุมจะมาอยู่จุดใดแต่เพื่อเป็นการป้องกันและป้องปรามจะมีการตั้งจุดสกัดไว้ก่อน ขณะเดียวกันก็ได้มีการเตรียมรถผู้ต้องขังไว้พร้อมด้วย.-สำนักข่าวไทย