ภูมิภาค 4 ต.ค. – หลายจังหวัดอีสานยังเผชิญกับปัญหาน้ำท่วมหนัก ตัวเมืองชัยภูมิ แม้น้ำจะเริ่มลดลง แต่ยังคงท่วมสูงหลายจุด เช่นเดียวกับ จ.เลย น้ำทะลักท่วมพื้นที่เศรษฐกิจ
จังหวัดชัยภูมิ ฝนตกเมื่อคืนที่ผ่านมา ทำให้ปริมาณน้ำล้นสปิลเวย์เขื่อนลำปะทาวล่างเพิ่มขึ้น คาดต้องใช้เวลา 5 วัน จึงลดต่ำกว่าสปิลเวย์ ส่วนถนนสายต่าง ๆ ในเขตเทศบาลเมืองชัยภูมิระดับน้ำทยอยลดลงอย่างต่อเนื่อง ถนนที่ยังมีน้ำท่วมสูง คือ ถนนรอบอนุสาวรีย์เจ้าพ่อพญาแล นอกจากเป็นพื้นที่เศรษฐกิจ มีธุรกิจร้านค้ามากมายยังเป็นที่ตั้งสถานที่สำคัญหลายแห่ง เช่น ตำรวจภูธรจังหวัด ศาลากลางจังหวัด โรงพยาบาลชัยภูมิ น้ำยังท่วมสูง ทำให้การเข้าใช้บริการของผู้ป่วยยังคงเป็นไปอย่างยากลำบาก แม้จะมีการต่อสะพานให้เดินสัญจรข้ามมวลน้ำก็ตาม
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่บริการรถยกสูงไว้สำหรับรับ-ส่งประชาชน ในเขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ ตั้งแต่เวลา 07.00 น. ถึง 22.00 น. ทั้งหมด 3 จุด ได้แก่ 1. สำนักงานเทศบาลเมืองชัยภูมิ-ห้าแยกโนนไฮ-สามแยกร้านตั้งเตาหมูกระทะ 2.สำนักงานเทศบาลเมืองชัยภูมิ-สี่แยกไฟแดงโรงเลื่อย-โรงแรมศิริชัย-วัดทรงศิลา 3.จวนผู้ว่าฯ -บขส.1–โรงพยาบาลชัยภูมิรวมแพทย์
ขณะที่ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ จังหวัดชัยภูมิ แจ้งเตือนประชาชนริมแม่น้ำชีในอำเภอบ้านเขว้า อำเภอเมืองชัยภูมิ และอำเภอคอนสวรรค์ ซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำให้เคลื่อนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง รวมถึงหน่วยงานภาครัฐเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ หลังมวลน้ำจากลำน้ำเจียง ลำน้ำปากห้วยเดื่อ อำเภอหนองบัวแดง ได้ไหลมาสมทบแม่น้ำชี ทำให้มีปริมาณน้ำมากขึ้น และกำลังเคลื่อนตัวลงมายังพื้นที่ดังกล่าว
ส่วนเขื่อนลำปะทาวล่าง ที่รับน้ำป่าจากเทือกเขาภูแลนคา คืนที่ผ่านมา มีฝนตกหนัก ทำให้น้ำล้นทางระบายน้ำฉุกเฉิน หรือสปิลเวย์ เพิ่มขึ้น จากช่วงเย็นวานนี้ล้นอยู่ที่ 49 เซนติเมตรเป็น 53 เซนติเมตรคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 5 วันระดับน้ำจะต่ำกว่าสปิลเวย์
ส่วนจังหวัดเลย ย่างเข้าสู่วันที่ 4 น้ำเลยเริ่มเอ่อล้นท่วมบ้านเรือนประชาชนและท่วมเข้ามาในพื้นที่เศรษฐกิจเป็นวันที่ 2 โดยเช้ามืดวันนี้ที่วงเวียนน้ำพุใจกลางเมืองเลยน้ำสูงถึง 40-60 เซนติเมตร ชาวบ้านร้านค้าส่วนใหญ่ต่างพากันนำกระสอบทรายมากั้นประตูหน้าบ้าน ส่วนที่จุดวัดระดับแม่น้ำเลยล่าสุดวัดได้ที่ 11.60 เมตร น้ำจากอ่างเก็บน้ำเลยยังคงไหลมาเติมอย่างต่อเนื่อง เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมาที่อำเภอภูหลวงฝนตกลงมาอย่างหนัก
จังหวัดสโขทัย เกิดเหตุคันดินถนนเลียบแม่น้ำยม ตำบลยางซ้าย อำเภอเมือง ถูกกระแสน้ำกัดเซาะจนพังทะลายยาวกว่า 15 เมตร น้ำยมไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรกว่า 200 หลังคาเรือน อย่างรวดเร็ว ระดับน้ำในบางจุดลึกกว่า 3 เมตร ต้องเร่งอพยพประชาชนข้าวของเครื่องใช้รวมทั้งสัตว์เลี้ยงไปอาศัยยังที่ปลอดภัย ขณะที่ อบต.ยางซ้าย ได้ประสานจังหวัดสุโขทัยนำเรือท้องแบน รถบรรทุก และเครื่องจักรกลเข้าให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วน ส่วนระดับน้ำแม่น้ำยมที่สถานีวัดน้ำ Y4 หน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัยยังคงทรงตัวอยู่ที่ระดับ 6.97 เมตร อัตราน้ำไหลผ่าน 393.30 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เมื่อเวลา 06.00 น.ที่ผ่านมา ซึ่งยังคงต้องเฝ้าระวังระดับน้ำแม่น้ำยมเอ่อล้นตลิ่งต่อไปตลอด 24 ชม.-สำนักข่าวไทย