กทม.เสริมกระสอบทรายริมเจ้าพระยาสูงอีก 20 ซม. รับน้ำเหนือ-น้ำหนุน

กรุงเทพฯ 29 ก.ย.- กทม.บรรจุกระสอบทรายเสริมความแกร่งเขื่อนริมเจ้าพระยาสูงอีก 20 ซม. รับน้ำเหนือและน้ำหนุน ขณะที่ผู้ว่าฯ กทม.ติดตามสถานการณ์พายุ เฝ้าระวังระดับน้ำในคลองกระทบ กทม.ฝั่งเหนือและตะวันออก คาดวันนี้ กทม.ตกไม่แรง แต่จะตกเล็กน้อยสลับปานกลางตลอดทั้งวัน


เจ้าหน้าที่สำนักการระบายน้ำ กทม. เร่งบรรจุกระสอบทรายบริเวณใต้สะพานสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เขตสาทร เพื่อใช้ป้องกันน้ำทะเลหนุนและน้ำเหนือไหลหลาก โดยวันนี้ตามแผนดำเนินการ 3 จุด คือ ที่บริเวณใต้สะพานรัชวิภา เขตจตุจักร, ใต้สะพานต่างระดับถนนกาญจนาภิเษก บริเวณแก้มลิงเพชรเกษม เขตบางแค และใต้สะพานสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เขตสาทร รวมทั้งหมด 40,000 ใบ และในช่วงเวลาเดียวกันก็มีการเสริมกระสอบทรายบริเวณศูนย์การท่องเที่ยวกรุงเทพมหานคร และใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า เขตพระนคร

การเสริมกระสอบทรายบริเวณเจ้าพระยาจะเป็นการเสริมให้สูงขึ้นกว่าเดิมประมาณ 20 เซนติเมตร หรืออย่างน้อยอยู่ที่ +2.60 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ซึ่งจากข้อมูลระบุในวันนี้ (29 ก.ย.) ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณหน้ากองบัญชาการกองทัพเรือ คำนวณโดยกรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ เมื่อรวมน้ำทะเลหนุนและอิทธิพลต่างๆ แล้ว ช่วงน้ำขึ้นเต็มที่เวลา 08.47 น. สูงกว่าระดับทะเลปานกลาง 1.60 เมตร ส่วนตอนค่ำน้ำขึ้นเต็มที่เวลา 19.24 น. สูงกว่าระดับทะเลปานกลาง 1.76 เมตร


ขณะที่ศูนย์อำนวยการติดตามสถานการณ์พายุไต้ฝุ่นโนรู กรุงเทพมหานคร เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ติดตามสถานการณ์พายุโนรู ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวว่า เมื่อเช้าแวะไปดูที่บริเวณคลองและประตูระบายน้ำพระโขนง ซึ่งพบว่ากำลังมีการเดินเครื่องอย่างเต็มที่ เมื่อคืนมีฝนตกพรำทั้งคืน เมื่อเวลา 04.00 น. ดีเปรสชันกำลังแรงจุดศูนย์กลางอยู่ที่จังหวัดยโสธร เคลื่อนที่ด้วยความเร็วประมาณ 10 กิโลเมตร/ชั่วโมง โดยความเร็วของศูนย์กลางดีเปรสชันประมาณ 55 กิโลเมตร/ชั่วโมง ทิศทางการเคลื่อนที่ผ่านจังหวัดร้อยเอ็ด ชัยภูมิ ขอนแก่น เพชรบูรณ์ พิษณุโลก และตาก ซึ่งเมื่อวานนี้จังหวัดอุบลราชธานีมีฝนตกหนักมาก ปริมาณฝนมากกว่า 200 มิลลิเมตร

ในส่วนของกรุงเทพมหานคร จากเรดาร์ตรวจอากาศของกรุงเทพมหานครพบว่ามีฝนปกคลุมเต็มพื้นที่ โดยตกเล็กน้อยสลับปานกลางตลอดเมื่อคืนนี้ ปริมาณฝน 24 ชั่วโมง ซึ่งตกต่อเนื่องตั้งแต่ 20.00 น.ที่ผ่านมา มีฝนมากทางกรุงเทพฯ เหนือและกรุงเทพฯ ตะวันออก ปริมาณฝนสะสมสูงสุดที่เขตสายไหม 71 มิลลิเมตร ที่เขตคลองสามวา 69 มิลลิเมตร ฝนที่ตกหนักทางตอนเหนือของกรุงเทพมหานครจะมีผลต่อน้ำในทุ่งรังสิตและกระทบมาที่น้ำในคลองของกรุงเทพมหานคร

สถานการณ์น้ำในคลองของกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่ดอนเมือง คลองเปรมประชากร คลองพระยาสุเรนทร์ คลองแสนแสบ คลองประเวศบุรีรมย์ ฝั่งตะวันออกระดับน้ำค่อนข้างสูง แต่ฝั่งตะวันตกไม่มีปัญหา ส่วนหนึ่งมาจากน้ำที่มาจากทุ่งรังสิต อยู่ในระดับ 1.10 เมตร ซึ่งยังไม่รุนแรงเหมือนช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ที่ระดับน้ำอยู่ประมาณ 1.50 เมตร แต่ได้แจ้งเขตที่อยู่ริมคลองให้เฝ้าระวังไว้ เช่น เขตดอนเมือง บริเวณช่างอากาศอุทิศมีน้ำขังเล็กน้อย 5-10 เซนติเมตร ยาวประมาณ 300 เมตร ซึ่ง กทม.กำลังเร่งระบายน้ำออกให้เร็วที่สุด


สำหรับน้ำในคลองลาดพร้าวยังอยู่ในระดับวิกฤติ คลองสองทางด้านบนในเขตสายไหมพื้นที่ริมคลองยังต้องเฝ้าระวัง ส่วนคลองประเวศบุรีรมย์ระดับน้ำอยู่ในค่าวิกฤติ ขณะนี้ที่สถานีสูบน้ำพระโขนง มีการเสริมเครื่องสูบน้ำและเดินเครื่องเต็มที่ ทำให้ระดับน้ำลดลงประมาณ 80 เซนติเมตร ส่วนคลองแสนแสบตอนบนยังมีปัญหาเล็กน้อย

โดยคาดว่าฝนในกรุงเทพฯ วันนี้ จะไม่ได้ตกแรง แต่เป็นการตกเล็กน้อยสลับปานกลางตลอดทั้งวัน สถานการณ์น้ำท่วมขังบนถนนสายหลักเช้าวันนี้ยังไม่พบ แต่จะมีท่วมเล็กน้อยในซอยย่อย เช่น ถนนช่างอากาศอุทิศ เขตดอนเมือง ขอให้ประชาชนวางแผนการเดินทางและระมัดระวัง และให้กำลังใจพี่น้องประชาชนทางภาคอีสานซึ่งเจอฝนหนักมากในขณะนี้ด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]