กรุงเทพฯ 23 ก.ย. – ป.ป.ส. ขยายผลตรวจสอบทรัพย์สินนักธุรกิจชาวเมียนมา พบเชื่อมโยงถึงใครเรียกสอบทันที ขณะที่ผู้ต้องหาอยู่ในเรือนจำก็จะส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปสอบสวน ให้ได้ข้อเท็จจริงถึงที่มาของทรัพย์ที่ยึด-อายัดไว้
นายปิยะศิริ วัฒนวรางกูร รองเลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) และโฆษกสำนักงาน ป.ป.ส. เปิดเผยว่า ทรัพย์สินที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดได้จากการเข้าจับกุมนายตุน มิน ลัต นักธุรกิจชาวเมียนมา อายุ 53 ปี มีทั้งที่ดิน ทองรูปพรรณ บ้านพักอาศัย รถยนต์ และทรัพย์สินอื่นๆ อีกหลายรายการ โดยทรัพย์สินทั้งหมดอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบทำบัญชีอายัดทรัพย์ของตำรวจ ก่อนส่งให้ ป.ป.ส. รับช่วงขยายผลต่อ โดยหน้าที่ของพนักงานสอบสวนจะต้องแยกให้ชัดเจนว่าทรัพย์สินที่ตรวจยึดมามีสิ่งใดเป็นของกลาง ทรัพย์สินใดบ้างที่สงสัยว่าได้จากการฟอกเงิน และทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด
นายปิยะศิริ กล่าวว่า เมื่อเรื่องมาถึง ป.ป.ส. ตามขั้นตอนจะมีการแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ เพื่อสืบสวนทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิดในคดียาเสพติด มีอำนาจในการเรียกสอบผู้ที่พบหลักฐานเชื่อมโยงไป ตรวจสอบเอกสารทางการเงิน หรือ statement รวมทั้งตรวจสอบว่ามีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับเครือข่ายยาเสพติดอื่นๆ อีกด้วยหรือไม่
สำหรับนายตุน มิน ลัต ผู้ต้องหา ที่เจ้าหน้าที่จะต้องเข้าสอบปากคำ ประเด็นการได้มาซึ่งทรัพย์สินที่ถูกยึด-อายัดทั้งหมด หากตัวอยู่ในเรือนจำก็จะส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปสอบสวนถึงที่ในเรือนจำ ซึ่งผู้ต้องหามี 3 แนวทางในการต่อสู้ถึงการได้มาของทรัพย์สินว่าได้มาถูกต้อง คือ 1.นำหลักฐานมาชี้แจง 2.ใช้การอุทธรณ์ในกรณีที่ทรัพย์ถูกยึดแล้ว และ 3.ใช้ช่องทางศาลเพื่อโต้แย้ง โดย ป.ป.ส. จะสอบสวนตรวจสอบทุกคนที่มีหลักฐานพาดพิงถึง
มีรายงานว่าหากการขยายผลหรือสืบสวนหาที่มาที่ไปของทรัพย์สินของนายตุน มิน ลัต พบว่ามีการโอนเงินไปยังนักการเมืองไทยเป็นเรื่องจริง ป.ป.ส. ก็จะเรียกนักการเมืองคนนั้นที่ถูกพาดพิงให้มาชี้แจงตามขั้นตอนเช่นกัน.-สำนักข่าวไทย