ครม.ตัดเงื่อนไข “บ้านหลังแรก”

ทำเนียบฯ 18 เม.ย. – ครม.เห็นชอบผ่อนเงื่อนไขบ้านธนารักษ์ประชารัฐ และบ้านประชารัฐ  ตัดคำว่า “บ้านหลังแรก” เปิดทางรายย่อยมีบ้านพักอาศัยเพิ่มขึ้น


นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบปรับปรุงหลักเกณฑ์และเงื่อนไขโครงการบ้านประชารัฐและโครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐ เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาทั้ง 2 โครงการ มียอดอนุมัติสินเชื่อน้อยมาก เนื่องจากมีข้อกำหนดเข้มงวดทางปฏิบัติ ดังนั้น กระทรวงการคลังจึงเสนอผ่อนปรนเงื่อนไขเพิ่ม สำหรับโครงการบ้านประชารัฐ 1.ยกเลิกข้อกำหนดคุณสมบัติ  “ต้องไม่เคยมีกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัยมาก่อน”  เปลี่ยนเป็น  “มีกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัยเข้าร่วมโครงการได้”  เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยที่ขายบ้านไปแล้ว แต่ปัจจุบันไม่มีบ้านและต้องการขอสินเชื่อเพื่อซื้อที่อยู่อาศัยเข้าถึงแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำได้ 

2.แก้ไขการสินเชื่อปลูกสร้างที่อยู่อาศัย (Post Finance) วงเงินสินเชื่อไม่เกิน 1.5 ล้านบาทต่อราย จากข้อกำหนดเดิมให้รวมราคาที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ทำให้กู้เงินสร้างบ้านน้อยมากและไม่จูงใจให้กู้เงิน  จึงเปลี่ยนเป็น  “ไม่ต้องนำราคาประเมินที่ดินมารวมคำนวณการสร้างบ้าน”  เพื่อให้ประชาชนขอกู้ทั้งซ่อมแซม และปลูกสร้างบ้านเพิ่ม เนื่องจากสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยบ้านประชารัฐอนุมัติสินเชื่อ 13,631 ราย วงเงินสินเชื่อ 11,335  ล้านบาท จากวงเงินทั้งโครงการ 40,000 ล้านบาท จากผู้ยื่นขอสินเชื่อ 36,394 ราย วงเงินสินเชื่อต้องการ 36,500 ล้านบาท นับว่ามีเพียง 1 ใน 4 ของเป้าหมายเท่านั้น    


สำหรับการดำเนินโครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐ เสนอแก้ไขปรับปรุง คือ โครงการเช่าระยะสั้นเปิดให้เฉพาะเจ้าหน้าที่รัฐเช่าอาศัยระยะเวลา 5 ปี จากเดิมกำหนดให้เพียงเจ้าหน้าที่รัฐไม่เคยมีกรรมสิทธิ์เข้าพักอาศัยและมีรายได้ไม่เกิน 20,000 บาทต่อเดือนในวันที่ยื่นจองสิทธิ์ เปลี่ยนเป็นเจ้าหน้าที่รัฐที่มีรายได้ไม่เกิน 20,000 บาทต่อเดือนในวันที่จองสิทธิ์ ทำให้เจ้าหน้าที่รัฐย้ายงานมาจากต่างจังหวัดสามารถยื่นเช่าระยะสั้นได้ ส่วนโครงการเช่าระยะยาว จากเจ้าหน้าที่ของรัฐและประชาชนไม่เคยมีกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยมาก่อน เพิ่มเป็นเจ้าหน้าที่รัฐและประชาชนปัจจุบันไม่มีกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัยได้  

นายกอบศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การปล่อยสินเชื่อให้เอกชนก่อสร้าง 2 โครงการ  ณ วันที่ 27 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แบงก์รัฐอนุมัติสินเชื่อผู้ประกอบการสำหรับพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย 3 ราย วงเงิน 257 ล้านบาท จากวงเงินทั้งหมด 30,000 ล้านบาท ยอมรับว่ามีสัดส่วนน้อยมาก เนื่องจากเอกชนหันไปออกหุ้นกู้ด้วยตนเอง เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยคงที่ระยะยาว 15 ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3-4 ขณะที่การกู้เงินจากแบงก์มีแนวโน้มปรับขึ้นลง แต่เงื่อนไขดังกล่าวไม่ได้ผ่อนปรนเพิ่ม เพื่อให้เป็นทางเลือกของภาคเอกชน  โครงการสร้างที่อยู่อาศัยทั้ง 2 โครงการจึงไม่มีคำว่า “บ้านหลังแรก” เพื่อเปิดกว้างให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งเงินทุนมากขึ้น  

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาโครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐ กรณีการปลูกสร้างที่อยู่อาศัยใหม่ ณ วันที่ 30 กันยายน 2559 มีผู้ลงทะเบียนจองสิทธิ์มายื่นขอใช้สิทธิ 406 ราย จากยอดลงทะเบียนจอง 2,322 ราย ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติเพียง 388 ราย ขณะที่การซ่อมแซมหรือต่อเติมที่อยู่บนที่ดินที่ราชพัสดุ กรมธนารักษ์ออกหนังสือรับรองให้แก่ผู้เช่าสำหรับใช้เป็นหลักฐานการยื่นขอกู้ 191 ราย วงเงิน 70.85  ล้านบาท ส่วนการสร้างโครงการบ้านธนารักษ์ 1,442 หน่วยย มีผู้จอง 2,322 ราย แต่กู้ได้เพียง 300 ราย นับว่ายังมีจำนวนน้อยมาก จึงต้องการเปิดโอกาสให้ผู้มีรายได้น้อยเพิ่ม.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นร.หญิง ม.1 จมทะเลดับ หลังโรงเรียนพาไปทัศนศึกษาที่ระยอง

โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งใน จ.นครราชสีมา พานักเรียนไปทัศนศึกษาที่ จ.ระยอง นักเรียนหญิง ม.1 ถูกคลื่นดูดลงทะเลขณะเล่นน้ำ เสียชีวิต พ่อแม่สุดเศร้าสูญเสียลูกสาวคนเดียวของครอบครัว

น้ำท่วมเชียงใหม่

เชียงใหม่จมบาดาล น้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์

น้ำท่วมในตัวเมืองเชียงใหม่ ยังวิกฤติ หลังน้ำในลำน้ำปิงขึ้นสูงสุดทรงตัวสูงกว่า 5.30 เมตร ซึ่งสูงที่สุดตั้งแต่มีการวัดระดับน้ำปิง

น้ำท่วมขนส่งเชียงใหม่กระทบผู้โดยสาร เปิดจุดจอดรับ-ส่งชั่วคราว

น้ำขยายวงกว้างเข้าท่วมสถานีขนส่งเชียงใหม่แห่งที่ 2 และ 3 เต็มพื้นที่ ระดับน้ำสูงเกือบ 50 ซม. ผู้ประกอบการขนส่งต้องนำรถทัวร์โดยสารออกมาจอดรับ-ส่งบนถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ ยืนยันผู้ประกอบการยังให้บริการตามปกติ

ระทึก! แท็กซี่พลิกคว่ำเกิดเพลิงไหม้ 5 ชีวิตรอดหวุดหวิด

รถแท็กซี่พลิกคว่ำและเกิดเพลิงลุกไหม้กลางถนนพระราม 9 ผู้โดยสารหญิงสติดีถีบประตูช่วยตัวเองและคนอื่นออกมาจากตัวรถรวม 5 ชีวิตได้ทัน แต่ในจำนวนนี้บาดเจ็บสาหัส 1 คน เป็นคนขับแท็กซี่ ตำรวจเร่งสอบสวนหาสาเหตุ

ข่าวแนะนำ

กต.ย้ำมีแผนพร้อมอพยพคนไทยในอิสราเอล-เลบานอน

กต.ประชุมประเมินสถานการณ์อิสราเอล-ฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน ย้ำมีแผนอพยพพร้อม เผย 5 แรงงานไทยเตรียมเดินทางกลับ แนะประชาชนตัดสินใจก่อนน่านฟ้าปิด

เตรียมตั้ง 7 เตาไฟฟ้า พิธีพระราชทานเพลิงศพ นร.-ครู 23 คน

เตรียมพื้นที่ตั้ง 7 เตาไฟฟ้า กลางสนามโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จ.อุทัยธานี ในพิธีพระราชทานเพลิงศพ นักเรียน-ครู 23 คน เหยื่อไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา วันที่ 8 ต.ค.นี้

เชียงใหม่ยังอ่วม เจอน้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์

แม้ระดับน้ำปิงที่ทะลักท่วมตัวเมืองเชียงใหม่เริ่มลดลง จากที่เคยขึ้นสูงสุดถึง 5.30 เมตร ซึ่งถือว่าสูงที่สุดเท่าที่เคยวัดระดับมา จนทำให้เชียงใหม่เผชิญกับน้ำท่วมครั้งใหญ่สุดเป็นประวัติการณ์ บ้านเรือนหลายพันหลังและย่านการค้ายังจมน้ำ บางจุดยังท่วมสูงกว่า 2 เมตร ยังต้องเร่งอพยพผู้คนออกจากพื้นที่น้ำท่วม หลายคนต้องใช้ชีวิตอยู่ในรถที่จอดบนสะพาน

ภาคกลางเริ่มกระทบ น้ำเจ้าพระยาเอ่อท่วมบ้านประชาชน

น้ำเจ้าพระยาล้นข้ามถนนเข้าท่วมบ้านกว่า 30 หลังคาเรือน ต.ชีน้ำร้าย อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ส่วนชุมชุนริมท่าน้ำปากเกร็ด เริ่มกระทบ