กรุงเทพฯ 16 ก.ย.-กรมศุลกากร พร้อมรับชำระภาษีนำเข้าหมื่นล้านบาท จากการนำเข้าชิ้นส่วนมาผลิตรถยนต์โตโยต้า รุ่นพรีอุส 10 ปีก่อน ยืนยันไม่ได้รับสิทธิ JTEPA
นายชัยยุทธ คำคุณ รองอธิบดีกรมศุลกากร ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร กล่าวว่า คำพิพากษาศาลฎีกา จากศาลภาษีอากรกลาง คดีระหว่างบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด โจทก์ และกรมศุลกากร จำเลยที่ 1 กรมสรรพากร จำเลยที่ 2 รวม 10 คดี ตัดสินให้ โตโยต้าต้องจ่ายภาษีนำเข้ามูลค้า 1 หมื่นล้านบาท ทางบริษัทโตโยต้า คงต้องปฏิบัติตามคำพิพากษา ด้วยการชำระค่าภาษีนำเข้ากับกรุมศุลกากรภายใน 30 วัน โดยเป้าหมายการจัดเก็บอากรนำเข้าในปี 65 วงเงิน 1.5 แสนล้านบาท ใกล้สิ้นปีงบประมาณสิ้นเดือนกันยายนนี้ยังเกินเป้าหมายเล็กน้อย
หลังจากโตโยต้า โจทก์นำเข้าชิ้นส่วนรถยนต์เพื่อนำมาผลิตรถยนต์โตโยต้า รุ่นพรีอุส ระหว่างปี 2553-2555 ได้อาศัยสิทธิ การลดอัตราอากร และยกเว้นอากรศุลกากร ตามมาตรา 12 และมาตรา 14 แห่ง พ.ร.ก.พิกัดอัตราศุลกากรพ.ศ. 2530 และตามความตกลงระหว่างไทยและญี่ปุ่น สำหรับความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ (JTEPA) และได้สู้คดีกันมากว่า 10 ปี
ยืนยันว่า โตโยต้า ต้องปฏิบัติการหลักเกณฑ์การนำเช้าชิ้นส่วนมาประกอบให้เป็นรถยนต์สำเร็จรูปภายในประเทศตามกฎหมายศุลกากร และศุลกากรโลก โดยต้องเสียอากรร้อยละ 80 เพราะการนำเข้าชิ้นส่วนดังกล่าว เหมือนการนำรถยนต์สำเร็จรูป เพียงประกอบชิ้นส่วนเข้าด้วยกันเล็กน้อย ไม่เหมือนกันการนำเข้าชิ้นส่วนขนาดเล็ก หลายชิ้นจากนั้นมาผลิตและประกอบเป็นรถยนต์ของหลายยี่ห้อ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลฎีกาแผนกคดีภาษีอากร เห็นว่า ชิ้นส่วนรถยนต์ที่โจทก์ (โตโยต้า)นำเข้า เมื่อประกอบเข้าด้วยกันแล้ว มีลักษณะเป็นสาระสำคัญของรถยนต์โตโยต้า รุ่นพรีอุส และสามารถนำไปประกอบเป็นรถยนต์โตโยต้ารุ่นพรีอุสได้ทันที จึงถือว่าเป็นเข้าชิ้นส่วนที่สมบูรณ์หรือนำเข้ารถยนต์สำเร็จแล้ว เพียงถอดแยกออกจากกันหรือยังไม่ได้ประกอบเข้าด้วยกัน นับเป็นชิ้นส่วนครบชุดสมบูรณ์ จึงไม่ได้รับยกเว้นอากร และลดอัตราอากรตามประกาศกระทรวงการคลังที่ออกมาเพื่อให้เป็นไปตามตกลง JTEPA และไม่ได้รับสิทธิยกเว้นอากรตามประกาศกาศกระทรวงการคลัง และยังไม่ได้รับสิทธิลดอัตราอากร ขาเข้าร้อยละ 30 ตาม พ.ร.ก.พิกัดอัตราศุลกากรฯ ดังนั้น การประเมินและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ ให้คิดอากรขาเข้าร้อยละ 80 เห็นชอบแล้ว.-สำนักข่าวไทย