ลอนดอน 8 พ.ย.- มาร์คแอนด์สเปนเซอร์ ร้านค้าปลีกชื่อดังของอังกฤษจะปิดสาขาในประเทศ 30 แห่ง ต่างประเทศ 53 แห่ง ตามนโยบายของผู้บริหารใหม่ที่ต้องการกอบกู้ธุรกิจด้วยการมุ่งจำหน่ายอาหารมากกว่าเสื้อผ้าและของใช้ในบ้าน
ราคาหุ้นของมาร์คแอนด์สเปนเซอร์ร่วงไปแล้วร้อยละ 22 ในปีนี้ ขณะที่กำไรช่วงครึ่งแรกของปีนี้ลดลงร้อยละ 18.6 นายสตีฟ โรว์ วัย 49 ปี ที่ขึ้นเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) เมื่อเดือนเมษายนหลังจากทำงานกับบริษัทมานานถึง 26 ปี ประกาศฟื้นฟูบริษัทเก่าแก่ที่ตั้งมานาน 132 ปี ให้มีความเรียบง่าย มีความสำคัญ และมีช่องทางหลากหลายขึ้น โดยเน้นเรื่องการมีรายได้ที่ยั่งยืน
ก่อนหน้านี้นายโรว์พยายามฟื้นฟูธุรกิจเสื้อผ้าและเครื่องใช้ในบ้านที่มียอดจำหน่ายตกต่ำ แต่ล่าสุดได้ประกาศในวันนี้ว่าจะปรับปรุงสาขาที่มีอยู่กว่า 900 แห่งทั่วโลกให้คล่องตัวขึ้นภายใน 5 ปี ด้วยการลดพื้นที่จำหน่ายเสื้อผ้าและเครื่องใช้ในบ้านลง 1 ใน 4 ปิดสาขาในสหราชอาณาจักร 30 สาขา ปรับปรุงสาขาในสหราชอาณาจักรให้จำหน่ายแต่อาหาร 45 สาขา และย้ายสาขาอีกหลายแห่ง คาดว่าต้องใช้เงินในการนี้ 50 ล้านปอนด์ (ราว 2,172.50 ล้านบาท) ในช่วง 3 ปีข้างหน้า ก่อนจะเพิ่มเป็น 100 ล้านปอนด์ (ราว 4,345 ล้านบาท) ในปีที่ 4 และปีที่ 5 สาเหตุที่มุ่งขยายธุรกิจอาหารเนื่องจากทำรายได้กว่าครึ่งของรายได้ทั้งหมดและทำกำไร 1 ใน 3 นายโรว์เผยเมื่อเดือนพฤษภาคมว่าจะเพิ่มร้านจำหน่ายอาหารอีก 200 ร้านภายในปี 2562
นอกจากนี้มาร์คแอนด์สเปนเซอร์ยังจะปิดสาขาในตลาดที่ขาดทุน 10 ประเทศ เช่น จีน ฝรั่งเศส โดยเหลือไว้แต่สาขาที่ให้แก่ผู้ค้ารายย่อย คาดว่าจะลดการขาดทุนลงได้ปีละ 45 ล้านปอนด์ (ราว 1,954 ล้านบาท) ปัจจุบันบริษัทมีสาขา 468 แห่งใน 58 ประเทศ แยกเป็นสาขาของบริษัท 194 แห่ง และสาขาที่ให้แก่ผู้ค้ารายย่อย 274 แห่ง.-สำนักข่าวไทย