นนทบุรี 13 เม.ย. – นายกรัฐมนตรีเตรียมเยือนบาห์เรน 24-26 เมษายนนี้ หารือกระชับความสัมพันธ์การค้าการลงทุน และแก้ไขปัญหาอุปสรรคระหว่างกัน
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีกำหนดเยือนกรุงมานามา ราชอาณาจักรบาห์เรน ตามคำเชิญของเจ้าชายคอลิฟะห์ บินซัลมาน อัลคอลิฟะห์ นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรบาห์เรน ระหว่างวันที่ 24 – 26 เมษายน 2560 เพื่อหารือโอกาสสานต่อการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกันด้านต่าง ๆ ในโอกาสเดียวกันนี้ตนจะเข้าร่วมคณะเดินทางดังกล่าวด้วย เพื่อร่วมหารือแนวทางการสานต่อการส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ขยายมูลค่าการค้าและการลงทุนระหว่างไทยและบาห์เรน และแก้ไขปัญหาอุปสรรคระหว่างกัน ซึ่งไทยจะพยายามเสนอโอกาสการส่งเสริมนโยบายชาติระหว่างกัน โดยไทยสามารถสนับสนุนนโยบาย food security ให้บาห์เรน ขณะเดียวกันบาห์เรนสามารถสนับสนุนนโยบาย energy security ให้ไทย
ทั้งนี้ ในโอกาสที่ทั้ง 2 ฝ่ายสามารถใช้ประโยชน์จากความได้เปรียบเชิงสภาพที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ในฐานะประตูการค้าซึ่งกันและกัน โดยที่ตั้งของบาห์เรนเป็นจุดผ่านสินค้าเข้าสู่ตลาดอื่นที่สำคัญ เช่น กลุ่มประเทศรัฐอ่าวอาหรับ (GCC) โดยเฉพาะซาอุดีอาระเบีย เพราะมีชายแดนติดกัน นอกจากนี้ ยังสามารถส่งออกไปตลาดนอกภูมิภาค ได้แก่ แอฟริกาตอนเหนือ เอเชียใต้ และเอเชียกลาง ขณะที่ไทยตั้งอยู่ในเขตเศรษฐกิจที่มีความเชื่อมโยงไปยัง CLMV ASEAN และ RCEP นอกจากนี้ ไทยจะพยายามเสนอขอให้บาห์เรนพิจารณานำเข้าสินค้าเกษตรและอาหารจากไทยโดยเฉพาะอาหารฮาลาลเพิ่มขึ้น รวมทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพให้แก่นักท่องเที่ยวชาวบาห์เรน ซึ่งจะช่วยกระชับความสัมพันธ์การค้าและการลงทุนให้แน่นแฟ้นมากขึ้น และทั้ง 2 ฝ่ายจะหารือรายละเอียดต่อไปภายใต้คณะกรรมการอำนวยการร่วม (Joint Steering Committee: JSC) ตามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านความมั่นคงด้านอาหาร การค้าและการลงทุนในผลิตภัณฑ์และโภคภัณฑ์การเกษตร โดยเฉพาะอาหารฮาลาลระหว่างไทยกับบาห์เรน
สำหรับการค้าระหว่างไทยกับบาห์เรน 5 ปีที่ผ่านมา (2555 -2559) มีมูลค่าเฉลี่ยปีละ 447.78 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2559 บาห์เรนเป็นคู่ค้าอันดับ 63 ของไทยในตลาดโลก และอันดับ 9 ในภูมิภาคตะวันออกกลาง โดยการค้า 2 ฝ่ายมีมูลค่า 300.59 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงร้อยละ 26 จากปี 2558 และมีสัดส่วนการค้าคิดเป็นร้อยละ 0.07 ของมูลค่าการค้าทั้งหมดของไทย และไทยเป็นฝ่ายเกินดุลการค้า 79.5 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยการส่งออกสินค้าของไทยไปบาห์เรน มีมูลค่า 190.05 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงจากปี 2558 ร้อยละ 12.74 ขณะที่ไทยนำเข้าจากบาห์เรน 110.55 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงจากปี 2558 ร้อยละ 41.32
ส่วนสินค้าส่งออกของไทย ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องคอมเพรสเซอร์ของเครื่องทำความเย็น ตู้เย็น ตู้แช่แข็ง เครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่อง ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ ผลิตภัณฑ์พลาสติกเครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ ทองแดงและของทำด้วยทองแดง และเครื่องซักผ้าและซักแห้ง เป็นต้น ขณะที่สินค้านำเข้าจากบาห์เรน ได้แก่ น้ำมันสำเร็จรูป สินแร่โลหะอื่น ๆ เศษโลหะและผลิตภัณฑ์ ปุ๋ย และยากำจัดศัตรูพืชและสัตว์เครื่องประดับอัญมณี สัตว์น้ำสดแช่เย็น แช่แข็ง แปรรูป เยื่อกระดาษและเศษกระดาษ เคมีภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์อาหารอื่น ๆ ผ้าผืน และเหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เป็นต้น.-สำนักข่าวไทย