“ตรีนุช” กำชับ สพฐ.ดำเนินการทางวินัยครูลงโทษเด็กเกินเหตุ

ก.ศึกษาฯ 24 ส.ค. – “ตรีนุช” รมว.ศึกษาธิการ สั่ง สพฐ.ตั้งกรรมการสอบทางวินัยครูโรงเรียนแห่งหนึ่ง ลงโทษนักเรียนรุนแรงเกินเหตุ ย้ำเรื่องแบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้นอีก ความรุนแรงในสถานศึกษาไม่ควรมี


นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวถึงกรณีคลิปครูผู้ชายโรงเรียนอิสลามวิทยาลัยแห่งประเทศไทย สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) กรุงเทพมหานคร เขต 1 ได้ลงโทษนักเรียนชายชั้น ม.2 ที่เล่นฟุตบอลในห้องเรียน ด้วยการให้นักเรียนนั่งคุกเข่าพร้อมลูกบอล ใช้เท้าเตะไปที่ฟุตบอลที่นักเรียนถืออยู่ ใช้มือตบศีรษะนักเรียน และใช้ถ้อยคำรุนแรง ว่า ตนได้รับรายงานจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ว่า ขณะนี้ทางโรงเรียนได้ตั้งคณะกรรมการสอบทางวินัย และปลดครูคนดังกล่าวออกจากการเป็นหัวหน้ากลุ่มสาระแล้ว ขณะเดียวกันก็ได้พานักเรียนไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล โดยโรงเรียนรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด พร้อมพูดคุยกับผู้ปกครองนักเรียนและมอบเงินช่วยเหลือ จำนวน 2,000 บาท และทาง สพม.กท.1 ได้ย้ายครูไปทำงานที่สำนักงานเขตพื้นที่ฯ เป็นการชั่วคราวแล้ว ซึ่งตนได้กำชับทาง สพฐ.ไปว่าเรื่องแบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้นอีก และความรุนแรงในสถานศึกษาก็ไม่ควรมีแล้ว เรื่องสถานศึกษาปลอดภัย Safety Center เป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ที่ตนได้เน้นย้ำมาโดยตลอดว่าการดูแลความปลอดภัยทั้งร่างกายและจิตใจของนักเรียนเป็นสิ่งสำคัญ เมื่อเกิดเหตุใด ๆ ขึ้น ระบบและวิธีการที่ ศธ.วางไว้ต้องดำเนินการอย่างรวดเร็ว ต้องช่วยเหลือนักเรียนทันที เพื่อให้โรงเรียนเป็นสถานที่ปลอดภัยสำหรับนักเรียน

“ดิฉันขอเน้นย้ำว่าการลงโทษนักเรียน หากทำเกินกว่าเหตุโดยไม่ปฏิบัติตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษนักเรียนของ ศธ. นอกจากจะมีความผิดทางวินัยราชการแล้ว อาจยังผิดจรรยาบรรณวิชาชีพครู และอาจจะเข้าข่ายผิดกฎหมายอาญาในข้อหาทำร้ายร่างกายและจิตใจผู้อื่นด้วย ทั้งนี้ ตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษนักเรียนของ ศธ. ได้ห้ามลงโทษนักเรียนและนักศึกษาด้วยวิธีรุนแรง หรือแบบกลั่นแกล้ง หรือลงโทษด้วยความโกรธ หรือด้วยความพยาบาท และให้เป็นไปเพื่อเจตนาที่จะแก้นิสัยและความประพฤติไม่ดีของนักเรียน หรือนักศึกษาให้รู้สำนึกในความผิดและกลับประพฤติตนในทางที่ดีต่อไป ซึ่งอยากฝากให้ครูเลือกใช้วิธีในการปรับพฤติกรรมนักเรียนที่เหมาะสม และเชื่อว่าเด็กรุ่นใหม่พูดคุยด้วยเหตุผลได้” รมว.ศธ.กล่าว และว่า หากยังพบครูที่ประพฤติตนไม่เหมาะสม ไม่ปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับ หน่วยงานต้นสังกัดก็ต้องดำเนินการทางวินัยกับครูคนนั้นอย่างจริงจัง และสิ่งที่เกิดขึ้นจะเป็นบทเรียนสำคัญให้หน่วยงานทางการศึกษาทุกระดับเร่งรัด หรือวางมาตรการป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก. -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นร.หญิง ม.1 จมทะเลดับ หลังโรงเรียนพาไปทัศนศึกษาที่ระยอง

โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งใน จ.นครราชสีมา พานักเรียนไปทัศนศึกษาที่ จ.ระยอง นักเรียนหญิง ม.1 ถูกคลื่นดูดลงทะเลขณะเล่นน้ำ เสียชีวิต พ่อแม่สุดเศร้าสูญเสียลูกสาวคนเดียวของครอบครัว

น้ำท่วมเชียงใหม่

เชียงใหม่จมบาดาล น้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์

น้ำท่วมในตัวเมืองเชียงใหม่ ยังวิกฤติ หลังน้ำในลำน้ำปิงขึ้นสูงสุดทรงตัวสูงกว่า 5.30 เมตร ซึ่งสูงที่สุดตั้งแต่มีการวัดระดับน้ำปิง

น้ำท่วมขนส่งเชียงใหม่กระทบผู้โดยสาร เปิดจุดจอดรับ-ส่งชั่วคราว

น้ำขยายวงกว้างเข้าท่วมสถานีขนส่งเชียงใหม่แห่งที่ 2 และ 3 เต็มพื้นที่ ระดับน้ำสูงเกือบ 50 ซม. ผู้ประกอบการขนส่งต้องนำรถทัวร์โดยสารออกมาจอดรับ-ส่งบนถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ ยืนยันผู้ประกอบการยังให้บริการตามปกติ

ระทึก! แท็กซี่พลิกคว่ำเกิดเพลิงไหม้ 5 ชีวิตรอดหวุดหวิด

รถแท็กซี่พลิกคว่ำและเกิดเพลิงลุกไหม้กลางถนนพระราม 9 ผู้โดยสารหญิงสติดีถีบประตูช่วยตัวเองและคนอื่นออกมาจากตัวรถรวม 5 ชีวิตได้ทัน แต่ในจำนวนนี้บาดเจ็บสาหัส 1 คน เป็นคนขับแท็กซี่ ตำรวจเร่งสอบสวนหาสาเหตุ

ข่าวแนะนำ

ไทยตอนบนฝนน้อย-อีสานอากาศเย็นตอนเช้า

กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยตอนบนมีฝนน้อย โดยภาคอีสานมีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 20%

กต.ย้ำมีแผนพร้อมอพยพคนไทยในอิสราเอล-เลบานอน

กต.ประชุมประเมินสถานการณ์อิสราเอล-ฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน ย้ำมีแผนอพยพพร้อม เผย 5 แรงงานไทยเตรียมเดินทางกลับ แนะประชาชนตัดสินใจก่อนน่านฟ้าปิด

เตรียมตั้ง 7 เตาไฟฟ้า พิธีพระราชทานเพลิงศพ นร.-ครู 23 คน

เตรียมพื้นที่ตั้ง 7 เตาไฟฟ้า กลางสนามโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จ.อุทัยธานี ในพิธีพระราชทานเพลิงศพ นักเรียน-ครู 23 คน เหยื่อไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา วันที่ 8 ต.ค.นี้

เชียงใหม่ยังอ่วม เจอน้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์

แม้ระดับน้ำปิงที่ทะลักท่วมตัวเมืองเชียงใหม่เริ่มลดลง จากที่เคยขึ้นสูงสุดถึง 5.30 เมตร ซึ่งถือว่าสูงที่สุดเท่าที่เคยวัดระดับมา จนทำให้เชียงใหม่เผชิญกับน้ำท่วมครั้งใหญ่สุดเป็นประวัติการณ์ บ้านเรือนหลายพันหลังและย่านการค้ายังจมน้ำ บางจุดยังท่วมสูงกว่า 2 เมตร ยังต้องเร่งอพยพผู้คนออกจากพื้นที่น้ำท่วม หลายคนต้องใช้ชีวิตอยู่ในรถที่จอดบนสะพาน