กรุงเทพฯ 18 ส.ค.- “สารัชถ์ รัตนาวะดี” แห่ง GULF แซงหน้าเจ้าสัวรายอื่น ขึ้นแท่นเศรษฐี เบอร์ 1 ในไทย ล่าสุด GULF ปิดการขายหุ้นกู้ได้ตามเป้า รวม 35,000 ล้านบาท
การจัดอันดับเศรษฐีทางเว็บไซต์ The World’s Real-time Billionaires โดยนิตยสาร Forbes รายงาน ณ วันที่ 18 สิงหาคม 2565 ว่านายสารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด(มหาชน) หรือ GULF ขึ้นเป็นเศรษฐี เบอร์ 1 ในประเทศไทย ด้วยความมั่งคั่งกว่า 420,000 ล้านบาท (11,800 ล้านเหรียญสหรัฐ) ส่วนนายเจริญ สิริวัฒนภักดี เจ้าสัวเบียร์ช้าง และ นายธนินท์ เจียรวนนท์ เจ้าสัวซีพี อยู่ในอันดับที่ 2 และ3 มีความมั่งคั่งอยู่ที่ 4.17 แสนล้านบาท (11,700 ล้านเหรียญสหรัฐ) และ 4.1 แสนล้านบาท (11,500 ล้านเหรียญสหรัฐ) ตามลำดับ
นอกจากการดำเนินธุรกิจในอุตสาหกรรมพลังงานและโครงสร้างพื้นฐาน ในช่วงที่ผ่านมา Gulf Energy Development เริ่มรุกเข้าไปในธุรกิจอื่นๆ ได้แก่ธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลอื่นๆ เช่น บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์จำกัด(มหาชน) ขึ้นเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ และอินทัชเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด(มหาชน) หรือเอไอเอส ทั้งยังรุกตลาดคริปโทเคอร์เรนซี โดยร่วมมือกับ Binance แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโทรายใหญ่สุดของโลก เพื่อตั้งศูนย์ซื้อขายในไทยเมื่อต้นปีที่ผ่านมา
ส่วนบุคคลที่รวยที่สุดในโลก ได้แก่ อีลอน มัสก์ ประธานกรรมการบริหารของเทสล่า มอเตอร์ และ SpaceX ฯลฯ ด้วยทรัพย์สิน 268,400 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 9,581,880 ล้านบาท ลดลง 0.65 %
นางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน GULF เปิดเผยว่า บริษัทฯ ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในการเสนอขายหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ โดยสามารถระดมทุนได้ 35,000 ล้านบาท ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ ซึ่งหลังจากนี้ บริษัทฯ จะเดินหน้าขยายธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป
สำหรับหุ้นกู้ซึ่งเสนอขายให้กับกลุ่มผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่นั้น มี 3 ชุด คือรุ่นอายุ 3 ปี 5 ปี และ 10 ปี มูลค่ารวม 11,000 ล้านบาท โดยมีการ book building ไปเมื่อช่วงปลายเดือนกรกฎาคม และเสนอขายไปเมื่อวันที่ 2-4 สิงหาคม 2565 โดยมีอัตราดอกเบี้ยคงที่เฉลี่ย 3.57%ต่อปี ส่วนหุ้นกู้ซึ่งเสนอขายให้กับประชาชนทั่วไปเมื่อวันที่15-17 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมานั้น มี 2 รุ่นอายุ คือ 4 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.50% ต่อปี และ 7 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่3.90% ต่อปี มูลค่ารวม 24,000 ล้านบาท
โดยอันดับความน่าเชื่อถือองค์กรของ GULF อยู่ที่ “A” แนวโน้ม “คงที่” และหุ้นกู้ทุกชุดได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ที่ระดับ “A-” จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2565 .-สำนักข่าวไทย