TNA News-Now-Next: จับตาเลือกตั้งแคนาดาเพื่อรับมือทรัมป์

Mark Carney announces dissolution of the Parliamentคาร์นีย์ประกาศยุบสภา

ออตตาวา 25 มี.ค. – นายมาร์ค คาร์นีย์ ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของแคนาดา ประกาศจัดเลือกตั้งทั่วไปก่อนกำหนดในวันที่ 28 เมษายนนี้ เพื่อขออาณัติจากประชาชนรับมือมาตรการทางภาษีและภัยคุกคามด้านอธิปไตย จากประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ


จากนักการเงินสู่นักการเมือง

นายคาร์นี วัย 60 ปี เป็นอดีตผู้ว่าการธนาคารกลางแคนาดาปี 2551-2556 และอดีตผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษปี 2556-2563 ถือเป็นผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษคนแรกที่ไม่ใช่คนอังกฤษ เขาไม่มีประสบการณ์ทางการเมืองหรือการหาเสียงเลือกตั้งมาก่อน แต่ได้ก้าวขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคเสรีนิยม ที่เป็นพรรครัฐบาลแคนาดา และสาบานตนเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่เมื่อวันที่ 14 มีนาคม หลังจากรัฐบาลสหรัฐของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เริ่มข่มขู่คุกคามแคนาดาทั้งการใช้มาตรการทางภาษี และประกาศเจตจำนงต้องการให้แคนาดาเป็นรัฐที่ 51 ของสหรัฐ สอดคล้องกับช่วงเวลาที่นายจัสติน ทรูโด กำลังเผชิญแรงเสียดทานทางการเมืองภายในประเทศ ต้องยอมลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรครัฐบาล และก้าวลงจากเก้าอี้นายกรัฐมนตรีในที่สุด


Mark Carney takes oath as Canada PM
คาร์นีย์สาบานตนรับตำแหน่ง

แต่เมื่อวันที่ 23 มีนาคมที่ผ่านมา นายคาร์นีย์ประกาศยุบสภา เพื่อจัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไปก่อนกำหนด ที่จะมีขึ้นอย่างรวดเร็วในวันที่ 28 เมษายนนี้ หรืออีกเพียง 5 สัปดาห์ จากกำหนดเลือกตั้งเดิม คือวันที่ 20 ตุลาคม เพื่อต้องการอาณัติที่แข็งแกร่งจากประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ในการรับมือกับภัยคุกคามจากมาตรการทางภาษีของประธานาธิบดีทรัมป์ของสหรัฐ ที่ส่งผลกระทบอย่างมากต่อเศรษฐกิจของแคนาดา และระบุว่า แคนาดากำลังเผชิญวิกฤติสำคัญที่สุดในช่วงอายุของทุกคนในประเทศ เพราะมาตรการและนโยบายที่ไม่ยุติธรรมของประธานาธิบดีทรัมป์กำลังเป็นภัยคุกคามต่ออธิปไตยของแคนาดา

ใครจะเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป

การเลือกตั้งทั่วไปของแคนาดาไม่แตกต่างจากการเลือกตั้งทั่วไปของอังกฤษ ที่มีผู้มีสิทธิออกเสียงไม่ได้ไปหย่อนบัตรเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี แต่เลือกพรรคการเมืองที่ตนเองชื่นชอบที่สุด พรรคใดที่ได้ครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร หัวหน้าพรรคนั้นก็จะได้ครองตำแหน่งนายกรัฐมนตรี


นั่นทำให้การเลือกตั้งทั่วไปรอบนี้ นายคาร์นีย์จะต้องแข่งขันกับหัวหน้าพรรคการเมืองสำคัญอีก 2 พรรค คือ นายปิแอร์ พอลิเอฟ (Pierre Poilievre) วัย 53 ปี หัวหน้าพรรคอนุรักษนิยม ที่เป็นพรรคฝ่ายค้านหลัก และ จักมีต ซิงห์ (Jagmeet Singh) วัย 46 ปี หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยใหม่ (New Democratic Party) ส่วนพรรคการเมืองสำคัญอีกพรรค คือ บล็อก กีเบกัวซ์ (Bloc Quebecois) ส่งผู้สมัครลงชิงชัยเฉพาะในรัฐควิเบก (Quebec) ที่ประชากรส่วนใหญ่พูดภาษาฝรั่งเศสเท่านั้น

Pierre Poilievre Canada’s Conservative Party leader
ปิแอร์ พอลิเอฟ
Jagmeet Singh Canada's the NDP party leader
จักมีต ซิงห์

ปัจจุบัน พรรคเสรีนิยม ซึ่งครองอำนาจบริหารประเทศตั้งแต่ชนะเลือกตั้งในปี 2558 ครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรชุดปัจจุบัน คือ 153 ที่นั่ง ตามด้วยพรรคอนุรักษนิยม 120 ที่นั่ง พรรคบล็อก กีเบกัวซ์ มี 33 ที่นั่ง และพรรคประชาธิปไตยใหม่ 24 ที่นั่ง นอกจากนั้น ยังมีพรรคกรีนมีที่นั่งในสภา 2 ที่นั่ง ผู้สมัครอิสระ 3 ที่นั่ง และว่างอีก 3 ที่นั่ง รวมทั้งหมด 338 ที่นั่ง แต่ในการเลือกตั้งครั้งนี้ จำนวน สส.จะเพิ่มขึ้นจากการเลือกตั้งปี 2564 อีก 5 ที่นั่งรวมเป็น 343 ที่นั่งตามจำนวนประชากรชาวแคนาดาที่เพิ่มขึ้น

พรรครัฐบาลตีตื้นนำพรรคฝ่ายค้าน

การประกาศเลือกตั้งล่วงหน้าครั้งนี้ ทำให้นายคาร์นีย์มีเวลาเพียง 5 สัปดาห์เท่านั้นในการหาเสียงเพื่อเอาชนะใจชาวแคนาดา ขณะที่ผลสำรวจคะแนนนิยมจาก 2 กลุ่มจัดทำโพลสำรวจ  พรรคเสรีนิยมของคาร์นีย์พลิกกลับมามีคะแนนนิยมนำหน้าพรรคอนุรักษนิยมเล็กน้อย คือร้อยละ 37.5 ต่อร้อยละ 37.1 หลังจากมีคะแนนนิยมตามหลังมาโดยตลอด ส่วนหนึ่งมาจากการประกาศลาออกจากตำแหน่งของทรูโดนั่นเอง บรรษัทกระจายเสียงแห่งชาติของแคนาดา หรือ CBC ระบุว่า ถือเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 3 ปี ที่พรรคเสรีนิยมกลับมามีคะแนนนิยมในหมู่ประชาชนมากกว่าพรรคอนุรักษนิยม แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมา พรรคอนุรักษนิยมจะยังพยายามโจมตีคาร์นีย์ว่า เป็นพวกชนชั้นนำที่มีแผนผลักดันนโยบายเดิม ๆ ในยุคของทรูโด ที่เน้นการใช้จ่ายภาครัฐบาลในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง

ทรัมป์คือปัจจัยหลักพลิกฟื้นพรรคเสรีนิยม

นโยบายอเมริกาต้องมาก่อน ตามแนวทางอนุรักษนิยมของทรัมป์ ที่จริงเข้าคู่กันได้ดีในฐานะพันธมิตรทางอุดมการณ์กับพรรคอนุรักษนิยมของแคนาดาที่มีคำขวัญเลือกตั้งตรงกัน คือ Canada First แม้ว่าของแคนาดาจะพ่วงด้วย For Change หรือ “แคนาดาต้องมาก่อน เพื่อการเปลี่ยนแปลง”

รีพับลิกันของทรัมป์กับอนุรักษนิยมของพอลิเอฟ ควรเป็นคู่หูโดยธรรมชาติ แต่ด้วยกระแสต้านทรัมป์ในแคนาดา การณ์กลับไม่เป็นเช่นนั้น ตั้งแต่ปลายสมัยของนายจัสติน ทรูโด ที่ได้ต่อกรกับนายทรัมป์ ทำให้คะแนนนิยมของตัวเองและของพรรคเสรีนิยมก็กระเตื้องขึ้นมาตามลำดับ ตามการโต้กลับทรัมป์ได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ

ปรากฎการณ์ทรัมป์กับการเลือกตั้งแคนาดา

เมื่อนักข่าวถามว่า คิดอย่างไรเมื่อพันธมิตรอนุรักษ์นิยมในแคนาดาต้องเพลี่ยงพล้ำ ทรัมป์ตอบว่า “ไม่สำคัญอะไร คุยกับเสรีนิยมง่ายกว่าเสียอีก” นั่นยิ่งทำให้เสริมส่งเสรีนิยมมากขึ้นไปอีก

ตั้งแต่ชนะเลือกตั้งเป็นหัวหน้าพรรคเสรีนิยม สาบานตนรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและประกาศเลือกตั้ง นายคาร์นีย์ประกาศในทุกโอกาสว่า ชาวแคนาดาต้องร่วมมือสู้ศึกใหญ่กับนายทรัมป์  

Canadians sound off as they protest U.S. tariffs
ชาวแคนาดาประท้วงทรัมป์

กระแสต้านทรัมป์ในแคนาดาจึงเป็นกระแสการเมืองที่ทรงพลัง เพราะชาวแคนาดาตกเป็นเป้าหมายของทรัมป์ ใช้มาตรการภาษีนำเข้า กล่าวหาว่าเอาเปรียบการค้า แหล่งยาเสพติด ถึงขั้นจะยึดแคนาดามาเป็นรัฐที่ 51 ของอเมริกา  เลือดชาตินิยมในแคนาดาสูบฉีดแรง ในแทบทุกเวที ไม่ว่าจะเป็นเวทีประชันกีฬา เวทีการค้า เวทีการเมือง

แม้ว่า พรรคอนุรักษนิยมของแคนาดาจะประกาศจุดยืนต่อต้านทรัมป์  ยังต้องพิสูจน์อีกมาว่าทางพรรคจะวางตัวอย่างไรให้ถอยห่างจากทรัมป์ นโยบาย Canada First จะแตกต่างหรือทัดทาน America First ของนายทรัมป์ได้อย่างไร  

Final Thoughts: ปากท้องกับเกียรติภูมิชาติ ภารกิจของรัฐบาลหลังเลือกตั้ง

แน่นอนว่า ประเด็นเลือกตั้งที่ชาวแคนาดาให้ความสนใจมากคือปัญหาปากท้องเรื่องค่าครองชีพที่สูงขึ้น โดยเฉพาะราคาบ้านและการดูแลสุขภาพที่แพงขึ้น แต่ปัจจัยทรัมป์กำลังมาแรงแซงขึ้นมาเบียด ทำให้ชาวแคนาดาจะพิเคราะห์กันว่า รัฐบาลและนายกรัฐมนตรีคนใหม่จะดำเนินมาตรการเพื่อรับมือภัยคุกคามจากรัฐบาลสหรัฐของทรัมป์อย่างไร เมื่อประเทศเพื่อนบ้านใกล้ชิดที่กำลังกลายเป็นคู่ปรับจากนโยบายรีดภาษีสินค้านำเข้า และความทะเยอทะยานที่จะผนวกแคนาดาเข้าเป็นรัฐที่ 51 ซึ่งเป็นสิ่งที่ชาวแคนาดาทุกคนไม่มีทางยอมให้เกิดขึ้น (และไม่มีทางเกิดขึ้นในโลกความเป็นจริง) หลังการเลือกตั้ง 28 เมษายนนี้ รัฐบาลใหม่แคนาดาที่จะเกิดขึ้นจะต้องพิสูจน์ฝีมือว่าจะรับมือทรัมป์ที่คุกคามอธิปไตยของตนและรับมือกับแรงกดดันอย่างไร หากโต้กลับได้อย่างถึงพริกถึงขิงได้เหลี่ยมได้เชิงก็จะกลายเป็นแต้มต่อสำคัญทางการเมือง ซึ่งเห็นได้ชัดว่า ชาวอเมริกันจำนวนไม่น้อยก็เอาใจช่วยแคนาดาอยู่เช่นกัน .-815(812).-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ทูน” แจ้งความถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะซื้อของย่านคลองถม

สน.พลับพลาไชย1 11 มิ.ย.- “ทูน หิรัญทรัพย์” อดีตนักแสดงรุ่นใหญ่ แจ้งความ สน.พลับพลาไชย 1 ถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะเดินซื้อของย่านคลองถม อีกฝ่ายอ้างป้องกันตัว นายทูน หิรัญทรัพย์ หรือ นายสพัชญ์นนทน์ อายุ 69 ปี อดีตดารานักแสดงรุ่นใหญ่ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.พลับพลาไชย 1 กรณีถูกวัยรุ่น 2 คน รุมทำร้ายร่างกาย ได้รับบาดเจ็บ ขณะไปเดินซื้อของในซอยข้างคลองถมพลาซ่า เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ที่ผ่านมา นายทูน เล่าเหตุการณ์ว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองและครอบครัวได้ไปเดินหาซื้อไฟในย่านคลองถม ระหว่างนั้นก็มีผู้คนมาทักทายเพราะเห็นว่าตัวเองเป็นดารา แต่มีวัยรุ่นคนหนึ่งพูดจาไม่น่าฟังบอกว่าดาราอะไรเคยไม่รู้จัก จึงตักเตือนในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ ว่า จะพูดจาอะไรก็ต้องให้เกียรติคนอื่นโดยเฉพาะคนที่อาวุโสกว่า จนเกิดมีปากเสียงกัน จากนั้นวัยรุ่นดังกล่าวก็ชกเข้าที่เบ้าตาขวา ซึ่งเป็นตาข้างที่บอดอยู่ จึงไม่เห็นหมัด ก่อนจะมีตำรวจเข้ามาระงับเหตุ แต่วัยรุ่นคู่กรณีก็ยังทำท่าไม่พอใจฮึดฮัดใส่อยู่ ก่อนจะถูกควบคุมตัวไปที่ สน.พลับพลาไชย ซึ่งตัวเองก็ได้เดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีด้วยเช่นกัน นายทูน กล่าวว่า ตลอดชีวิตที่เป็นนักแสดงนั้นเคยแต่เจอผู้คนเข้ามาทักทาย ขอถ่ายรูป ด้วยความมีมิตรไมตรี […]

พายุ “หวู่ติบ” ไม่เข้าไทย แต่เสริมมรสุม ฝนเพิ่ม คลื่นแรง เตือนระวังน้ำหลาก

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย.-ไทยมีฝนตกเพิ่ม โดยพายุ​ “หวู่ติบ” จะส่งอิทธิพลให้ร่องมรสุมพาดผ่านและลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น กรมอุตุฯ เตือนประชาชนเฝ้าระวังภัยน้ำหลากและคลื่นลมแรงอย่างใกล้ชิด นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ช่วงวันที่ 12–13 มิถุนายน 2568 ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งอันดามัน ได้แก่ ระนอง พังงา จันทบุรี และตราด ซึ่งได้รับอิทธิพลจากร่องมรสุมที่พาดผ่านตอนบนของประเทศ และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรง กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศแจ้ง​เตือน​ว่า พายุโซนร้อน “หวู่ติบ” บริเวณทะเลอันดามันตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ห่างจากเกาะไหหลำของจีนไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 160 กิโลเมตร มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เคลื่อนตัวทางตะวันตกเฉียงเหนือ คาดว่า​ จะขึ้นฝั่งประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 13-14 มิ.ย.68 และจะอ่อนกำลังลงตามลำดับ แม้ศูนย์กลางพายุจะไม่เข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง แต่พายุนี้เป็นอีกปัจจัยที่เสริมให้ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้หลายพื้นที่มีฝนตกหนัก คลื่นลมในทะเลอันดามันตอนบนสูง 2–3 เมตร และในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองอาจสูงมากกว่า 3 […]

ผลแล็บพบข้าวมันไก่ติดเชื้อ ทำครู-นร.ท้องเสีย 23 คน

ปราจีนบุรี 12 มิ.ย. – แม่ค้ามือเป็นแผล! ครู-นักเรียน กินข้าวมันไก่ ท้องเสียยกชั้น หามส่ง รพ. แพทย์ชี้ชัดผลแล็บ พบเชื้อสตาฟิโลคอคคัส ออเรียส ต้นเหตุทำอาหารเป็นพิษ จากกรณีที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมือง จ.ปราจีนบุรี ต้องระดมทั้งรถตู้โรงเรียน และรถฉุกเฉิน เร่งนำตัวนักเรียนและคุณครู ส่งโรงพยาบาล จำนวน 23 คน หลังทุกคนกินข้าวมันไก่ในช่วงพักกลางวัน พอตกบ่ายก็มีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ และอาเจียน บางรายเป็นไข้หนาวสั่น คาดสาเหตุมาจากอาหารเป็นพิษ ผู้ป่วยถูกนำตัวส่งรักษาอาการที่ห้องผู้ป่วยฉุกเฉิน รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร รวม 16 คน (นักเรียน 15 คน ครู 1 คน) เบื้องต้น แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วบางส่วนเหลือคุณครูที่ต้องดูอาการเนื่องจากมีอาการช็อก ส่วนนักเรียน ยังคงต้องดูอาการอีก 9 คน ซึ่งคาดว่าแพทย์น่าจะอนุญาตให้กลับบ้านได้ภายในวันนี้ ส่วนที่ รพ.ค่ายจักรพงษ์ มีจำนวน 7 คน (เป็นนักเรียนทั้งหมด) เบื้องต้น […]

หลุดภาพ​ “ชาดา-สันติ-​นายกด๊อยซ์” สะพัดขน 6 สส. ​ซบ ​“ภท.”

กทม. 11​ มิ.ย. – “ชาดา-สันติ-นายกด๊อยซ์” ร่วมวงกินข้าว หลังสะพัดขน “6 สส.มะขามหวาน” เด็กลุงป้อม ย้ายซบ “ภูมิใจไทย” ผู้สื่อข่าวรายงานว่า​ ภายหลัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) มีคำสั่งเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.68 แต่งตั้ง นางจิตรา หมีทอง ซึ่งเป็นทีมงานนายสันติ พร้อมพัฒน์ แกนนำ 6 สส. เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ เป็นคณะที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (นายอนุทิน ชาญวีรกูล) และ รมว.มหาดไทย ล่าสุดช่วงเย็น วันที่ 11 มิ.ย. ได้ปรากฏภาพนายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี แกนนำพรรคภูมิใจไทย ได้รับประทานอาหารเย็น ร่วมกับ นายสันติ และ นายอัครเดช ทองใจสด นายก อบจ.เพชรบูรณ์ ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง […]

ข่าวแนะนำ

เครื่องบิน แอร์ อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์ อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มียืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าใด เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย […]

สยบรอยร้าว “พีระพันธุ์” โพสต์ภาพคู่ “เอกนัฏ” ยัน รทสช.ไปต่อ

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย. – “พีระพันธุ์” โพสต์ภาพโชว์ปึก “เอกนัฏ” สยบรอยร้าว ขอบคุณร่วมอดทนต่อสู้ทุนใหญ่ ยัน รทสช.ไปต่อแน่ ป้อง “ทีมสุดซอย” ถูกใส่ร้าย เมื่อเวลา 21.00 น. วันนี้ (12 มิ.ย.68) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ โพสต์ภาพถ่ายคู่กับนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมข้อความระบุว่า “ผูกพันและเชื่อใจ การที่มีคนกล่าวหาขิงว่าจะไปขอให้มาโค่นทำลายผมจากหัวหน้าพรรค ผมได้แต่ขำ ขิงกับผม เราผ่านร้อนผ่านหนาวด้วยกันมามาก คำพูดแบบนี้จึงเป็นเรื่องขำๆ ของคนที่คิดคำแก้ตัวไม่ออก ผมกับท่านเลขาฯ ขิง เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เรารู้จักกันมานาน ตั้งแต่ขิงยังไม่เข้ามาวงการเมือง จนมาทำงานการเมืองร่วมกัน ขิงเป็นคนหนุ่มที่มุ่งมั่นทำงานการเมืองเพื่อประชาชน ไม่ใช่มาเล่นการเมือง เป็นคนซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมา เมื่อผมจะทำพรรคการเมือง คนแรกที่ผมคิดถึงจึงเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก ‘ขิง’ ผมหารือกับขิงว่าอยากชวนเขามาทำพรรคการเมืองตามแนวทางที่เราอยากทำอยากให้เป็น คือเป็นพรรคการเมืองที่ทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองและประชาชน เข้ามาแก้ไขปัญหาทุกอย่างเพื่อประชาชน ไม่ใช่เพื่อจะมีสถานะหรือมีตำแหน่งทางการเมือง […]

จับตานายกฯ ถกหัวหน้าพรรคร่วมบางพรรค ปรับ ครม.

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย. – จับตา “นายกฯ แพทองธาร” ถกหัวหน้าพรรคร่วมบางพรรค ปรับ ครม. หลังเลื่อนประชุม ครม.สัญจร จ.พิษณุโลก 23-24 มิ.ย.นี้ คาดรอ ครม.ใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันพรุ่งนี้ (13 มิ.ย.) ที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แจ้งลาราชการในเวลา 11.30-13.00 น. หลังจบภารกิจเป็นประธานในพิธีปิดการประชุมเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ทั่วโลก ประจำปี 2568 และมีรายงานว่านายกฯ มีภารกิจร่วมประชุมผู้ปกครอง จากนั้นจะกลับมาปฏิบัติงานที่ทำเนียบรัฐบาลในช่วงบ่าย ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายกฯ จะเชิญหัวหน้าพรรคร่วมบางพรรค หารือถึงการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ท่ามกลางกระแสข่าวการต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรีระหว่างพรรคเพื่อไทยและภูมิใจไทย และปัญหาภายในของพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้เกิดความชัดเจน นอกจากนั้นยังมีรายงานว่า สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ได้แจ้งเลื่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร ) ระหว่างวันที่ 23-24 มิ.ย.นี้ ที่ จ.พิษณุโลก ออกไปก่อน […]

เสียงจากช่องบก รอวันสันติภาพ

อุบลราชธานี 12 มิ.ย. – ผ่านมาแล้ว 15 วัน นับตั้งแต่เหตุการณ์ปะทะที่ช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี พื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังคงตึงเครียด แต่ชาวบ้านในพื้นที่ต่างตั้งความหวังว่าการประชุม JBC วันที่ 14 มิ.ย.นี้ จะหาทางออกได้โดยสันติ เพื่อให้ประชาชนทั้งสองประเทศได้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ.-สำนักข่าวไทย