TNA News-Now-Next: กรีนแลนด์ ดินแดนที่ “ทรัมป์” หมายปอง

Community in Nuukบรรยากาศเมืองนุก เมืองใหญ่ที่สุดของกรีนแลนด์

นุก 14 มี.ค.-ดินแดนกว้างใหญ่ในแถบอาร์คติกซึ่งยังเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยขนาดพื้นที่กว่า 2 ล้านตารางกิโลเมตรหรือประมาณ 4 เท่าของประเทศไทย กลายเป็นจุดสนใจของทั่วโลกจากคำประกาศของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ หลายครั้งหลายคราว่า จะเข้าครอบครองให้ได้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งเพื่อความมั่นคงของสหรัฐ แม้ว่า รัฐบาลกรีนแลนด์ และ รัฐบาลเดนมาร์กผู้ครองอธิปไตยเหนือกรีนแลนด์ บอกปัดว่า “ไม่ได้มีไว้ขาย” และ “ไม่ต้องการอยู่ใต้อาณัติของสหรัฐ” แต่นายทรัมป์ยืนกรานในหลายโอกาส


the coast of Nuuk, Greenland with National flag

ประจวบเหมาะกับการเลือกตั้งใหญ่ของกรีนแลนด์เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2568 ที่กลายเป็นวาระสำคัญกำหนดชะตาอนาคตทางการเมืองของกรีนแลนด์ รวมไปถึงยุทธศาสตร์ระหว่างประเทศ ภูมิรัฐศาสตร์โลก รวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สปอตไลท์จึงฉายลงไปยังกรีนแลนด์ที่มีประชากรเกือบ 6 หมื่นคน อย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน

แทบทุกพรรคมุ่งสู่เอกราชกรีนแลนด์


จากพรรคการเมือง 6 พรรคที่ลงชิงชัยนั้น มี 5 พรรคยกเว้นพรรคเดียวที่ต้องการให้กรีนแลนด์เป็นประเทศเอกราช แตกต่างกันที่ลำดับขั้นตอน ระยะเวลา และรายละเอียดปลีกย่อย  อันเป็นไปตามการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนที่ส่วนใหญ่ต้องการเป็นเอกราชจากเดนมาร์ก และไม่ต้องการอยู่ภายใต้อธิปไตยของชาติใดอีกแล้ว

พรรคการเมืองฝ่ายค้านคว้าชัย

ผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการชี้ว่า พรรคเดโมคราติต (Demokraatit) พรรคฝ่ายค้าน ได้คะแนนเสียงเป็นอันดับ 1 โดยพรรคนี้มุ่งเน้นนโยบายส่งเสริมภาคธุรกิจที่สนับสนุนให้กรีนแลนด์แยกตัวเป็นเอกราชจากเดนมาร์กแบบค่อยเป็นค่อยไป  


ผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ 1 วันหลังเลือกตั้ง (12 มีนาคม 2568) พรรคเดโมคราติตคว้าคะแนนนำ 29.9% พุ่งขึ้นจากเดิมในการเลือกตั้งเมื่อปี 2564 ที่ได้เพียง 9.1%  และทิ้งห่างพรรคนาเลรัก (Naleraq) พรรคฝ่ายค้านอีกพรรคที่ต้องการแยกตัวเป็นเอกราชแบบรวดเร็ว ซึ่งได้คะแนน 24.5%

Jens Frederik Nielsen leader of the Demokraatit party
เยนส์ เฟรเดริก นีลเซน

นายเยนส์-เฟรเดริก นีลเซน หัวหน้าพรรคเดโมคราติตและอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและเหมืองแร่ กล่าวเมื่อทราบผลเลือกตั้งเบื้องต้นว่า “ชาวกรีนแลนด์ต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลง และต้องการพัฒนาภาคธุรกิจเพื่อหนุนระบบสวัสดิการ”

สำหรับเรื่องเอกราชเขาย้ำจุดยืนของพรรคว่า “เราไม่ได้เร่งรีบอยากได้เอกราช แต่ต้องการวางรากฐานที่มั่นคงก่อน”

จากนี้ไป พรรคเดโมคราติต กำลังเริ่มเจรจากับพรรคการเมืองอื่นเพื่อจัดตั้งรัฐบาลผสม

พรรครัฐบาลพลาดท่า แต่ยังยืนหยัดไม่ก้มหัวให้ทรัมป์

พรรครัฐบาลอินูอิต อาตาคาตซิกีต (Inuit Ataqatigiit) ของนายมิวเทอ อีเกอ ซึ่งร่วมรัฐบาลกับ พรรคซิอูมุต (Siumut) ได้คะแนนรวมกันเพียง 36% ลดลงจาก 66.1% ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2564 สองพรรคนี้สนับสนุนแนวทางสู่เอกราชอย่างค่อยเป็นค่อยไปเช่นกัน แต่ยังไม่รู้ว่าจะร่วมมือกันต่อหรือจะเข้าร่วมรัฐบาลใหม่หรือไม่

Múte Egede Prime Minister of Greenland
มิวเทอ อีเกอ

นายอีเกอ ยอมรับเสียงประชาชน ระบุว่าพร้อมรับฟังทุกข้อเสนอในการเจรจาจัดตั้งรัฐบาลที่กำลังจะเกิดขึ้น

ทรัมป์ยืนกรานเข้าครองกรีนแลนด์

ภายหลังทราบผลเลือกตั้ง นายโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งกำลังพบปะกับนายมาร์ก รุตเตอ  เลขาธิการนาโต ในทำเนียบขาว ถูกยิงคำถามเรื่องนี้ว่ายังเป็นไปได้หรือไม่ เขาก็ยังยืนยันว่า สหรัฐต้องการครอบครองกรีนแลนด์เพื่อรักษาความมั่นคงของโลก  

Trump in the meeting with NATO Secretary-General Mark Rutte in the Oval Office Mar 13,2025
เลขาฯ นาโตและ ปธน.สหรัฐ 13 มี.ค.68

ยิ่งไปกว่านั้น ยังหันไปกล่าวกับเลขาธิการนาโต องค์กรความมั่นคงที่เดนมาร์กเป็นสมาชิกแต่นายทรัมป์กำลังถอยตัวออกห่างว่า จะพูดคุยกันเรื่องนี้ต่อไปด้วย ทำเอานาย รุตเตอ กระอักกระอ่วน กล่าวตอบแบบนักการทูตว่า “ตนไม่อยากเข้าไปร่วมพูดจาใด เพราะไม่ควรให้นาโตเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้”

กรีนแลนด์ต้องร่วมใจต้านทรัมป์

เมื่อนายทรัมป์มีท่าทีเช่นนี้ นายอีเกอ นายกรัฐมนตรีกรีนแลนด์ที่กำลังจะพ้นจากตำแหน่งยังได้ยืนหยัดคัดค้าน นอกจากประณามแล้ว เขายังเห็นว่าต้องลงมือทำให้เป็นกิจลักษณะด้วยการเรียกประชุมผู้นำพรรคการเมืองทั้งหมดเพื่อแสดงจุดยืนร่วมกันต่อต้านความคิดของนายทรัมป์  

นายเยนส์-เฟรเดอริก นีลเซน หัวหน้าพรรคเดโมคราติต ว่าที่ผู้นำรัฐบาลใหม่ก็ประสานเสียงไม่เห็นด้วยกับท่าทีของทรัมป์ โดยย้ำว่า ไม่เหมาะสมที่จะแสดงความคิดเห็นแบบนี้ และชาวกรีนแลนด์ต้องร่วมกันยืนหยัดต่อต้าน

กรีนแลนด์กับยุทธศาสตร์การเมืองโลก

กรีนแลนด์เป็นดินแดนปกครองตนเองของเดนมาร์ก ซึ่งเป็นพันธมิตรดั้งเดิมกับสหรัฐมาช้านาน เดนมาร์กมอบสิทธิในการปกครองตนเอง โดยควบคุมดูแลนโยบายต่างประเทศและความมั่นคง

Danish Naval patrol vessel off the coast of Nuuk, Greenland
เรือรบเดนมาร์กล่องเลียบชายฝั่งเมืองนุก

ด้วยที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ กรีนแลนด์อยู่ในมหาสมุทรอาร์กติก ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือของทวีปยุโรป และทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศแคนาดาในทวีปอเมริกาเหนือ พื้นที่ทั้งหมดประมาณ 2,166,086 ตารางกิโลเมตร  อุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรธรรมชาติ แร่ธาตุ และน้ำมัน

iceberg in sunset

การพยายามแทรกแซงจากต่างชาติมีมานานแล้ว แต่มีการส่งเสียงดังขึ้นจากนายทรัมป์ที่ในช่วงแรกมองกันว่าเป็นเรื่องตลก เมื่อเขาเสนอซื้อกรีนแลนด์เป็นครั้งแรกในปี 2562  ต่อมายังตอกย้ำในการหาเสียง และเมื่อกลับเข้าสู่ทำเนียบขาวเป็นวาระที่สองยังได้นำมาเป็นนโยบายหลักอย่างหนึ่ง โดยประกาศต่อรัฐสภาเลยว่า  “อเมริกาต้องมาก่อน” นั้นรวมถึงการครอบครองกรีนแลนด์ ด้วยวิธีการใดวิธีการหนึ่ง 

United States Consulate in Nuuk
สถานกงสุลสหรัฐในเมืองนุกของกรีนแลนด์

สหรัฐเคยครอบครองกรีนแลนด์โดยพฤตินัยมาช่วงหนึ่งในระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง ที่เดนมาร์กกำลังถูกนาซีเยอรมันรุกไล่ เพื่อไม่ให้กรีนแลนด์ตกอยู่ในมือของนาซีเยอรมนีและเพื่อปกป้องเส้นทางเดินเรือที่สำคัญในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ สหรัฐยังได้สร้างฐานทัพอากาศ ทูเล ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ตั้งของสถานีเรดาร์ที่คอยสังเกตการณ์และป้องกันภัยทางอากาศสำหรับสหรัฐและนาโต

Final Thoughts: โจทย์ยากของกรีนแลนด์

นอกจากความมั่นคงของโลกตามที่นายทรัมป์เน้นย้ำแล้ว บทบาทและความสำคัญของกรีนแลนด์ย่อมสูงขึ้นตามสภาพการเผชิญหน้าทางการเมืองโลกและเศรษฐกิจโลกที่เปลี่ยนแปลงไป การแข่งขันแย่งชิงดินแดนที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุแห่งนี้จะดุเดือดขึ้น  ยิ่งไปกว่านั้นในด้านสิ่งแวดล้อม โลกที่ร้อนขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศส่งผลให้พื้นที่น้ำแข็งในอาร์กติกบางลง ซึ่งอาจทำให้เกิดเส้นทางผ่านตะวันตกเฉียงเหนือสำหรับการค้าระหว่างประเทศ และทำให้เกิดการแข่งขันกับรัสเซีย จีน และประเทศอื่น ๆ ในการเข้าถึงแหล่งทรัพยากรแร่ธาตุในภูมิภาคอีกครั้ง  ด้วยแรงกดดันที่ถาโถมที่อาจแทรกแซงกิจการและคุกคามผลประโยชน์ ชาวกรีนแลนด์ยังมีโจทย์ที่ต้องครุ่นคิดกันอีกอย่างหนักภายหลังการเลือกตั้งว่า ความเป็นเอกราชของพวกเขาจะสามารถรับประกันความเป็นอิสระอย่างมั่นคงได้อย่างไร.-812.-สำนักข่าวไทย    

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และพื้นที่มอมเบ เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

“โอปอล สุชาตา” คว้ามงกุฎ Miss World 2025

อินเดีย 1 มิ.ย.-“โอปอล สุชาตา” สาวงามตัวแทนจากไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎ Miss World 2025 มาครองได้สำเร็จ เวทีการประกวด Miss World 2025 ครั้งที่ 72 ณ HITEX Convention Center เมืองไฮเดอราบัด รัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย โดย “โอปอล สุชาตา ช่วงศรี” สาวงามตัวแทนจากประเทศไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎมิสเวิลด์มาครองได้สำเร็จ โดยการประกวดในปีนี้มีนางงามจาก 108 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วม ทั้งนี้ในรอบ 8 คนสุดท้าย มีนางงามที่ผ่านเข้ารอบได้แก่ บราซิล มาร์ตินีก เอธิโอเปีย นามิเบีย โปแลนด์ ยูเครน ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย ซึ่งจนกระทั่ง รอบ 4 คนสุดสุดท้าย มาร์ตีนิก เอธิโอเปีย และ โปแลนด์ ทั้ง 4 […]

ข่าวแนะนำ

จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล

นายกฯ เป็นประธานถวายเครื่องราชสักการะ-จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี

สนามหลวง 3 มิ.ย.-นายกรัฐมนตรี และคู่สมรส เป็นประธานพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 เวลา 19. 49 น. ณ เวทีใหญ่ ท้องสนามหลวง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายปิฎก สุขสวัสดิ์ คู่สมรส เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 โดยมีผู้แทนประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญพร้อมคู่สมรส คณะรัฐมนตรีพร้อมคู่สมรส ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทหาร ตำรวจ พลเรือน ภาคเอกชน และภาคประชาชน เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อนายกรัฐมนตรีและคู่สมรสเดินทางถึงพิธีท้องสนามหลวง ขึ้นสู่เวที นายกรัฐมนตรี ผู้แทนประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ทำวันทยหัตถ์หน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี แล้ววางพุ่มทอง พุ่มเงิน จากนั้นนายกรัฐมนตรีถวายธูปเทียนแพ จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล […]

ตรวจความพร้อมรบ

แม่ทัพภาค 1 ตรวจความพร้อมรบ พล.ร.9 พร้อมเสริมกำลังทัพภาค 2

กาญจนบุรี 3 มิ.ย.- แม่ทัพภาคที่ 1 ตรวจความพร้อมรบ พล.ร.9 กองกำลังสุรสีห์ ตามแผนเผชิญเหตุ ทบ. พร้อมเสริมกำลังทัพภาค 2 ชายแดนไทย-กัมพูชา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเย็นที่ผ่านมา ที่สนามฝึกทางยุทธวิธี พล.ร.9 จ.กาญจนบุรี พล.ท.อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาค 1 เดินทางไปตรวจความพร้อมหน่วย ตามแผนเผชิญเหตุของกองทัพบก ทั้งหน่วย กรมทหารราบเฉพาะกิจ กองทัพภาคที่ 1 และกองพันพร้อมรบเคลื่อนที่เร็ว RDF กองทัพภาคที่ 1 โดยมี พล.ต.อัษฎาวุธ ปันยารชุน ผบ.พล.ร.9 ให้ต้อนรับ พล.ร.9 ได้รับมอบหมายจากกองทัพบก ให้จัดกำลังเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติของกองทัพบก ในการใช้กำลังตามแผนเผชิญเหตุของกองทัพบก เข้าในพื้นที่ที่รับผิดชอบ และให้การสนับสนุนเสริมกำลังรบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบกองทัพภาคที่ 1 โดยหน่วยเตรียมกำลังได้ตรวจสภาพความพร้อมรบตามขั้นตอน เพื่อตรวจสอบความพร้อมของกำลังพลและยุทโธปกรณ์ในการปฏิบัติภารกิจในทุกพื้นที่ที่ได้รับมอบภารกิจจากกองทัพบก ทั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 1 ได้ให้โอวาสกำลังพล ในการเตรียมความพร้อมในทุกภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากกองทัพบก โดยขอให้มีความพร้อมอยู่ตลอดเวลา ในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ และพร้อมดูแลพี่น้องประชาชน […]

หลวงปู่ศิลา

“หลวงปู่ศิลา” มอบเงินบริจาคให้ มทภ.2 สนับสนุนภารกิจกองกำลังชายแดน

นครราชสีมา 3 มิ.ย.-“หลวงปู่ศิลา” มอบเงินบริจาคให้ มทภ.2 สร้างที่พักในฐานตามแนวชายแดน พร้อมอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ ในการดูแลประเทศชาติ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระราชวัชรธรรมโสภณ (หลวงปู่ศิลา สิริจันโท) เจ้าอาวาสวัดพระธาตุหมื่นหิน จ.กาฬสินธุ์ และคณะศิษย์และมูลนิธิธรรมะอุทยาน พร้อมทั้งคณะศิษยานุศิษย์ มอบเงินบริจาค จำนวน 2,017,860 บาท และข้าวสารจำนวน 1,500 กิโลกรัม ให้กับกองทัพภาคที่ 2 เพื่อสนับสนุนช่วยเหลือกองกำลังทหารชายแดน โดย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เป็นผู้รับมอบ ที่กองบัญชาการ ค่ายสุรนารี จ.นครราชสีมา สำหรับเงินทั้งหมดนี้ จะได้นำไปจัดสร้างที่พักในฐานที่มั่นของกองกำลังสุรนารี ที่ปฏิบัติภารกิจอยู่ตามแนวชายแดน รวมถึงจัดซื้ออุปกรณ์และยุทโธปกรณ์ต่างๆ ที่ยังขาดอยู่ ในการปกป้องอธิปไตยของประเทศ รวมถึงการจัดหาเครื่องมือต่างๆที่สามารถใช้ได้ภายในฐานปฏิบัติการเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับทหาร ที่ปฏิบัติภารกิจอยู่แถวชายแดน. -313 สำนักข่าวไทย

Thai drone illegally enters Cambodian airspace, intercepted by Cambodian troops

กัมพูชาอ้างสกัดโดรนที่ส่งจากฝั่งไทย

พนมเปญ 3 มิ.ย.- สื่อกัมพูชารายงานว่า ทหารกัมพูชาสกัดอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนที่อ้างว่าส่งจากฝั่งไทยเข้าไปสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์รายงานวันนี้ว่า กองทัพไทยยังคงละเมิดดินแดนของกัมพูชา โดยล่าสุดได้ส่งโดรนไปบินเหนือพื้นที่แนวหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา และถูกกำลังพลกัมพูชาสกัดไว้ได้ แขมร์ไทมส์อ้างรายงานจากชายแดนว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 มิถุนายน ทหารกัมพูชาที่ประจำการอยู่บริเวณแนวหน้าในจังหวัดพระวิหารสามารถสกัดโดรนลำหนึ่งที่เข้ามาในน่านฟ้ากัมพูชาเพื่อวัตถุประสงค์ในการสอดแนม ผลการประเมินเบื้องต้นชี้ว่า โดรนลำนี้ถูกส่งโดยกองทัพไทย เพื่อเก็บข้อมูลข่าวกรองเรื่องการประจำการและการเคลื่อนย้ายกำลังพลของกองทัพกัมพูชา.-814.-สำนักข่าวไทย