สดุดี “จีเชล เพลิโคต์” ผู้ถูกสามีวางยาให้คนแปลกหน้าข่มขืน

close up shot of Gisele

คำเตือน: เนื้อหาของเหตุการณ์จริงมีความอ่อนไหวอาจไม่เหมาะสมสำหรับเยาวชน


ปารีส 20 ธ.ค.- เรื่องราวของสตรีฝรั่งเศส จีเซล เพลิโคต์ สร้างทั้งความตื่นตกใจ พร้อมกับสร้างแรงบันดาลใจ เธอเป็นเหยื่อของสามีเธอเองที่เชื้อเชิญชายหลายสิบคนร่วมกันวางยานอนหลับเพื่อข่มขืน ล่วงละเมิดทางเพศ และบันทึกภาพไว้ภายในบ้านของเธอเองต่อเนื่องเป็นเวลานับสิบปี

คดีความที่เธอได้ลุกขึ้นสู้ปลุกกระแสเรียกร้องสิทธิ แสดงถึงความกล้าหาญของเธอที่หาได้ยากจากเหยื่อข่มขืน


หลังจากไต่สวนมานานราว  4 เดือน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 19 ธันวาคม 2567 โดมินิก เพลิโคต์ ซึ่งขณะนี้เป็นอดีตสามี วัยเดียวกัน คือ 72 ปี ถูกศาลตัดสินตามอัยการร้องขอโทษจำคุก 20 ปี  ในการไต่สวนนั้นเขาให้การรับสารภาพและได้ขอโทษต่อบาปกรรมที่ทำไว้

sketch of Dominique Pelicot
นายโดมินิก สามี

ส่วนจำเลยร่วมอีก 50 คน มีประวัติ ที่มา อายุและอาชีพ แตกต่างกันไป แต่ทั้งหมดทำผิดลักษณะเดียวกันไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ทุกอย่างปรากฎในภาพวิดีโอและภาพนิ่งหลายพันที่โดมินิกบันทึกไว้เอง รวมถึงข้อความการติดต่อสื่อสารชี้ชวนของโดมินิกกับจำเลยร่วมที่มัดแน่น ทำให้ 47 คนถูกพิพากษามีความผิดฐานข่มขืน 2 คนฐานพยายามข่มขืน และที่เหลืออีก 2 คนฐานละเมิดทางเพศ

พฤติกรรม แฟมิลีแมน ช็อกชุมชนอันแสนสงบ


โดมินิก เพลิโคต์ เป็นอดีตช่างไฟฟ้าและตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ที่คนในชุมชนมองว่า เป็นคนโอบอ้อมอารี มักเห็นเขาร่วมกิจกรรมกับลูกๆ อยู่เสมอ ไม่มีใครคิดว่า จะได้รับรู้ว่า เขานำยานอนหลับผสมกับมันฝรั่งบด กาแฟ ไอศครีม ให้ภรรยารับประทาน แล้วเปิดประตูให้ชายหลายสิบคนเข้ามาข่มขืนถึงในบ้าน

ยิ่งไปกว่านั้นยังพบว่า เขาซุกซ่อนกล้องวีดีโอบันทึกภาพเปลือยของภรรยา ลูกสาว และ ภรรยาของลูกชาย แล้วนำไปเผยแพร่ออนไลน์

คำยินยอมจากสามีเพียงพอหรือไม่

จำเลยร่วมหลายคนได้อ้างว่า พวกเขาได้รับคำเชิญจากสามี เท่ากับว่าเป็นคำยินยอมจากภรรยาแล้ว แต่อัยการแย้งว่า ภาพฟ้องอยู่ว่า จีเซลไม่รู้สึกตัวแล้วจะให้การรับรู้ยินยอมได้อย่างไร

ชายทั้ง 50 คนมาจากพื้นที่ในรัศมี 50 กิโลเมตรของเมืองเล็ก ๆ ชื่อ มาซาน (Mazan) ที่ครอบครัวเพเลโคต์อาศัย มีทั้งคนหนุ่ม คนชรา อายุตั้งแต่ 26 ถึง 74 ปี อาชีพหลากหลาย นักดับเพลิง คนขับรถบรรทุก พนักงานส่งของ ทหาร เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย พัศดี ผู้สื่อข่าว และดีเจ

Mazan, France
มาซาน เมืองที่เกิดเหตุ

อัยการได้ทำสำนวนจำแนกการกระทำของจำเลยแต่ละคน จำนวนครั้งที่มีพฤติกรรมลวนลาม ล่วงละเมิดทางเพศหรือไม่และลักษณะใด

ในการพิจารณาคดี ศาลได้รับฟังเรื่องของแต่ละคนที่มีส่วนร่วมในอาชญากรรมในแบบที่แตกต่างกันไป จำนวนครั้งไม่เท่ากัน ซึ่งต่างเป็นปัจจัยในการทำสำนวนและกำหนดบทลงโทษ ชายคนหนี่งให้การว่า “ผมข่มขืนเธอด้วยร่างกาย แต่สมองของผมไม่ได้สั่งการอย่างนั้น”

Sketch shows courtroom during verdict of French mass rape trial
ภาพการพิจารณาคดีในศาล

จำเลยคนหนึ่งชื่อ โรแม็ง วี วัย 63 ปี เป็นผู้ติดเชื้อเอชไอวี ข่มขืนจีเซล เพเลโคต์ ถึง 6 ครั้งโดยไม่สวมอุปกรณ์ป้องกัน แต่โชคดีที่เขาพ้นสภาวะการแพร่เชื้อ

กฎหมายฝรั่งเศสอ่อนด้อยด้านป้องกันการข่มขืน 

กฎหมายข่มขืนของฝรั่งเศสให้นิยามการข่มขืนว่า เป็นการกระทำทางเพศใด ๆ ก็ตามที่กระทำโดย “ความรุนแรง การบังคับ การขู่เข็ญ” โดยไม่มีอ้างอิงถึงการยินยอมใด ๆ

ในการต่อสู้ทางคดี จำเลยโต้แย้งว่า ไม่มีความผิด เพราะไม่รู้ว่าจีเซลไม่อยู่ในสถานะที่จะให้ความยินยอมได้ ยกหัวใจหลักของคดีอาญาที่ต้องมีองค์ประกอบเรื่องเจตนาในการกระทำผิด

เมื่อสามียินยอม ภรรยาก็น่าจะเป็นใจ?

จำเลยหลายคนพยายามต่อสู้ว่า สามีเป็นคนชักชวน ก็ควรจะเพียงพอแล้วว่าสมยอม บางคนอ้างว่าถูกโดมินิกหลอกลวงหรือไม่ก็บังคับไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

แต่ในชั้นศาล โดมินิกยืนกรานซัดทอดทุกคนล้วนกระทำผิดร่วมกับเขาโดยให้การว่า เขาแจ้งชัดเจนว่าภรรยาไม่รู้เรื่องแผนการใด ๆ ด้วยเลย

เลวทรามลามไปอีกครอบครัว

อัยการยังได้ดำเนินคดีฟ้องชายอีกคนหนี่ง ชื่อ ฌ็อง ปีแอร์ มาเรชาล ที่พบกับโดมินิกทางเว็บไซต์ แล้วทั้งสองก็นัดแนะวางแผนร่วมกันโดมินิควางยา ซีเลีย มาเรชาล ภรรยาของเขาเพื่อจะได้ร่วมกันข่มขืน

มาเรชาล จึงถูกเรียกขานว่าเป็น “ลูกศิษย์” ของโดมินิก จากการเรียนรู้วิธีวางยาสลบกับภรรยาเพื่อทำร้ายเธอเป็นเวลา 5 ปี  

ความละอายใจเปลี่ยนข้างไปแล้ว

“ผู้ที่ควรอับอาย ไม่ใช่เหยื่อ แต่ควรเป็นผู้ก่อเหตุต่างหาก” นี่คือสิ่งที่จีเซลบอกกับสังคม หลังจากฟังคำพิพากษา เธอกล่าวกับสื่อมวลชนว่า “พวกเราร่วมสู้ด้วยกัน”

“ในใจของเธอ รำลึกถึงเหยื่อที่ไม่ถูกเปิดเผยตัว เรื่องราวของพวกเขาที่ถูกปกปิดไว้” จีเซลกล่าวพร้อมกับลูกสาวและลูกชายสองคนที่ไปให้กำลังใจในวันพิพากษา    

 “ตั้งแต่เริ่มการพิจารณาคดีมา เธอต้องการให้สังคมร่วมเป็นพยานรับรู้สิ่งที่นำมาตีแผ่ในศาล เธอรู้สึกเชื่อมั่นว่าสังคมจะสร้างอนาคตที่ดีได้สำหรับทุกคน ไม่ว่าหญิงหรือชาย เพื่อใช้ชีวิตร่วมกันอย่างกลมเกลียวด้วยความเคารพและเข้าใจซี่งกันและกัน”

French newspaper headlines day after rape trial verdict
จีเซล เพลิโคต์

เสียงชื่นชมหลั่งไหลจากทุกสารทิศรวมถึงจากบรรดาผู้นำหลายชาติ นายโอลาฟ โชลซ์ นายกรัฐมนตรีของเยอรมนีโพสต์ข้อความว่า “ขอบคุณ – คุณเลือกที่จะเปิดเผยต่อสาธารณชนอย่างกล้าหาญและต่อสู้เพื่อความยุติธรรม ทำให้ผู้หญิงทั่วโลกมีเสียงที่ดังขึ้น ผู้ก่อเหตุเท่านั้นที่ควรมีความละอาย”

ความกล้าหาญของวีรสตรีที่ชื่อ จีเซล เพลิโคต์

จีเซล เพลิโคต์ ได้รับการชื่นชมจนกลายเป็นหนี่งในสตรีผู้ทรงอิทธิพลที่สุดคนหนึ่งของสื่อหลายสำนัก ในคดีข่มขืนที่ใหญ่ที่สุดของฝรั่งเศส เธอสามารถที่จะร้องขอให้การพิจารณาคดีแบบปิดได้เพื่อไม่ให้เรื่องราวกระจายออกไป แต่เธอกลับเรียกร้องให้เปิดเผยทุกอย่างต่อสาธารณชน ด้วยความหวังว่าจะสามารถช่วยเหลือสตรีคนอื่น ๆ ที่ต้องตกเป็นเหยื่อให้เปิดโปงความเลวร้ายออกมาด้วย การเป็นเหยื่อไม่ใช่สิ่งที่น่าอาย คนทำผิดต่างหากที่สมควรละอาย 

ทุกครั้งที่จีเซลเดินทางไปขึ้นศาลหรือปรากฎตัวที่ที่สาธารณะ เธอจะได้รับการต้อนรับ ชื่นชม โห่ร้องให้กำลังใจ ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องราวยังปลุกกระแสการชำระล้างทางศีลธรรม รวมไปถึงการปรับปรุงตัวบทกฎหมายของประเทศต่างๆ ให้เท่าทันสังคมมนุษย์ที่เสื่อมโทรมและซับซ้อน.-812(814).-สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดดัง จ.เลย

มหาสารคาม 6 ส.ค. – มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดในพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย บาดเจ็บ หลังหนีไปกบดานที่บ้านเกิด จ.มหาสารคาม ตำรวจตั้งข้อหาพยายามฆ่า จากกรณี พระอธิการมานพพร อายุ 47 ปี เจ้าอาวาสวัดโพนสว่าง และเจ้าคณะตำบลเขาแก้ว ขับรถยนต์หลบหนีไป หลังใช้ปืนจ่อยิงพระมหาโยธิน เจ้าอาวาสวัดป่าพัฒนาราม และเจ้าคณะตำบลจอมศรี จนได้รับบาดเจ็บ ขณะที่พระครูถาวรเทวธรรม เจ้าคณะตำบลธาตุ และเจ้าอาวาสวัดสวนธรรมเทวราช เจ้าคณะตำบลธาตุ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ด้วย หลบหนีได้ทันจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ เกิดเหตุในวัดพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย เมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาศาลจังหวัดเลยอนุมัติหมายจับในข้อหา “พยายามฆ่าผู้อื่น และมีอาวุธปืน กระสุนปืน พกพาโดยไม่มีเหตุอันควร” วันนี้ ที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม พระอธิการมานพพร หรือนายมานพพร ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงพระ 2 รูป เข้ามอบตัว เนื่องจากถูกตำรวจกดดันอย่างหนัก เบื้องต้นให้การว่า วันเกิดเหตุมีการปรึกษากัน แต่ไม่ได้ทะเลาะ สาเหตุมาจากตนเองโดนกลั่นแกล้งจากทางพระทั้ง […]

แรงงานกัมพูชาแห่กลับประเทศ รัฐบาลขู่ยึดที่ดิน-ถอดสัญชาติ

6 ส.ค. – รัฐบาลกัมพูชาขู่ยึดที่ดินและถอดสัญชาติแรงงานที่ดื้ออยู่ไทย ส่งผลวันนี้ (6 ส.ค.) ชาวกัมพูชาแห่เดินทางกลับประเทศ ทำจุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี รถติดยาว 8 กิโลเมตร ที่จุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ตั้งแต่ช่วง 06.00 น. รถติดยาวเหยียดร่วม 8 กิโลเมตร ทั้งรถเช่าเหมา รถตู้ และรถรับจ้างที่ขนแรงงานชาวกัมพูชากลับประเทศ ส่วนภายในบริเวณตลาดบ้านแหลม ช่วงเวลา 07.00 น.ที่ผ่านมา ยังพบชาวกัมพูชาร่วมกว่า 20,000 คน ขนสัมภาระ ข้าวของ มารอเต็มหน้าด่าน มากกว่า 2-3 วันที่ผ่านมา ทั้งนี้ เป็นเพราะมีกระแสข่าวรัฐบาลกัมพูชาขู่จะออกมาตรการเอาจริงกับแรงงานกัมพูชาที่ยังดื้อไม่ยอมกลับประเทศก่อนวันที่ 10 สิงหาคมนี้ จะยึดที่ดินทำกินและถอดสัญชาติ คาดว่าจุดนี้จุดเดียวคนจะกลับกัมพูชาเฉียดครึ่งแสนคน แรงงานกัมพูชากลับประเทศ นายจ้างกลัวไปไม่กลับที่ตลาดสดแห่งหนึ่งใน อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พบว่ายังมีแรงงานกัมพูชาก้มหน้าก้มตาทำงานอยู่ แต่มีสีหน้าเคร่งเครียดจากกระแสข่าวที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน แรงงานเล่าว่าไม่อยากกลับกัมพูชา กลับไปก็ไม่มีงานทำ ทางครอบครัวที่กัมพูชาก็โทรมาห่วงว่าคนไทยจะทำร้าย […]

เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า ตรึงกำลังเข้ม

6 ส.ค.- เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า พร้อมตรึงกำลังเข้ม ป้องกันทหารกัมพูชาตัดรั้วลวดหนาม รอบ 2 เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่ตรวจพบกำลังทหารกัมพูชาเข้ามาดำเนินการตัดลวดหีบเพลง ที่ทางฝ่ายไทยได้วางไว้เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย ณ บริเวณพื้นที่ตลาดช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวานนี้ (5 ส.ค.) โดยทางฝ่ายไทยได้ดำเนินการแจ้งให้ยุติการกระทำดังกล่าว พร้อมให้ถอยออกจากพื้นที่ ซึ่งฝ่ายกัมพูชาปฏิบัติตาม และได้ออกจากบริเวณดังกล่าวในทันที ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เข้าดำเนินการกางลวดหีบเพลงให้เข้าสู่สภาพเดิม ปัจจุบันยังคงมีการตรึงกำลังที่ฐานปฏิบัติการในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย-สำนักข่าวไทย

เอาผิด 2 ข้อหา อดีตทหาร BHQ-เรียกภรรยาให้ข้อมูล

บุรีรัมย์ 6 ส.ค. – ผู้การบุรีรัมย์ เค้นสอบอดีตทหารองครักษ์พิทักษ์ฮุนเซน ยืนยันไม่ได้เป็นสายลับ หลังถูกจับพร้อมเครื่องแบบทหาร-อาวุธปืน เบื้องต้นตั้ง 2 ข้อหา พร้อมเรียกภรรยามาให้ข้อมูล จากกรณีตำรวจ สภ.ลำดวน จ.บุรีรัมย์ จับกุมนายวิน ดา ทหารเขมรชุด BHQ องครักษ์พิทักษ์ฮุน เซน ได้ในบ้านพักหลังหนึ่งใน อ.กระสัง ซึ่งเป็นบ้านของภรรยาชาวไทย พร้อมปืนลูกซองไทยประดิษฐ์และเครื่องกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 3 นัด กระสุนปืนขนาด.38 อีก 3 นัด และเครื่องแบบทหารที่มีตราสัญลักษณ์ BHQ หลายรายการ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของทหารกัมพูชา หน่วยรบพิเศษ BHQ ซึ่งเป็นองครักษ์พิทักษ์สมเด็จฮุน เซน จึงควบคุมตัวมาสอบปากคำที่สถานีตำรวจภูธรลำดวน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ เพราะคาดว่าน่าจะเป็นสายลับเข้ามาฝังตัว ส่งความเคลื่อนไหวทางการทหารไทยให้ฝ่ายกัมพูชา รับเป็นทหารBHQ จริง แต่ไม่ใช่สายลับพล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ลงพื้นที่สอบปากคำนายวิน ดา ด้วยตัวเอง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง […]