สดุดี “จีเชล เพลิโคต์” ผู้ถูกสามีวางยาให้คนแปลกหน้าข่มขืน

close up shot of Gisele

คำเตือน: เนื้อหาของเหตุการณ์จริงมีความอ่อนไหวอาจไม่เหมาะสมสำหรับเยาวชน


ปารีส 20 ธ.ค.- เรื่องราวของสตรีฝรั่งเศส จีเซล เพลิโคต์ สร้างทั้งความตื่นตกใจ พร้อมกับสร้างแรงบันดาลใจ เธอเป็นเหยื่อของสามีเธอเองที่เชื้อเชิญชายหลายสิบคนร่วมกันวางยานอนหลับเพื่อข่มขืน ล่วงละเมิดทางเพศ และบันทึกภาพไว้ภายในบ้านของเธอเองต่อเนื่องเป็นเวลานับสิบปี

คดีความที่เธอได้ลุกขึ้นสู้ปลุกกระแสเรียกร้องสิทธิ แสดงถึงความกล้าหาญของเธอที่หาได้ยากจากเหยื่อข่มขืน


หลังจากไต่สวนมานานราว  4 เดือน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 19 ธันวาคม 2567 โดมินิก เพลิโคต์ ซึ่งขณะนี้เป็นอดีตสามี วัยเดียวกัน คือ 72 ปี ถูกศาลตัดสินตามอัยการร้องขอโทษจำคุก 20 ปี  ในการไต่สวนนั้นเขาให้การรับสารภาพและได้ขอโทษต่อบาปกรรมที่ทำไว้

sketch of Dominique Pelicot
นายโดมินิก สามี

ส่วนจำเลยร่วมอีก 50 คน มีประวัติ ที่มา อายุและอาชีพ แตกต่างกันไป แต่ทั้งหมดทำผิดลักษณะเดียวกันไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ทุกอย่างปรากฎในภาพวิดีโอและภาพนิ่งหลายพันที่โดมินิกบันทึกไว้เอง รวมถึงข้อความการติดต่อสื่อสารชี้ชวนของโดมินิกกับจำเลยร่วมที่มัดแน่น ทำให้ 47 คนถูกพิพากษามีความผิดฐานข่มขืน 2 คนฐานพยายามข่มขืน และที่เหลืออีก 2 คนฐานละเมิดทางเพศ

พฤติกรรม แฟมิลีแมน ช็อกชุมชนอันแสนสงบ


โดมินิก เพลิโคต์ เป็นอดีตช่างไฟฟ้าและตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ที่คนในชุมชนมองว่า เป็นคนโอบอ้อมอารี มักเห็นเขาร่วมกิจกรรมกับลูกๆ อยู่เสมอ ไม่มีใครคิดว่า จะได้รับรู้ว่า เขานำยานอนหลับผสมกับมันฝรั่งบด กาแฟ ไอศครีม ให้ภรรยารับประทาน แล้วเปิดประตูให้ชายหลายสิบคนเข้ามาข่มขืนถึงในบ้าน

ยิ่งไปกว่านั้นยังพบว่า เขาซุกซ่อนกล้องวีดีโอบันทึกภาพเปลือยของภรรยา ลูกสาว และ ภรรยาของลูกชาย แล้วนำไปเผยแพร่ออนไลน์

คำยินยอมจากสามีเพียงพอหรือไม่

จำเลยร่วมหลายคนได้อ้างว่า พวกเขาได้รับคำเชิญจากสามี เท่ากับว่าเป็นคำยินยอมจากภรรยาแล้ว แต่อัยการแย้งว่า ภาพฟ้องอยู่ว่า จีเซลไม่รู้สึกตัวแล้วจะให้การรับรู้ยินยอมได้อย่างไร

ชายทั้ง 50 คนมาจากพื้นที่ในรัศมี 50 กิโลเมตรของเมืองเล็ก ๆ ชื่อ มาซาน (Mazan) ที่ครอบครัวเพเลโคต์อาศัย มีทั้งคนหนุ่ม คนชรา อายุตั้งแต่ 26 ถึง 74 ปี อาชีพหลากหลาย นักดับเพลิง คนขับรถบรรทุก พนักงานส่งของ ทหาร เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย พัศดี ผู้สื่อข่าว และดีเจ

Mazan, France
มาซาน เมืองที่เกิดเหตุ

อัยการได้ทำสำนวนจำแนกการกระทำของจำเลยแต่ละคน จำนวนครั้งที่มีพฤติกรรมลวนลาม ล่วงละเมิดทางเพศหรือไม่และลักษณะใด

ในการพิจารณาคดี ศาลได้รับฟังเรื่องของแต่ละคนที่มีส่วนร่วมในอาชญากรรมในแบบที่แตกต่างกันไป จำนวนครั้งไม่เท่ากัน ซึ่งต่างเป็นปัจจัยในการทำสำนวนและกำหนดบทลงโทษ ชายคนหนี่งให้การว่า “ผมข่มขืนเธอด้วยร่างกาย แต่สมองของผมไม่ได้สั่งการอย่างนั้น”

Sketch shows courtroom during verdict of French mass rape trial
ภาพการพิจารณาคดีในศาล

จำเลยคนหนึ่งชื่อ โรแม็ง วี วัย 63 ปี เป็นผู้ติดเชื้อเอชไอวี ข่มขืนจีเซล เพเลโคต์ ถึง 6 ครั้งโดยไม่สวมอุปกรณ์ป้องกัน แต่โชคดีที่เขาพ้นสภาวะการแพร่เชื้อ

กฎหมายฝรั่งเศสอ่อนด้อยด้านป้องกันการข่มขืน 

กฎหมายข่มขืนของฝรั่งเศสให้นิยามการข่มขืนว่า เป็นการกระทำทางเพศใด ๆ ก็ตามที่กระทำโดย “ความรุนแรง การบังคับ การขู่เข็ญ” โดยไม่มีอ้างอิงถึงการยินยอมใด ๆ

ในการต่อสู้ทางคดี จำเลยโต้แย้งว่า ไม่มีความผิด เพราะไม่รู้ว่าจีเซลไม่อยู่ในสถานะที่จะให้ความยินยอมได้ ยกหัวใจหลักของคดีอาญาที่ต้องมีองค์ประกอบเรื่องเจตนาในการกระทำผิด

เมื่อสามียินยอม ภรรยาก็น่าจะเป็นใจ?

จำเลยหลายคนพยายามต่อสู้ว่า สามีเป็นคนชักชวน ก็ควรจะเพียงพอแล้วว่าสมยอม บางคนอ้างว่าถูกโดมินิกหลอกลวงหรือไม่ก็บังคับไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

แต่ในชั้นศาล โดมินิกยืนกรานซัดทอดทุกคนล้วนกระทำผิดร่วมกับเขาโดยให้การว่า เขาแจ้งชัดเจนว่าภรรยาไม่รู้เรื่องแผนการใด ๆ ด้วยเลย

เลวทรามลามไปอีกครอบครัว

อัยการยังได้ดำเนินคดีฟ้องชายอีกคนหนี่ง ชื่อ ฌ็อง ปีแอร์ มาเรชาล ที่พบกับโดมินิกทางเว็บไซต์ แล้วทั้งสองก็นัดแนะวางแผนร่วมกันโดมินิควางยา ซีเลีย มาเรชาล ภรรยาของเขาเพื่อจะได้ร่วมกันข่มขืน

มาเรชาล จึงถูกเรียกขานว่าเป็น “ลูกศิษย์” ของโดมินิก จากการเรียนรู้วิธีวางยาสลบกับภรรยาเพื่อทำร้ายเธอเป็นเวลา 5 ปี  

ความละอายใจเปลี่ยนข้างไปแล้ว

“ผู้ที่ควรอับอาย ไม่ใช่เหยื่อ แต่ควรเป็นผู้ก่อเหตุต่างหาก” นี่คือสิ่งที่จีเซลบอกกับสังคม หลังจากฟังคำพิพากษา เธอกล่าวกับสื่อมวลชนว่า “พวกเราร่วมสู้ด้วยกัน”

“ในใจของเธอ รำลึกถึงเหยื่อที่ไม่ถูกเปิดเผยตัว เรื่องราวของพวกเขาที่ถูกปกปิดไว้” จีเซลกล่าวพร้อมกับลูกสาวและลูกชายสองคนที่ไปให้กำลังใจในวันพิพากษา    

 “ตั้งแต่เริ่มการพิจารณาคดีมา เธอต้องการให้สังคมร่วมเป็นพยานรับรู้สิ่งที่นำมาตีแผ่ในศาล เธอรู้สึกเชื่อมั่นว่าสังคมจะสร้างอนาคตที่ดีได้สำหรับทุกคน ไม่ว่าหญิงหรือชาย เพื่อใช้ชีวิตร่วมกันอย่างกลมเกลียวด้วยความเคารพและเข้าใจซี่งกันและกัน”

French newspaper headlines day after rape trial verdict
จีเซล เพลิโคต์

เสียงชื่นชมหลั่งไหลจากทุกสารทิศรวมถึงจากบรรดาผู้นำหลายชาติ นายโอลาฟ โชลซ์ นายกรัฐมนตรีของเยอรมนีโพสต์ข้อความว่า “ขอบคุณ – คุณเลือกที่จะเปิดเผยต่อสาธารณชนอย่างกล้าหาญและต่อสู้เพื่อความยุติธรรม ทำให้ผู้หญิงทั่วโลกมีเสียงที่ดังขึ้น ผู้ก่อเหตุเท่านั้นที่ควรมีความละอาย”

ความกล้าหาญของวีรสตรีที่ชื่อ จีเซล เพลิโคต์

จีเซล เพลิโคต์ ได้รับการชื่นชมจนกลายเป็นหนี่งในสตรีผู้ทรงอิทธิพลที่สุดคนหนึ่งของสื่อหลายสำนัก ในคดีข่มขืนที่ใหญ่ที่สุดของฝรั่งเศส เธอสามารถที่จะร้องขอให้การพิจารณาคดีแบบปิดได้เพื่อไม่ให้เรื่องราวกระจายออกไป แต่เธอกลับเรียกร้องให้เปิดเผยทุกอย่างต่อสาธารณชน ด้วยความหวังว่าจะสามารถช่วยเหลือสตรีคนอื่น ๆ ที่ต้องตกเป็นเหยื่อให้เปิดโปงความเลวร้ายออกมาด้วย การเป็นเหยื่อไม่ใช่สิ่งที่น่าอาย คนทำผิดต่างหากที่สมควรละอาย 

ทุกครั้งที่จีเซลเดินทางไปขึ้นศาลหรือปรากฎตัวที่ที่สาธารณะ เธอจะได้รับการต้อนรับ ชื่นชม โห่ร้องให้กำลังใจ ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องราวยังปลุกกระแสการชำระล้างทางศีลธรรม รวมไปถึงการปรับปรุงตัวบทกฎหมายของประเทศต่างๆ ให้เท่าทันสังคมมนุษย์ที่เสื่อมโทรมและซับซ้อน.-812(814).-สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

สึกแล้ว “ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง” ปมร้องเรียนทุจริตเงินวัด-พัวพัน 3 สีกา

19 ก.ย. – สึกแล้ว “ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง” และเดินทางออกจากวัดทันที หลังก่อนหน้านี้มีการร้องเรียนเกี่ยวกับทุจริตเงินวัด และพัวพัน 3 สีกา เป็นภาพเอกสารที่พระธรรมสุธี เจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง ส่งไปยังเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร เพื่อชี้แจงกรณีของผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง พร้อมแนบภาพถ่ายการลาสิกขาของผู้ช่วยเจ้าอาวาส เอกสารระบุข้อความว่า “ตามที่มีประเด็นปรากฏในสื่อออนไลน์ และสื่อต่างๆ เกี่ยวข้องกับผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง ทางวัดหัวลำโพง ขอชี้แจงตามประเด็นดังต่อไปนี้ 1.กรณีพฤติกรรมชู้สาวของพระครูปริยัติวัฒนกิจ ทางวัดยังไม่พบหรือปรากฏหลักฐาน เนื่องจากเป็นเรื่องส่วนบุคคล2.กรณียักยอกงินวัดนั้น ทางวัดขอชี้แจงว่า ยังไม่พบหรือปรากฏหลักฐาน เนื่องจากหน้าที่ของพระครูปริยัติวัฒนกิจ เป็นเพียงเจ้าหน้าที่ฌาปนสถานวัดหัวลำโพง มีหน้าที่ประสานงานกับเจ้าภาพที่มาติดต่อเกี่ยวกับการจองศาลาบำเพ็ญกุศล อีกทั้งฌาปนสถานวัดหัวลำโพง ประกอบด้วยกรรมการบริหารจำนวน 5 รูป โดยมีเจ้าอาวาสเป็นประธาน และมีการทำบัญชีรายรับรายจ่ายในส่วนฌาปนสถานของวัดมาโดยตลอด 3.กรณีลาสิกขา ทางพระครูปริยัติวัฒนกิจ แจ้งความประสงค์ลาสิกขาด้วยความสมัครใจ เพื่อมิให้กระทบกระเทือนต่อภาพลักษณ์ของวัด และศรัทธาของสาธุชน โดยลาสิกขา 18 ก.ย. 2568 เวลา 19.10 น. และเดินทางออกจากวัดทันที ย้อนดูคำชี้แจง “อดีตพระครูปริยัติวัฒนกิจ”ย้อนดูคำชี้แจงจากปากของอดีตพระครูปริยัติวัฒนกิจ ก่อนหน้านี้ที่ทีมข่าวได้พูดคุยผ่านทางโทรศัพท์ สำหรับเรื่องทุจริตเงินวัด อดีตพระครูปริยัติวัฒนกิจ บอกว่าเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง ปกติหน้าที่เกี่ยวข้องกับเงินของตนเอง […]

เบื้องหลังละครกัมพูชา

สระแก้ว 19 ก.ย. – ชาวกัมพูชาที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ยังไม่รามือ หลังพบความพยายามรวบรวมฝูงชนจากพื้นที่อื่น เข้ามาสร้างสถานการณ์ยึดดินแดนไทย อาจมีเบื้องหลังเป็นข้าราชการกัมพูชา-นายทุนต่างชาติ.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูเชิญถกอาเซียน ยันไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยได้

พรรคภูมิใจไทย 19 ก.ย.- “อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูหาเชิญร่วมประชุมอาเซียน ยันไม่มีใครเคลียร์-แทรกแซงรัฐบาลได้ หลัง “ฮุน มาเนต” ขอมาเลเซียเป็นตัวกลาง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ออกมาเปิดเผยว่าได้โทรศัพท์พูดคุยเป็นการส่วนตัว โดยนายอนุทิน ยอมรับว่า เมื่อวานนายอันวาร์ได้โทรมาหา พูดคุยถึงการเชื้อเชิญว่า ถ้าหากตนได้รับตำแหน่งเรียบร้อยแล้วคงจะได้พบกันโดยเร็วที่สุด ซึ่งจะเป็นการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในช่วงเดือนหน้า ส่วนการพูดคุยถึงสถานการณ์ชายแดนจังหวัดสระแก้ว นายอนุทิน ระบุว่า ไม่ได้มีการพูดคุยในรายละเอียด อีกทั้งตนยังไม่สามารถพูดอะไรได้มาก เนื่องจากยังไม่ได้เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งขณะนี้ก็ยังคงมีรัฐบาลรักษาการ เราให้เกียรติกัน “ผมรับตำแหน่งได้ ก็ต่อเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อน ส่วนเรื่องนโยบาย ข้อสั่งการ ต้องรอการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งขณะนี้เราก็ยังรวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์ไว้ให้มากที่สุด” นายอนุทิน กล่าว ส่วนกรณีที่นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ร้องขอไปยังนายอันวาร์ เพื่อให้เข้ามาแทรกแซงการเจรจานั้น นายอนุทิน ยืนยันว่า ไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยและอธิปไตยของไทยได้ ส่วนเรื่องการพูดคุย นายอนุทิน ย้ำว่า เราสามารถทำได้ เพราะเป็นคนที่คุ้นเคยรู้จักกัน […]

“อนุทิน” กินข้าว “อภิสิทธิ์” ขอคำแนะนำอดีตนายกฯ

กทม. 19 ก.ย.- “อนุทิน” โพสต์ภาพร่วมโต๊ะกินมื้อกลางวันคู่กับ “อภิสิทธิ์” บอกขอคำแนะนำอดีตนายกฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพรับประทานอาหารกลางวันคู่กับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งเป็นการส่วนตัว พร้อมระบุข้อความว่า “ได้รับคำแนะนำที่มีประโยชน์และคุณค่ามากมายจากท่านนายกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ได้ให้เกียรติมาให้กำลังใจและทานอาหารกลางวันด้วยกันในวันนี้ ขอบพระคุณท่านมากครับ” ทั้งนี้ ถือเป็นความเคลื่อนไหวแรกของนายกรัฐมนตรี หลังจากที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของนายอนุทิน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีอีกกระแสข่าว ที่เรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ กลับไปเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ -สำนักข่าวไทย