TNA News-Now-Next: เปิดประเด็นหลักที่ต้องจับตาในการเลือกตั้งอินเดีย

นิวเดลี 19 เม.ย.- ผู้มีสิทธิเลือกตั้งชาวอินเดียเกือบ 1,000 ล้านคนจะได้ใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกโลกสภาหรือสภาผู้แทนราษฎรจำนวน 543 ที่นั่ง เริ่มตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 1 มิถุนายน โดยมีประเด็นหลักหลายประเด็นที่ต้องให้ความสนใจ แม้ว่าผลการหยั่งเสียงชี้ว่า นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี และพรรคชาตินิยมฮินดูจะชนะในการเลือกตั้งครั้งใหญ่ที่สุดในโลกครั้งนี้


การพัฒนาเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ
คาดกันว่าเศรษฐกิจอินเดียจะขยายตัวมากถึงร้อยละ 8 ในปีงบประมาณที่สิ้นสุดไปเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2567 อินเดียภายใต้การบริหารประเทศของโมดีมาตั้งแต่ปี 2557 ได้กระโดดขึ้นมาเป็นเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 5 ของโลก จากเดิมอยู่ที่อันดับ 10 โมดีวัย 73 ปี รับปากว่าจะทำให้อินเดียเป็นเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 3 ของโลกหากได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งวาระ 5 ปีเป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกัน อย่างไรก็ดี อานิสงส์ที่เกิดขึ้นกระจุกตัวอยู่แต่ในเมืองใหญ่เท่านั้น เพราะประชาชนส่วนใหญ่ตามชนบทยังคงต้องเผชิญกับปัญหาข้าวของแพง อัตราเงินเฟ้อปีงบประมาณ 2565/2566 อยู่ที่ร้อยละ 6.7 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 5.5 ในปี 2564/2565 และร้อยละ 6.2 ในปี 2566/2567

นโยบายสวัสดิการ
ตั้งแต่เกิดโรคโควิด-19 ระบาด รัฐบาลโมดีได้แจกอาหารฟรีให้แก่ประชาชน 814 ล้านคนจากทั้งหมด 1,420 ล้านคนทั่วประเทศ มีเสียงวิจารณ์ว่า การที่รัฐบาลต้องเลี้ยงดูประชากรร้อยละ 60 ของประเทศสะท้อนว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจไปไม่ถึงคนทั่วประเทศ ข้อมูลของเวิลด์ อินอิควอลิตี้ แล็บ (World Inequality Lab) พบว่า นับจนถึงสิ้นปี 2566 กลุ่มคนรวยที่สุดในอินเดียถือครองทรัพย์สินร้อยละ 40.1 ของประเทศ และมีรายได้รวมกันร้อยละ 22.6 ของประเทศ โมดีและพรรคภารติยะ ชนะตะหรือบีเจพี (BJP) เอาใจผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่เป็นผู้หญิงด้วยการชูนโยบายส่งเสริมสวัสดิการ เช่น แจกเงินสด ดูแลเรื่องน้ำประปา ไฟฟ้า และก๊าซหุงต้ม


การปลุกกระแสฮินดู
นายกรัฐมนตรีโมดีเป็นประธานเปิดวัดพระรามในเมืองอโยธยาเมื่อเดือนมกราคมปีนี้ บนที่ตั้งที่เชื่อกันว่าเป็นที่ประสูติของพระองค์ ทำให้พรรคบีเจพีที่เป็นพรรคชาตินิยมฮินดูสามารถรักษาสัญญาที่ให้ไว้เมื่อ 35 ปีก่อน สถานที่แห่งนี้เคยเป็นที่ตั้งของมัสยิดบาบรีสมัยศตวรรษที่ 16 และถูกม็อบชาวฮินดูทำลายลงเมื่อปี 2535 เพราะเชื่อว่าสร้างทับวัดฮินดู โมดียังตระเวนไปตามวัดฮินดูทั่วประเทศและเป็นข่าวโทรทัศน์อยู่เสมอ รัฐบาลของเขายกเลิกโครงการของรัฐบาลกลางที่สนับสนุนโรงเรียนสอนศาสนาอิสลาม และบังคับใช้กฎหมายพลเมืองที่ถูกวิจารณ์ว่าเลือกปฏิบัติต่อชาวมุสลิมที่เป็นคนกลุ่มน้อย เพราะให้สัญชาติอินเดียกับคนทุกศาสนายกเว้นอิสลาม โดยต้องเป็นผู้ที่หนีการข่มเหงทางศาสนาจากอัฟกานิสถาน บังกลาเทศ และปากีสถานมาอินเดียก่อนวันที่ 31 ธันวาคม 2557

ปัญหาทุจริตรับสินบน
หน่วยงานของรัฐบาลอินเดียที่สอบสวนเรื่องการฟอกเงินสอบปากคำ บุกค้น หรือจับกุมนักการเมืองฝ่ายค้านเกือบ 150 คนในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา แต่สอบสวนนักการเมืองฝ่ายรัฐบาลไม่ถึง 10 คน นายอาร์วินด์ เกจรีวัล มุขมนตรีดินแดนเมืองหลวงแห่งชาติเดลีและแกนนำฝ่ายค้านถูกจับกุมข้อหาทุจริตเมื่อต้นเดือนนี้ ขณะที่พรรคคองเกรสที่เป็นฝ่ายค้านหลักก็เผชิญกับคดีภาษีมากมาย ฝ่ายค้านกล่าวหารัฐบาลว่า ใช้หน่วยงานรัฐเล่นงานพวกเขา

อัตราว่างงาน
โมดีหาเสียงเลือกตั้งในปี 2557 ว่าจะทำให้คนหนุ่มสาวชาวอินเดียมีงานทำ แต่ผ่านมา 10 ปี คำมั่นนี้ยังไม่เห็นผล ข้อมูลของหน่วยงานเอกชนระบุว่า อัตราว่างงานในเดือนกุมภาพันธ์สูงถึงร้อยละ 8 ขณะที่ข้อมูลของรัฐบาลระบุว่า อัตราว่างงานในปีงบประมาณสิ้นสุดเดือนมีนาคม 2566 อยู่ที่ร้อยละ 5.4 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 4.9 ในปีงบประมาณก่อนโมดีรับตำแหน่ง และว่าคนหนุ่มสาวในเขตเมืองวัย 15-29 ปี ว่างงานราวร้อยละ 16 เพราะขาดทักษะในการทำงานและงานที่มีอยู่ไร้คุณภาพ


เกษตรกร
พรรคบีเจพีรับปากในการเลือกตั้งครั้งหลังสุดเมื่อปี 2562 ว่า จะเพิ่มรายได้เกษตรกรเป็น 2 เท่าภายในปี 2565 แต่ยังไม่เห็นวี่แววว่าจะเป็นจริง รัฐบาลโมดีได้ออกกฎหมายปฏิรูปภาคการเกษตร 3 ฉบับที่ทำให้เกษตรกรไม่พอใจและประท้วงใหญ่ จนต้องถอนกฎหมายออกไปในปี 2564 และในปีนี้เกษตรกรได้รวมตัวชุมนุมตามท้องถนนอีกครั้ง เรียกร้องให้เพิ่มการประกันราคาผลผลิตทางการเกษตร แต่การชุมนุมก็สลายตัวไปภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์

สถานภาพบนเวทีโลก
พรรคบีเจพีมักอ้างว่า อินเดียมีสถานภาพบนเวทีโลกสูงขึ้นเพราะเป็นผลงานของนายกรัฐมนตรีโมดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากการเป็นเจ้าภาพการประชุมสุดยอดกลุ่มจี 20 เมื่อปี 2566 และการที่สามารถอพยพชาวอินเดียที่ติดค้างอยู่ในยูเครนหลังจากรัสเซียเปิดฉากโจมตี

TNA News-Now-Next: Final Thoughts
แม้ว่าโมดีและพรรคบีเจพีมีแนวโน้มจะชนะเลือกตั้งเป็นสมัยที่ 3 ได้บริหารประเทศประชาธิปไตยใหญ่ที่สุดในโลกแห่งนี้ต่อไปอีก 5 ปี แต่ผลงานตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ยังมีหลายประเด็นที่ไม่สามารถทำตามที่ได้หาเสียงไว้ และมีหลายประเด็นที่อาจจุดกระแสประท้วงไม่พอใจขึ้นมาอีก ผลคะแนนเลือกตั้งที่จะมีการนับในวันที่ 4 มิถุนายนจะเป็นเสียงสะท้อนว่า ผู้มีสิทธิเลือกตั้งชาวอินเดียพึงพอใจกับการทำงานของเขาหรือไม่ และต้องมีการปรับเปลี่ยนอย่างไรเพื่อให้สมกับที่ประชาชนให้ความไว้วางใจ.-814.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

ประชุม JBC วันแรกเป็นไปด้วยดี สองฝ่ายหารือตรงไปตรงมา

14 มิ.ย.- โฆษก กต. เผยการประชุม JBC “ไทย-กัมพูชา” บรรยากาศเป็นไปด้วยดี ทั้งสองฝ่ายหารือกันอย่างตรงไปตรงมา พร้อมย้ำไทยไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก สำหรับการประชุมจะเสร็จสิ้นในวันพรุ่งนี้ นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงการประชุมกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย – กัมพูชา หรือ JBC ครั้งที่ 6 ว่าตั้งแต่เมื่อเช้า หลังจากคณะผู้แทนไทยฯ ที่นำโดยนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย เดินทางถึงกรุงพนมเปญเมื่อวานนี้ ได้รับรายงานความคืบหน้ามาเป็นระยะ และเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศก็ได้เรียกประชุมผู้บริหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ที่ขอให้เรียกประชุมและรายงานความคืบหน้าเป็นระยะ เพื่อจะได้มีข้อสั่งการ นายนิกรเดช กล่าวว่า การประชุมเริ่มจากที่พบหารือระหว่างสองประธานไทย-กัมพูชา กลุ่มเล็ก จากนั้นได้เริ่มการประชุม JBC เต็มคณะ เพื่อหารือประเด็นทางเทคนิค ที่อยู่ในขอบเขตการทำงานของ JBC เช่นการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีการสำรวจภูมิประเทศ ขณะนี้การประชุมก็ยังคงดำเนินอยู่ ซึ่งช่วงบ่ายก็จะเป็นการหารือตามระเบียบวาระที่วางไว้ เช่นการพูดคุยด้านเทคนิค และคาดว่าจะมีการประชุมไปจนถึงวันพรุ่งนี้ บรรยากาศการประชุมเป็นไปด้วยดี และทั้งสองฝ่ายกำลังเดินหน้าหารือกันตามวาระ ถือว่าการประชุมเป็นไปด้วยดี ทั้งสองฝ่ายเดินหน้าคุย และปรับความคิดหากันด้วยดี ฝ่ายไทยหวังว่าการประชุมครั้งนี้จะมีส่วนช่วยลดความ ตึงเครียดของสถานการณ์ที่เกิดขึ้น […]

ประชุม JBC “ไทย-กัมพูชา” ยึด MOU43 แก้ปมชายแดน-ลดตึงเครียด

14 มิ.ย.- “ไทย-กัมพูชา” แถลงย้ำความสำคัญของการใช้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม JBC เจรจาประเด็นด้านเขตแดนระหว่างกัน และการทำงานร่วมกันด้วยสันติวิธี ภายใต้กรอบ MOU43 นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย เป็นประธานการประชุมกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) ร่วมกับนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา ทั้งสองฝ่ายกล่าวถ้อยแถลงย้ำความสำคัญของการใช้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) ในการเจรจาประเด็นด้านเขตแดนระหว่างกันและการทำงานร่วมกันด้วยสันติวิธี ภายใต้กรอบบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก พ.ศ. 2543 (MOU 43) เพื่อประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาชายแดนและลดความตึงเครียดที่มีอยู่ ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการของทั้งสองฝ่าย ประกอบด้วย ผู้แทนจากหน่วยงานเชิงเทคนิคที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม กรมแผนที่ทหาร กองทัพบก กองทัพเรือ สำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา (เทียบเท่ากระทรวง) กระทรวงกลาโหมกัมพูชา กองทัพภาคต่าง ๆ ของกัมพูชา รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชาของกัมพูชาทุกจังหวัด -สำนักข่าวไทย

Cambodia and Thailand hold a closed-door meeting ahead of the official meeting of JBC in Phnom Penh

ไทย-กัมพูชา หารือกลุ่มเล็กก่อนประชุม JBC

พนมเปญ 14 มิ.ย. – สื่อกัมพูชารายงานว่า กัมพูชาและไทย ได้เปิดการหารือกลุ่มเล็กฝ่ายละ 5 คน ก่อนการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม หรือเจบีซี (JBC) ที่กรุงพนมเปญ ในวันนี้ เว็บไซต์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานว่า ในการหารือกลุ่มเล็กที่มีผู้ร่วมเข้าเพียง 10 คน ฝ่ายกัมพูชานำโดยนายเจีย ฬำ  รัฐมนตรีผู้รับผิดชอบกิจการชายแดน ส่วนฝ่ายไทยนำโดยนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ที่ปรึกษากระทรวงต่างประเทศด้านกิจการชายแดน ซึ่งเป็นนักการทูตผู้เชี่ยวชาญช่วงข้อพิพาทปราสาทพระวิหาร พร้อมกับเผยแพร่ภาพชุดการหารือดังกล่าว.-814.-สำนักข่าวไทย

รวบแล้ว! โจรชิงทองที่ลำพูน หนีกบดานพัทยา

พัทยา 14 มิ.ย.- หนีไม่รอด! รวบโจรบุกเดี่ยวชิงทอง จ.ลำพูน หนีกบดานพัทยา สารภาพติดการพนันออนไลน์ จากกรณีเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2568 เกิดเหตุคนร้ายรูปร่างสูงประมาณ 160-165 ซม. ทราบชื่อต่อมาคือ นายประกร อายุ 47 ปี ขี่รถจักรยานยนต์สีดำ บุกเดี่ยวเข้าไปชิงทองคำรูปพรรณ จากห้างทองฯ อ.ป่าซาง จ.ลำพูน ได้สร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 5 บาท ไปจำนวน 2 เส้น มูลค่ากว่า 500,000 บาท แล้วหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ล่าสุดตำรวจ สภ.จว.ชลบุรี ได้เบาะแสว่า นายประกร ที่มีหมายจับศาลจังหวัดลำพูน ในข้อหากระทำความผิดฐาน “วิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม” หลังก่อเหตุได้หนีมากบดานในพื้นที่จังหวัดชลบุรี จึงนำกำลังออกติดตาม กระทั่งพบตัวนายประกร อยู่ภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านพัทยากลาง เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าจับกุม เจ้าตัวให้การยอมรับ เป็นผู้ก่อเหตุวิ่งราวทองจากห้างทองในพื้นที่จังหวัดลำพูนจริง หลังก่อเหตุได้หนีมายังพื้นที่เมืองพัทยาและนำทองไปขายในห้างทองแห่งหนึ่ง ตอนแรก คิดว่าจะเดินทางเข้ามาตัว แต่ก็สายไปเนื่องจากมาโดนเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมตัวได้เสียก่อน ส่วนสาเหตุที่ก่อเหตุลงไปนั้นเนื่องจากตนเองติดการพนันออนไลน์ จนเงินหมด […]