แอตแลนตา 7 เม.ย.- เว็บไซต์ซีเอ็นเอ็นวิเคราะห์สาเหตุที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐสั่งยิงจรวดโจมตีฐานทัพอากาศซีเรีย ทั้งที่เดิมเคยแสดงท่าทีคัดค้านการใช้กำลังทหารกับซีเรีย
คริส ซิลลิซซา ผู้สื่อข่าวและนักวิเคราะห์การเมืองที่เพิ่งย้ายมาทำงานประจำกับซีเอ็นเอ็นเขียนบทความวิเคราะห์ว่า การที่ทรัมป์สั่งให้ยิงจรวดโทมาฮอว์กกว่า 50 ลูกถล่มฐานทัพอากาศในเมืองฮอมส์ ทางตะวันตกของซีเรียเมื่อคืนวันพฤหัสบดีตามเวลาสหรัฐ ตรงกับเช้าวันศุกร์ตามเวลาในไทย ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ทรัมป์เคยทวีตเมื่อปี 2556 วิจารณ์ประธานาธิบดีบารัค โอบามาที่ต้องการใช้กำลังทหารกับซีเรียเพราะใช้อาวุธเคมีกับประชาชนว่า การทิ้งระเบิดซีเรียไม่ได้ประโยชน์อะไรนอกจากหนี้สินที่เพิ่มขึ้นและอาจทำให้ความขัดแย้งยืดเยื้อ อีกทั้งยังกล่าวหาโอบามาระหว่างหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีปีก่อนว่า ปล่อยให้การเมืองสำคัญกว่าการปราบปรามก่อการร้าย โดยเฉพาะนโยบายรับผู้อพยพเข้าประเทศ
ซิลลิซซาวิเคราะห์จากที่ทรัมป์แถลงข่าวร่วมกับสมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลลาห์ของจอร์แดนเมื่อวันพุธว่า สิ่งที่ทำให้ทรัมป์เปลี่ยนใจคือภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเมืองข่าน เชคุน จังหวัดอิดลิบ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรียเมื่อวันอังคาร เพราะทรัมป์กล่าวว่า การใช้อาวุธเคมีกับผู้บริสุทธิ์ในซีเรียซึ่งมีทั้งสตรี เด็กเล็ก และแม้แต่ทารกเมื่อวันก่อนเป็นเรื่องที่น่ากลัวมาก การสังหารคนเหล่านี้เท่ากับดูหมิ่นความเป็นมนุษย์ การกระทำชั่วร้ายของรัฐบาลบาชาร์ อัลอัสซาดเป็นเรื่องที่เกินทน ทัศนคติที่เขามีต่อซีเรียและนายอัสซาดได้เปลี่ยนไปหมดแล้ว นอกจากนี้บทบาทที่เปลี่ยนไปจากการเป็นประชาชนมาเป็นประธานาธิบดี ทำให้ทรัมป์ต้องแสดงให้คนเห็นว่าเขาเป็นทั้งคนที่ต่อต้านโอบามาและคนเป็นพูดจริงทำจริง.-สำนักข่าวไทย