สหรัฐ 22 มี.ค. – สหรัฐสั่งห้ามโน้ตบุ๊กขึ้นเครื่องบิน มีผลต่อสายการบิน 9 แห่งจากตะวันออกกลางรวมทั้งตุรกีและอียิปต์ หวั่นภัยก่อการร้าย อังกฤษทำตามแคนาดากำลังพิจารณา
สหรัฐออกมาตรการคุมเข้มการเดินทางโดยเครื่องบินล่าสุด ห้ามอุปกรณ์สื่อสารที่มีขนาดใหญ่กว่าไอโฟน 7 พลัส รวมทั้งโน้ตบุ๊กและแท็บเล็ตนำติดตัวขึ้นเครื่อง ต้องโหลดใส่กระเป๋าเดินทางเท่านั้น มีผลกับสายการบิน 9 แห่งจากสนามบิน 10 แห่งในตะวันออกกลาง รวมทั้งตุรกีและจากแถบแอฟริกาเหนือ เช่น เตอร์กิช แอร์ไลน์ เอมิเรตส์และเอติฮัด แอร์เวย์ส เป็นต้น ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคงและภัยโจมตีจากผู้ก่อการร้าย เริ่มวันที่ 25 มี.ค.นี้ และจะบังคับใช้ไปก่อนแบบไม่มีกำหนด แต่ไม่เกี่ยวข้องกับคำสั่งบริหารเข้มงวดต่อผู้อพยพจาก 6 ประเทศมุสลิมของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ
ขณะที่อังกฤษประกาศใช้มาตรการเดียวกันในอีกหลายชั่วโมงต่อมา มีผลกับ 14 สายการบินรวมทั้งบริติช แอร์เวย์ ที่บินตรงมาจากตุรกี เลบานอน ตูนิเซีย จอร์แดน อียิปต์ และซาอุดีอาระเบีย โฆษกรัฐบาลอังกฤษแถลงว่า มาตรการนี้อาจก่อความยุ่งยากกับผู้โดยสารและเที่ยวบินต่างๆ บ้าง แต่รัฐบาลจะถือเอาความปลอดภัยของพลเมืองเป็นที่ตั้ง
ด้านรัฐบาลแคนาดากำลังพิจารณาบังคับใช้มาตรการเดียวกันนี้ด้วยเช่นกัน ขณะที่รัฐบาลตุรกีออกมาระบุว่า คำสั่งห้ามดังกล่าวของสหรัฐเป็นเรื่องผิดพลาดและควรยกเลิก
สำหรับเหตุโจมตีบนเครื่องบินโดยสารก่อนหน้านี้ที่ทำให้ผู้คนหวาดวิตกกันเกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้วที่โซมาเลีย โดยกองกำลังอัล-เชบับ นำโน้ตบุ๊กติดตั้งระเบิดขึ้นเครื่องบินแล้วกดชนวนระเบิดกลางอากาศจนเครื่องบินเป็นรูโบ๋ แต่ขณะเกิดเหตุเครื่องบินยังบินระดับต่ำ กัปตันจึงนำเครื่องลงจอดได้ปลอดภัย อีกทั้งยังเคยเกิดกรณีคนร้ายพยายามซ่อนระเบิดขึ้นเครื่องบินด้วยวิธีการต่างๆ นานา เช่น ซ่อนในรองเท้า หรือกางเกงใน รวมทั้งใช้วัตถุระเบิดชนิดเหลวและซุกระเบิดในเครื่องปรินเตอร์ แต่โชคดีที่มีการตรวจพบและสกัดได้ทันทั้งหมดก่อนเกิดเหตุ. – สำนักข่าวไทย