นิวยอร์ก 28 ธ.ค.- กลุ่มรณรงค์สิทธิสตรีชี้ว่า การรณรงค์สิทธิสตรีจะยังคงเผชิญความท้าทายมากมายในปีหน้า ทั้งเรื่องการหาทางทำให้คลีนิกสุขภาพดำรงอยู่ต่อไป การปกป้องโครงการทำแท้งกรณีตั้งครรภ์ไม่พร้อม และการบังคับใช้กฎหมายคุ้มครองสตรีจากการตกเป็นเหยื่อความรุนแรง
องค์การนิรโทษกรรมสากลประจำสหรัฐระบุว่า ความท้าทายเรื่องสิทธิสตรีในปีหน้าเป็นเรื่องระดับโลก เรื่องแรกคือการเข้าถึงการทำแท้งและคุมกำเนิด รัฐบาลโรนัลด์ เรแกนของสหรัฐห้ามกลุ่มที่รับความช่วยเหลือของสหรัฐในต่างประเทศให้บริการทำแท้งหรือให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการทำแท้ง แม้ได้ทุนในการให้บริการเรื่องนี้จากที่อื่นก็ตาม รัฐบาลบารัค โอบามาได้ยกเลิกระเบียบนี้ในปี 2552 แต่มีแนวโน้มว่ารัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์จะนำกลับมาใช้ใหม่ ระเบียบนี้ทำให้หลายกลุ่มที่ให้บริการเรื่องนี้ไม่ยอมรับความช่วยเหลือจากสหรัฐ เป็นเหตุให้ขาดแคลนเงินทุนในการให้บริการสุขภาพอื่น ๆ ไปด้วย
เรื่องที่สองคือกลุ่มที่ทำงานด้านสิทธิสตรีทั่วโลกมักขาดแคลนเงินทุนและเผชิญอุปสรรคในการทำงาน เช่น ต้องจดทะเบียนเป็นหน่วยงานต่างชาติหากต้องการรับเงินบริจาคจากองค์กรระหว่างประเทศ เรื่องที่สามคือการใช้ความรุนแรงกับสตรี สถิติระบุว่า สตรีทุก 1 ใน 3 คน เคยถูกทำร้ายร่างกายหรือทำร้ายทางเพศ ส่วนใหญ่เกิดจากคู่รักหรือคู่สมรส สตรี 1 ใน 5 มีโอกาสถูกข่มขืนหรือพยายามข่มขืน องค์การนิรโทษกรรมสากลประจำสหรัฐระบุว่า การใช้ความรุนแรงกับสตรีถือเป็นวิกฤตสิทธิมนุษยชน วิกฤตสุขภาพ และวิกฤตทางวัฒนธรรม ส่วนในสหรัฐเองมีเรื่องท้าทายด้านสิทธิสตรีหลายอย่าง ทั้งการที่สหรัฐลดบทบาทความเป็นผู้นำในเรื่องนี้ และมีแนวโน้มต่อต้านการทำแท้งและการคุมกำเนิดมากขึ้น.-สำนักข่าวไทย