วอชิงตัน 17 มี.ค.- กลุ่มจับตาการพัฒนากล่าวหาธนาคารโลกว่า ลงทุนในสถาบันการเงินเอกชนที่ปล่อยให้มีการยึดที่ดิน ขับไล่ประชาชน และก่อมลพิษในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทางอ้อม
กลุ่มการพัฒนาอย่างมีส่วนร่วมระหว่างประเทศซึ่งตั้งอยู่ในสหรัฐออกรายงานกล่าวหาธนาคารโลกในวันนี้ว่า เงินทุนของธนาคารโลกที่บรรษัทการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอฟซี) นำไปลงทุนในสถาบันการเงินเหล่านี้อาจเพิ่มความยากจน การแก่งแย่งทางสังคม และโครงการอันตราย เช่น เร่งการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เท่ากับละเมิดระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมของธนาคารโลก
รายงานยกตัวอย่างว่า ไอเอฟซีลงทุนในธนาคารออสเตรียแห่งหนึ่งที่สนับสนุนบริษัทเหมืองในไทยซึ่งไปทำเหมืองถ่านหินในเมียนมาร์และถูกกล่าวหาว่ายึดที่ดินที่ชาวบ้าน 16,000 คนทำกินมาตั้งแต่บรรพบุรุษ หรือไปลงทุนในธนาคารรัฐของเวียดนามที่สนับสนุนโรงไฟฟ้าถ่านหิน โรงยางยางพารา โรงไฟฟ้าพลังน้ำ เหมืองบ็อกไซต์ในเวียดนามและกัมพูชา บางโครงการทำให้ชาวเวียดนาม 91,000 คนไร้ที่อยู่ บางโครงการเป็นอันตรายต่อสัตว์น้ำในแม่น้ำโขงส่วนที่ไหลผ่านกัมพูชา
กลุ่มนี้เคยออกรายงานเมื่อเดือนตุลาคมกล่าวหาการลงทุนของไอเอฟซีว่า ทำให้ธุรกิจถ่านหินในเอเชียเฟื่องฟู ทั้งที่ธนาคารโลกรับปากจะทยอยยกเลิกการสนับสนุนโรงไฟฟ้าที่ใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิง ด้านโฆษกไอเอฟซีแถลงชี้แจงว่า การลงทุนในสถาบันการเงินเอกชนจำเป็นต่อการลดความยากจนและเพิ่มการจ้างงาน เพราะจะให้ผลมากกว่าไอเอฟซีทำเองหลายเท่า.-สำนักข่าวไทย