เชียงราย 5 มิ.ย. – รัฐบาลรับหนังสือแถลงการณ์จากเครือข่ายประชาชนแม่น้ำกก-สาย-โขง เรียกร้องยุติการทำเหมืองต้นน้ำที่ก่อมลพิษข้ามแดน พร้อมขอให้เร่งฟื้นฟูระบบนิเวศแม่น้ำกก-สาย และโขง ขณะที่กระทรวง ทส.เดินหน้ามาตรการเร่งด่วน ทั้งตั้งศูนย์เฝ้าระวัง ดักตะกอน และสื่อสารข้อมูลต่อประชาชนอย่างต่อเนื่อง
ที่บริเวณสะพานแม่น้ำกก หน้าศาลากลางจังหวัดเชียงราย เครือข่ายประชาชนแม่น้ำกก สาย โขง ได้อ่านแถลงการณ์ต่อรัฐบาลเป็นภาษาไทย อังกฤษ จีน พม่า และไทยใหญ่ โดยเรียกร้องให้รัฐบาลไทยดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อยุติเหมืองแร่ต้นน้ำที่เป็นต้นเหตุของมลพิษข้ามแดน โดยเฉพาะบริเวณชายแดนไทย–เมียนมา และขอให้มีมาตรการฟื้นฟูแม่น้ำกก-สาย-รวก และโขง อย่างเร่งด่วน
หนังสือแถลงการณ์ดังกล่าวมีนายขจร ศรีชวโนทัย รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้แทนนายกรัฐมนตรีรับเรื่องไว้ เพื่อนำเรียนต่อนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนางสาวปรีญาพร สุวรรณเกษ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ และนายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ร่วมรับมอบหนังสือจากประชาชนในพื้นที่
นางสาวปรีญาพร สุวรรณเกษ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ เปิดเผยว่า ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดเร่งดำเนินการตามมาตรการที่กำหนด เพื่อบรรเทาผลกระทบจากมลพิษข้ามแดน และสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชนในพื้นที่ โดยเน้นให้ทุกหน่วยงานเพิ่มความเข้มข้นในการแก้ไขปัญหาทั้งในระดับพื้นที่และเชิงระบบ
มาตรการสำคัญที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ ได้แก่
- จัดตั้งศูนย์เฝ้าระวังการปนเปื้อนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดเชียงราย พร้อมจัดชุดปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็วประจำการในพื้นที่ 3 จุด
- มอบหมายกรมควบคุมมลพิษเป็นหน่วยงานหลักในการเผยแพร่ข้อมูลผลตรวจวัดคุณภาพน้ำและตะกอนดิน รวมถึงจัดทำรายงานสถานการณ์และสื่อสารการดำเนินงานต่อสาธารณชนอย่างต่อเนื่อง
- หากมีประเด็นสังคมไม่เข้าใจหรือวิตกกังวล ให้กรมควบคุมมลพิษร่วมแถลงข่าวกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมอนามัย กรมประมง
- เร่งออกแบบและก่อสร้างฝายดักตะกอน โดยเฉพาะจุดต้นน้ำที่พบค่าสารหนูสูง เช่น ตำบลท่าตอน อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ และจุดต้นน้ำสาย ซึ่งอยู่ในพื้นที่ชายแดนไทย–เมียนมา ต้องหารือร่วมกับจังหวัดเชียงราย
- ประสานสถาบันการศึกษาในพื้นที่ ใช้ข้อมูลการศึกษาเพื่อออกแบบระบบดักตะกอนให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
ทั้งนี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมยืนยันจะเร่งดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม โดยมีเป้าหมายเพื่อลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมที่ส่งผลต่อสุขภาพและวิถีชีวิตประชาชน พร้อมย้ำว่ารัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจต่อปัญหามลพิษข้ามแดนในพื้นที่ลุ่มน้ำสำคัญของประเทศ
นอกจากนี้ ในวันที่ 6 มิถุนายน 2568 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมีกำหนดประชุมติดตามสถานการณ์จากศูนย์เฝ้าระวังคุณภาพสิ่งแวดล้อม ผ่านระบบ Video Conference เพื่อประเมินผลและกำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง. -512-สำนักข่าวไทย