สหรัฐ 11 ม.ค.-ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐ กล่าวสุนทรพจน์อำลาตำแหน่งครั้งสุดท้ายในฐานะประธานาธิบดีสหรัฐ ที่นครชิคาโก้ เรียกร้องให้ชาวอเมริกันร่วมกันปกป้องประชาธิปไตย และว่า 8 ปี ที่เขาบริหารประเทศ สหรัฐอเมริกาแข็งแกร่งขึ้นในทุกๆด้าน
ประธานาธิบดีผิวสีคนแรกของสหรัฐ วัย 55 ปี ผู้นี้ชนะเลือกตั้งด้วยสโกแลนหาเสียง สั้นๆ ง่ายๆ ว่า “ความหวัง” และ “การเปลี่ยนแปลง” โอบามาได้ย้ำให้เห็นถึงภัยเสี่ยงต่อระบอบประชาธิปไตยของประเทศ นั่นคือความไม่เท่าเทียมกันทางเศรษฐกิจ ความแตกแยกทางด้านเชื้อชาติและความแตกแยกทางการเมือง สุนทรพจน์ครั้งสุดท้ายของโอบามาเต็มไปด้วยถ้อยคำที่สร้างกำลังใจและความหวัง หลังประเทศต้องเผชิญกับความแตกแยกอย่างหนักในระหว่างการเลือกตั้งที่ผ่านมา ที่นำไปสู่ชัยชนะอย่างพลิกความคาดหมายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ แม้โอบามา จะไม่ได้เอ่ยถึงนายทรัมป์เลย แต่เขาพูดถึงนโยบายหลายเรื่องที่นายทรัมป์มีความเห็นสวนทางกับเขา โอบามาย้ำว่าปัญหาโลกร้อนคือเรื่องใหญ่ที่ต้องเร่งแก้ปัญหา และเขาได้รับเสียงปรบมืออย่างกึกก้อง เมื่อพูดว่าเขาไม่เห็นด้วยกับการต่อต้านชาวมุสลิมในสหรัฐ
โอบามากล่าวว่าเขาเริ่มต้นชีวิตที่นครชิคาโก้ด้วยการต่อสู้อย่างอดทนจนประสบความสำเร็จ เพราะสหรัฐให้โอกาสกับทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน ในวันที่หมดวาระการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ 2 สมัย โอบามามีคะแนนนิยม 57 % เท่ากับอดีตประธานาธิบดีบิล คลินตัน ในวันอำลาตำแหน่ง 2 สมัยเช่นกัน ความสำเร็จ ในยุคของโอบามา มีหลายเรื่องทั้งการพลิกฟื้นเศรษฐกิจและสร้างงาน แม้จะยังไม่ถึงขั้นดีมาก การเปิดความสัมพันธ์ทางการทูตกับคิวบา การทำข้อตกลงนิวเคลียร์ กับอิหร่าน การสังหารบินลาดิน หรือโครงการประกันสุขภาพถ้วนหน้า โอบามาแคร์
โอบามายังปาดน้ำตาเมื่อเขายกย่องนางมิเชล โอบามา ภริยาของเขาว่า 25 ปีที่ผ่านมา เธอไม่เพียงเป็นภรรยา เป็นแม่ที่น่ารักของลูกสาวทั้ง 2 คน และเป็นสตรีหมายเลข 1 ของสหรัฐ แต่เธอยังเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเขาด้วย เธอทำหน้าที่นี้ได้ดีมากแถมยังมีอารมณ์ขัน ด้านมาเลียบุตรสาวคนโตวัย 18 ปี ก็ปาดน้ำตาขณะนั่งเคียงข้างมารดาฟังบิดากล่าวขอบคุณเธอ และน้องสาว คือซาช่าวัย 15 ปี ที่ไม่ได้มาร่วมงานนี้ด้วย เพราะกำลังเตรียมตัวสอบอยู่ที่กรุงวอชิงตัน.-สำนักข่าวไทย