มะนิลา 12 ม.ค. – ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติฟิลิปปินส์เตือนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กำลังหลบหนีการจับกุมจากการมีส่วนพัวพันในคดีลักพาตัวเรียกค่าไถ่นักธุรกิจชาวเกาหลีใต้ว่า ให้ยอมมอบตัว มิฉะนั้นอาจต้องเสียชีวิต
ตำรวจฟิลิปปินส์เผยเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า เจ้าหน้าที่หน่วยปราบปรามยาเสพติด 1 นายตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าอาจมีส่วนพัวพันกับการหายตัวไปของนักธุรกิจชาวเกาหลีใต้เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว และว่าเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวถูกควบคุมตัวอยู่ภายในห้องขังคับแคบ และกำลังจะถูกฟ้องร้องดำเนินคดีทางอาญา แต่นายโรนัลด์ เดลา โรซา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติฟิลิปปินส์กล่าววันนี้ว่า ยังไม่มีการควบคุมตัวตำรวจที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีดังกล่าว โดยอธิบายว่า ก่อนหน้านี้ มีการแสดงความจำนงขอเข้ามอบตัวจริง แต่สุดท้ายก็หลบหนีหายลอยนวล อย่างไรก็ตาม เขาหวังว่า ผู้ต้องสงสัยรายนี้จะเปลี่ยนใจกลับมามอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ มิฉะนั้นอาจถึงขั้นต้องเสียชีวิต
คดีลักพาตัวนักธุรกิจชาวเกาหลีในครั้งนี้ตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของบรรดานักการเมืองและสื่อในฟิลิปปินส์ โดยระบุว่าเป็นตัวอย่างของการกระทำผิดที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมีส่วนเกี่ยวข้อง หลังได้รับความคุ้มครองจากการถูกดำเนินคดีทางกฎหมายภายใต้นโยบายปราบปรามยาเสพติดรุนแรงของประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต หนังสือพิมพ์ฟิลิปปินส์ เดลี อินไควเรอร์เผยแพร่บทบรรณาธิการระบุว่า ตำรวจใหม่ๆกล้าที่จะก่อเหตุลักพาตัวเรียกค่าไถ่ โดยอ้างว่าเป็นปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติด
ด้านภรรยาของนักธุรกิจชาวเกาหลีที่หายตัวไปกล่าวว่า คนร้ายลักพาตัวเรียกร้องให้เธอจ่ายค่าไถ่เพื่อแลกกับอิสรภาพของสามี โดยก่อนหน้านี้ เธอจ่ายค่าไถ่ไปแล้ว 5 ล้านเปโซ (กว่า 3.57 ล้านบาท) แต่คนร้ายต้องการอีก 4.5 ล้านเปโซ (กว่า 3.21 ล้านบาท).- สำนักข่าวไทย