เตหะราน 29 ม.ค.- นายจาวัด ซารีฟ รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านวิจารณ์คำสั่งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐที่ห้ามคนจาก 7 ประเทศมุสลิมเข้าสหรัฐว่า เท่ากับเป็นการให้ของขวัญชิ้นใหญ่แก่กลุ่มสุดโต่ง
นายชารีฟทวีตวิจารณ์ทรัมป์เป็นชุดในวันนี้ว่า การห้ามมุสลิมเข้าสหรัฐจะถูกบันทึกในหน้าประวัติศาสตร์ว่าเป็นการมอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้แก่กลุ่มสุดโต่งและพรรคพวก การเลือกปฏิบัติแบบเหวี่ยงแหจะถูกกลุ่มก่อการร้ายฉวยโอกาสนำไประดมคนเข้ากลุ่มมากขึ้น ส่วนเรื่องที่กระทรวงต่างประเทศอิหร่านแถลงก่อนหน้านี้ว่า จะตอบโต้สหรัฐด้วยการห้ามชาวอเมริกันเข้าอิหร่านนั้น นายชารีฟชี้แจงเพิ่มเติมว่า จะไม่รวมถึงชาวอเมริกันที่ได้รับการตรวจลงตราหนังสือเดินทางหรือวีซาเข้าอิหร่านที่ยังใช้งานได้ ด้านนายอาลี ลาริจานี ประธานสภาผู้แทนราษฎรอิหร่านกล่าวว่า มาตรการของทรัมป์เป็นเครื่องยืนยันถึงความคิดเหยียดผิวอย่างรุนแรงของสหรัฐ
กระทรวงต่างประเทศอิหร่านเตือนพลเมืองที่จะเดินทางไปสหรัฐตรวจสอบให้แน่ใจก่อนออกเดินทางว่าจะไม่มีปัญหา ขณะที่บริษัทนำเที่ยวในกรุงเตหะรานเผยว่า ได้รับแจ้งจากสายการบินต่างชาติว่าไม่ให้จำหน่ายตั๋วโดยสารเดินทางไปสหรัฐ และสายการบินจะไม่อนุญาตให้ชาวอิหร่านที่มีวีซาอเมริกันโดยสารเครื่องบินไปสหรัฐ หลังจากทรัมป์ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารเมื่อวันศุกร์ห้ามพลเรือน 7 ประเทศมุสลิมเข้าสหรัฐอย่างน้อย 90 วัน ประกอบด้วย อิหร่าน อิรัก ลิเบีย โซมาเลีย ซูดาน ซีเรียและเยเมน.-สำนักข่าวไทย