เม็กซิโก ซิตี้ 9 มี.ค.- ประชาชาหลานหมื่นคนในหลายประเทศทั่วโลก เมินข้อกำหนดเรื่องการป้องกันการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พากันไปรวมตัวกันเพื่อรำลึกถึงวันสตรีสากล เพื่อประณามการกระทำรุนแรงทางเพศและความไม่เท่าเทียมกันระหว่างหญิงกับชาย
บรรดาสตรีจำนวนมากร่วมกันเดินขบวนตามท้องถนนอย่างสันติและเป็นประชาธิปใตย รวมทั้งในประเทศที่มีปัญหาความขัดแย้ง แต่การจัดงานวันสตรีสากลในปีนี้จะมีจำนวนผู้เข้าร่วมน้อยกว่าเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเป็นช่วงก่อนที่การระบาดของโควิด-19 จตะรุนแรงไปทั่วโลก ที่กรุงเม็กซิโก ซิตี้ ของเม็กซิโก ประชาชนหลายนพันคนร่วมกันเดินขบวนพร้อมกับนำภาพและชื่อของผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นอาชญากรทางเพศ ฆาตกรและผู้ที่ล่วงละเมิดต่อสตรี ส่วนที่กรุงบัวโนสไอเรส ของอาร์เจนตินา ประชาชนก็ร่วมกันเดินขบวน โดยอาร์เจนตินา เป็นประเทศที่มีเหตุสตรีถูกทำร้ายร่างกายจากคนรักหรือคนใกล้ชิดที่บางครั้งรุนแรงจนเสียชีวิต ซี่งในปีนี้สถิติอยู่ที่เสียชีวิตวันละ 1 คน ที่ฮอนดูรัส นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิสตรีกว่า 100 คน สวมหน้ากากอนามัยสีม่วง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์การต่อสู้ของสตรี รวมตัวกันกันที่ด้านนอกสำนักงานอัยการเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้แก่ คีย์ลา มาร์ติเนส พยาบาลวัย 26 ปี ที่เสียชีวิตในระหว่างถูกตำรวจควบคุมตัว ทางด้านฝรั่งเศส ก็มีการชุมนุมกันตามเมืองใหญ่ ๆ ที่ตุรกี สตรีชาวมุสลิมอุยกูร์ หลายร้อนคนประท้วงใกล้สถานกงศุลจีนในนครอิสตันบ๔ล เรียกร้องให้ปิดค่ายควบคุมชาวมุสลิมอุยกูร์ในมณฑลซินเจียง นอกจากนั้น ยังมีการชุมนุมเรียกร้องสิทธิสตรีตามเมืองต่าง ๆ เช่น กรุงเคียฟ ของยูเครน กรุงมาดริด ของสเปน นครบาร์เซโลนา ของสเปน ในขณะเดียวกัน สตรีที่ทรงอิทธิพลที่สุดของโลก 3 คน ได้แก่ รองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส ของสหรัฐ นายกรัฐมนตรีจาซินดา อาร์เดิร์น และนางเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป กล่าวต่อรัฐสภายุโรปว่า ผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจและการเมืองจากการระบาดของโควิด ถือเป็นปัญหาท้าทายของสตรีทั่วโลก.-สำนักข่าวไทย