อาเซอร์ไบจานจัดงานใหญ่…สิ่งท้าทายใหม่ที่สำนักข่าวทั่วโลกต้องรับมือ

อาเซอร์ไบจาน 23 พ.ย.- อาเซอร์ไบจานเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมใหญ่ของสำนักข่าวจากทั่วโลก ผู้บริหารและผู้แทนจากสำนักข่าวจาก 80 ประเทศ รวมถึงผู้แทนจากสำนักข่าวไทย อสมท เข้าร่วม เป็นอีกวาระหนึ่งที่อาเซอร์ไบจานได้แสดงบทบาทสำคัญบนเวทีโลก ขณะที่สำนักข่าวต่างๆ ได้ร่วมกันหาแนวทางรับมือกับการทำหน้าที่สื่อในสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ติดตามจากรายงานพิเศษจากกองบรรณาธิการข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวไทย


23

ได้ยินชื่อมานาน เพิ่งมีโอกาสเดินทางไปอาเซอร์ไบจาน (Azerbaijan) เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเพื่อร่วม 2 การประชุมนัดสำคัญ คือ 1. การประชุมใหญ่สำนักข่าวโลก ครั้งที่ 5 (5th News Agencies World Congress) ระหว่าง 16-17 พ.ย.2559 และ 2.การประชุมใหญ่ ครั้งที่ 16 ขององค์การสำนักข่าวแห่งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (โออานา) – the 16th General Assembly of the Organization of Asia-Pacific News Agencies (OANA) ในวันที่ 18 พ.ย. 2559 ต่อเนื่องกัน รวม 3 วันเต็ม


การประชุมทั้งสองนัด สำนักข่าวแห่งชาติอาเซอร์ไบจาน คือ AZERTAC ด้วยการสนับสนุนด้านงบประมาณจากมูลนิธิ Heydar Aliyev เป็นเจ้าภาพจัดขึ้นที่กรุงบากู (Baku) เมืองหลวงของอาเซอร์ไบจาน ในโอกาสนี้ สำนักข่าวไทย (Thai News Agency : TNA) ซึ่งมีสถานะเป็น news agency และเป็นสมาชิก OANA ได้รับเชิญจากเจ้าภาพให้เข้าร่วมทั้งสองการประชุม เช่นเดียวกับสำนักข่าวจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีก 3 แห่งที่ส่งผู้บริหารและผู้แทนเข้าร่วมคือ สำนักข่าว ANTARA ของอินโดนีเซีย สำนักข่าว BERNAMA ของมาเลเซีย และสำนักข่าว VNA ของเวียดนาม

15

“New Challenges for News Agencies’ (สิ่งท้าทายใหม่สำหรับสำนักข่าว) เป็นสโลแกนของการการประชุมใหญ่สำนักข่าวโลกครั้งที่ 5 และเป็นโจทย์สำหรับผู้นำสำนักข่าวกว่า 100 แห่ง เกือบ 200 คน 80 ประเทศ จากภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก ได้แลกเปลี่ยนและหาทางรับมือร่วมกัน


สถานที่จัดประชุมโออ่า ทันสมัย แต่การประชุมเปิดฉากอย่างเรียบง่าย ตรงเวลาแทบไม่ทันได้ตั้งตัว ไม่มีพิธีรีตอง ไม่มีพิธีกรออกมาสวัสดีแนะนำตัวหรือ เชิญใครกล่าวรายงานให้เสียเวลา ได้ยินเพียงเสียงประกาศดังๆ จากหลังฉากสั้นๆ ห้วนๆ แต่หนักแน่นสะกดผู้ฟังให้เงียบได้อย่างฉับพลันว่า.. Ladies and Gentlemen, the President of the Democratic Republic of Azerbaijan ..จากนั้นประธานก็ปรากฏตัว แล้วเดินตรงสู่โพเดียมโล้นๆ หน้าเวทีที่ไม่มีดอกไม้ประดับหรือวางให้บังหน้า

22

ประธานาธิบดี อิลฮัม อาลีเยฟ (Ilham Aliyev) แห่งอาเซอร์ไบจาน กล่าวสุนทรพจน์เปิดงานด้วยภาษาอังกฤษที่ลื่นไหลไม่ติดขัด เป็น speech ที่ยาว แต่ไม่ทำให้ผู้ฟังรู้สึกอึดอัด เพราะเนื้อหาน่าสนใจ อธิบายภาพรวมแทบทุกด้านของอาเซอร์ไบจานด้วยน้ำเสียงและบุคลิกที่เป็นธรรมชาติและมาดมั่นของผู้นำที่กุมอำนาจบริหารประเทศมานาน 13 ปี ใครที่ไม่เคยมีข้อมูลเกี่ยวกับบากู ก็ได้รู้จักอาเซอร์ไบจานได้เป็นอย่างดีภายในเวลา 45 นาทีที่ได้ฟังประธานาธิบดีอิลฮัมกล่าวสุนทรพจน์ อย่างน้อยก็ได้รู้ว่า 25 ปีที่เป็นอิสระจากสหภาพโซเวียต อาเซอร์ไบจานเปลี่ยนแปลงและพัฒนาไปอย่างไรบ้าง แตกต่างจาก 70 ปีก่อนหน้านั้นในด้านใด

ผู้นำวัย 55 ปี กล่าวบนเวทีด้วยความภาคภูมิใจใน 25 ปีที่อาเซอร์ไบจานประสบความสำเร็จในการสร้างประเทศให้ก้าวหน้าทันสมัย สามารถหาที่ยืนของตนเองได้ในแผนที่โลก จนกลายเป็นประเทศที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล เคยได้รับเลือกเป็นสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ และมีอีกอีกหลายบทบาทสำคัญบนเวทีโลก

1311

ในด้านเศรษฐกิจ ก่อนที่เคยพึ่งพานานาชาติ แต่อาเซอร์ไบจานในปัจจุบันเป็นประเทศที่สามารถยืนหยัดด้วยตนเอง เพราะมีสภาวะเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง หลากหลายขยายตัว ถูกจัดให้เป็นประเทศที่มีขีดความสามารถในการแข่งขันด้านเศรษฐกิจสูงในระดับต้นๆ เป็นที่สนใจของนักลงทุน โดยเฉพาะในโครงการพัฒนาด้านพลังงานเนื่องจากอาเซอร์ไบจานมีน้ำมันและสมบูรณ์ด้วยแหล่งทรัพยากร โดยเฉพาะก๊าซธรรมชาติ

ด้านสังคม นายอิลฮัม อาลีเยฟ กล่าวว่า นอกจากการพัฒนาด้านการศึกษา อาเซอร์ไบจานให้ความสำคัญกับการคุ้มครองทางด้านสวัสดิการและสังคมแก่ประชากรที่มีความหลากหลายด้านเชื้อชาติ (multi-ethnic) ให้สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างทัดเทียมและเป็นธรรม

1918

ทางด้านสื่อ อาจมีผู้ตั้งคำถามว่า อาเซอร์ไบจานถือดียังไงมาเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสำนักข่าวระดับโลก แถมสำนักข่าวแห่งชาติอาเซอร์ไบจานคือ AZERTAC ยังได้รับเลือกให้ทำหน้าที่ประธาน OANA เป็นระยะเวลา 4 ปี คือ ค.ศ. 2016 – 2019 ต่อจากสำนักข่าว Tass ของรัสเซียอีกด้วย

ประธานาธิบดีอาเซอร์ไบจาน คุยว่า 25 ปีที่ครองตนเป็นประเทศอิสระในสถานภาพ “สาธารณรัฐประชาธิปไตย” (The Democratic Republic) อาเซอร์ไบจานให้ความสำคัญกับการพัฒนาสื่อที่เป็นอิสระ (independent media) ให้ความสำคัญกับเสรีภาพของสื่อเช่นเดียวกันกับเสรีภาพพื้นฐานอื่นๆ (other fundamental freedoms) ของสังคม ยืนยันได้จากปัจจุบันที่อาเซอร์ไบจานมีหนังสือพิมพ์รายวันเกือบ 40 ฉบับ รายสัปดาห์และรายเดือนมากกว่า 200 สถานีโทรทัศน์ดาวเทียม 1 ช่อง สถานีภูมิภาค 13 ช่อง และเคเบิลทีวี 70 ช่อง อาเซอร์ไบจานเป็นประเทศที่ให้บริการอินเทอร์เน็ตฟรีแก่ประชาชน โดยกว่าร้อยละ 75 ของประชากรที่อยู่ประมาณเกือบ 10 ล้านคน เป็นผู้ใช้อินเทอร์เน็ต ในจำนวนนั้น มีอยู่ประมาณ 2 ล้านคนที่ใช้ social media ด้วยองค์ประกอบข้างต้น ฟังดูก็พอเป็นเหตุเป็นผลจนทำให้ได้รับความไว้วางใจจัดงานใหญ่เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมองค์กรสื่อระดับโลก

16

การรวมตัวกันของผู้นำสำนักข่าวจากทั่วโลกในการประชุม the 15th News Agencies World Congress ครั้งนี้ มีการพูดถึงอนาคตของการบริโภคข่าวสาร ความท้าทายและโอกาสของเทคโนโลยีใหม่ และ Social media นวัตกรรมสำนักข่าว การฝึกอบรมบุคลากรข่าวเพื่อให้พร้อมสำหรับอนาคตแห่งการเป็น Multi- media การปกป้องการทำหน้าที่ของคนทำข่าวทั้งในเรื่องของเสรีภาพ การเข้าถึงข้อมูล และความปลอดภัยในการรายงานข่าวในพื้นที่เสี่ยงอันตราย

อนาคตสำนักข่าวจะเป็นอย่างไร จะทำอย่างไรเพื่อให้สำนักข่าวอยู่รอดได้ ยังเป็นประเด็นคำถามที่พยายามหาคำตอบร่วมกัน เท่าที่นั่งฟัง speakers บนเวทีที่มีมาจากหลายสำนักข่าวและผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในงานที่เกี่ยวข้องกับสื่อ พอสรุปได้ว่า เพื่อความอยู่รอดได้ในอนาคต สำนักข่าวต่างๆ จะต้อง “diversify” หรือทำอะไรให้มีความแตกต่างหลากหลาย ไม่ย่ำอยู่กับที่ และจะต้อง “innovate” หรือ “create” อะไรใหม่ๆ เพื่อขาย ‘นวัตกรรม’ สำนักข่าวก็เหมือนสื่อแขนงอื่นๆ ที่ต้องชัดว่าตลาดอยู่ตรงไหน ต้องทำให้ได้ดังสำนวน “One needs to fish where the fish are” – จะตกปลาก็ต้องหาแหล่งที่มีปลาอยู่! ยิ่งถ้าอยากได้กลุ่มผู้บริโภคข่าวที่เอาใจยากอย่าง Generation ใหม่ สายพันธุ์ Millennial ยิ่งต้องปรับขยับกลยุทธ์ใหม่

ความเห็นหลากหลายบนเวที จับความได้ว่า เดี๋ยวนี้ใครๆ ก็เป็นนักข่าวและเผยแพร่ข่าวเองได้ เพราะฉะนั้น สำนักข่าวต้องไล่ตามให้ทัน “trend” ที่มีแนวโน้มชัดเจนเป็นกันทั่วโลกว่าผู้บริโภคหันหลังให้กับข่าวที่เป็น Text ที่มีไว้อ่าน หันมานิยมข่าวสารที่เป็นภาพ (visual imagery) อีกทั้งยังเลือกความสะดวกที่จะรับข่าวเข้าทางโทรศัพท์เคลื่อนที่ซึ่งมีกันแทบทุกคน เพื่อให้ได้ผล เนื้อหาข่าวก็ต้องปรับให้รับกับเครื่องมือที่ใช้สื่อสาร และปัจจุบันข่าวที่ผู้บริโภคนิยมเสพกันมักจะต้อง “short and sweet” หรือ “สั้น ไว ได้ใจความ” โดยภาพรวมก็คือ การนำเสนอข่าวหรือการเล่าเรื่องของสื่อ (Storytelling) จะต้องปรับทั้งด้านเนื้อหาและรูปแบบเพื่อให้เข้าถึงและตรึงผู้บริโภคข่าวได้ และควรต้องใช้หลักการสื่อสารสองทาง (two –way communication) เพื่อเพิ่มฐานผู้บริโภค

1221

ในด้านนวัตกรรมใหม่ ในกรณีของข่าวภาพ ข่าวที่เป็นคลิป หรือข่าวโทรทัศน์ มีการนำเสนอการใช้เทคนิคใหม่ๆ ด้านภาพข่าวมาใช้ในการนำเสนอ ซึ่งมีปัจจุบันทำกันได้ง่าย ไม่ต้องใช้เทคนิคที่ซับซ้อนก็ทำได้ ผู้แทนจากบางสำนักข่าวนำเสนอตัวอย่างความสำเร็จในการแสวงหาความร่วมมือจากกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีไอเดียล้ำๆ ไม่ว่าจะกลุ่มเยาวชน นักศึกษา ทั้งในระดับบุคคล หรือสถาบันศึกษา หรือไม่ก็กลุ่ม startups ที่กำลังเริ่มต้นธุรกิจมาร่วมคิดผลิตงานใหม่ๆ ให้กับงานข่าวเพื่อเจาะให้เข้าถึงคนรุ่นใหม่ อีกหนึ่งตัวอย่างที่น่าสนใจในประเด็นนวัตกรรมใหม่ของข่าว คือกรณีของญี่ปุ่น ซึ่งผู้แทนจากสำนักข่าว Kyodo News หยิบบกตัวอย่างการนำเอา AI (Artificial Intelligence) news presenter หรือผู้ประกาศข่าวปัญญาประดิษฐ์มาอ่านข่าวแทนคนเป็นๆ ซึ่งเริ่มมีให้เห็นแล้วที่ญี่ปุ่น
ในด้านการดำเนินกิจการของสำนักข่าว มีข้อเสนอร่วมกันว่า สำนักข่าวในปัจจุบันและในวันข้างหน้าจำเป็นต้องหารายได้จากหลายแหล่ง จึงจำเป็นพัฒนาสร้างสรรผลิตภันฑ์ข่าวให้ได้หลากหลาย formats

นอกจากเรื่องการความอยู่รอดด้านธุรกิจ (กรณีสำนักข่าวเอกชนหรือรัฐวิสาหกิจที่ไม่ได้พึ่งงบประมาณจากรัฐบาล) แล้ว เวทีการประชุมใหญ่สำนักข่าวโลกครั้งนี้ ยังให้ความสำคัญกับเรื่องการฝึกอบรมบุคลากรข่าวเพื่อให้พร้อมสำหรับอนาคตแห่งการเป็น Multi- media เรื่องอื่นๆ ต่างๆ ที่เป็นพื้นฐานหลักการของวิชาชีพสื่อมวลชน อาทิ การปกป้องการทำหน้าที่ของคนทำข่าวทั้งในเรื่องของเสรีภาพ บนพื้นฐานการรายงานข่าวที่เป็นกลาง ไม่มีอคติ การเข้าถึงแหล่งข่าวหรือข้อมูล และความปลอดภัยในการรายงานข่าวในพื้นที่เสี่ยงอันตราย ตัวอย่างที่ชัดเจนคือพื้นที่ที่มีความขัดแย้งและสู้รบ (war zone) ซึ่งตัวเลขโดยรวมทั่วโลกในระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา พบว่ามีคนทำข่าวเสียชีวิตในพื้นที่เสี่ยงภัยอย่างน้อย 827 คน

ที่ประชุม 5th News Agencies World Congress ได้ข้อสรุปร่วมกันว่า สิ่งที่ท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับสำนักข่าวทั่วโลกในปัจจุบัน คือ จะทำอย่างไรให้สำนักข่าวไปได้รอดในด้านการเงิน โดยเฉพาะสำนักข่าวที่ไม่ได้มีสถานภาพเป็นสำนักข่าวแห่งชาติที่มีงบประมาณจากรัฐบาลโอบอุ้ม จะทำอย่างไรเพื่อปกป้องและรักษามาตรฐานการรายงานข่าวที่เป็นอิสระ ไม่มีอคติ บนพื้นฐานหลักการเสรีภาพแห่งการพูดหรือแสดงออก (Freedom of speech) ที่สื่อต้องปรับตัวอย่างสูงในยุคดิจิทัล (Digital Era)

20

ขณะเดียวกัน ในช่วงท้าย มีการอ่านสารของนาย บีน คี-มูน เลขาธิการสหประชาชาติที่ส่งมาให้ที่ประชุม แสดงความยินดี มีใจความตอนหนึ่งที่ย้ำความสำคัญของเสรีภาพของการแสดงออก เสรีภาพสื่อที่มีต่อโรดแมปโลก และชี้ว่าสำนักข่าวมีบทบาทสำคัญในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่มีคุณภาพและทันต่อเวลาและสามารถผลักดันให้การเกิดการเปลี่ยนในทางบวก

การประชุม 5th News Agencies World Congress ซึ่งมีผู้บริหารและผู้แทนสำนักข่าวเข้าร่วมประชุมจำนวนมากจากกว่า 80 ประเทศ เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของอาเซอร์ไบจาน ประเทศที่ให้ความสำคัญกับความพยายามในการผลักดันตัวเองให้มีที่ยืนบนเวทีโลกในหลายๆ ด้าน.

“นรพล ผาเจริญ” กอง บก.ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวไทย อสมท

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และพื้นที่มอมเบ เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

“โอปอล สุชาตา” คว้ามงกุฎ Miss World 2025

อินเดีย 1 มิ.ย.-“โอปอล สุชาตา” สาวงามตัวแทนจากไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎ Miss World 2025 มาครองได้สำเร็จ เวทีการประกวด Miss World 2025 ครั้งที่ 72 ณ HITEX Convention Center เมืองไฮเดอราบัด รัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย โดย “โอปอล สุชาตา ช่วงศรี” สาวงามตัวแทนจากประเทศไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎมิสเวิลด์มาครองได้สำเร็จ โดยการประกวดในปีนี้มีนางงามจาก 108 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วม ทั้งนี้ในรอบ 8 คนสุดท้าย มีนางงามที่ผ่านเข้ารอบได้แก่ บราซิล มาร์ตินีก เอธิโอเปีย นามิเบีย โปแลนด์ ยูเครน ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย ซึ่งจนกระทั่ง รอบ 4 คนสุดสุดท้าย มาร์ตีนิก เอธิโอเปีย และ โปแลนด์ ทั้ง 4 […]

ข่าวแนะนำ

ชาวบ้านให้กำลังใจทหาร เชื่อพื้นที่อ้างสิทธิเป็นของไทย

อุบลราชธานี 3 มิ.ย.- ชาวบ้านแปดอุ้ม ยอมรับกังวลสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมให้กำลังใจทหารทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตย นางดำ วัย 66 ปี ชาวบ้านแปดอุ้ม ตำบลโดมประดิษฐ์ อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ยอมรับตอนนี้ครอบครัวอยู่อย่างกังวลกับสถานการณ์ แต่ยังอุ่นใจที่ทหารเข้ามาในพื้นที่ปกป้องรักษาอธิปไตยไทย พร้อมเล่าอีกว่าเมื่อก่อนเคยขึ้นไปด้านบน เห็นคูเลตของกัมพูชาขยับเข้ามาเรื่อยๆ ทั้งที่แนวเขตแบ่งตามแนวสันปันน้ำไทย-กัมพูชา ส่วนจุดปะทะล่าสุดยืนยันว่าเป็นของไทย ชาวบ้านรู้กันตั้งแต่บรรพบุรุษรุ่นทวดทำเกษตรทำไร่บริเวณนั้น ตนเองก็เคยขึ้นไปทำไร่กันสนุกสนานในพื้นที่นั้นจนถึงเนิน 500 นางดำ ยังเล่าต่อไปว่า เดิมทีหมู่บ้านแปดอุ้ม ไม่ได้อยู่ด้านล่าง แต่อยู่บนเขา ใกล้จุดปะทะ แต่ในปี 2520 คอมมิวนิสต์เวียดนามและเขมรแดงเป็นพันธมิตรกันสู้รบกับรัฐบาลกัมพูชา ทางเขมรแดงได้เข้ามาต้อนชาวบ้านแปดอุ้มไปเป็นทหาร ส่วนบ้านแปดอุ้มปัจจุบันเป็นหมู่บ้านที่ทางการไทยจัดสรรให้ชาวบ้านใหม่ในปี 2522 โดยให้ชาวบ้านที่อยู่ด้านบนลงมาอยู่ด้านล่าง ด้านนายทอน อายุ 86 ปี ชาวบ้านแปดอุ้มอีกคน บอกว่า ติดตามข่าวสารทางทหาร ทราบข่าวลือของแม่ทัพภาคที่ 2 จึงอยากให้กำลังใจทหาร ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ปกปักรักษาลูกหลานทหารไทย .-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” ​ชี้​ต้องยึดสันติวิธี ปมไทย-กัมพูชา

สนามหลวง 3 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” ​ชี้​ปมไทย-กัมพูชา ต้องยึดสันติวิธี หลีกเลี่ยงความรุนแรง​ คำนึงถึงชีวิต-​ความสูญเสีย ขณะที่ทหารพร้อมยึดมั่นรักษาอธิปไตย ส่วนกัมพูชาเตรียมนำเรื่องขึ้นศาลโลก ให้เป็นเรื่องของการเจรจา ย้ำ​ใช้สงคราม​เป็นมาตรการสุด​ท้าย นายภูมิธรรม​ เวชยชัย​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม​ กล่าวถึง จุดยืนของไทยต่อสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา ว่า​ ตนได้บอกไปหลายครั้งแล้ว คือยึดมั่นแนวทางแก้ไขแบบสันติวิธี พยายามหลีกเลี่ยงความรุนแรง และยึดมั่นในการรักษาอธิปไตย และผลประโยชน์ของประชาชน ที่ผ่านมาเราได้พยายามแสดงจุดยืนเหล่านี้ และพยายามหาช่องทางในการเจรจา เพื่อหาทางยุติได้อย่างสงบ ขณะเดียวกันเราก็ไม่ประมาท มีการประสานงานกันอย่างทั่วถึงตลอดเวลากับทางกองทัพ กองทัพภาค ผู้บัญชาการทหารบก​ กระทรวงกลาโหม และกระทรวงการต่างประเทศ สิ่งที่เราทำขณะนี้ในแง่ของกองทัพ เราเตรียมความพร้อม เพื่อรักษาอธิปไตยของประเทศ เท่าที่ตรวจดูในรายละเอียดต่างๆ มีการวางกำลังที่สามารถปกป้องอธิปไตยของประเทศได้โดยมั่นใจ และกองทัพก็ได้มีการเตรียมการอย่างเหมาะสม ไม่มีความบกพร่อง ส่วนเรื่องของการเจรจา​ นายภูมิธรรม​ ยืนยันว่า​ เราได้มีการพูดคุยกันมาตลอด ทั้งกระทรวงกลาโหม​ กองทัพ​ และกระทรวงการต่างประเทศ ว่าสิ่งที่เราอยากจะแก้ไขปัญหา ต้องคุยกันภายในให้เป็นเอกภาพ เมื่อวานนี้ก็ได้มีการพูดคุยกันตลอดทั้งวัน “สิ่งที่สำคัญก็คือ เราจะใช้มาตรการในการใช้ความรุนแรง หรือสงคราม จะเป็นมาตรการสุดท้าย […]

South Korea's presidential election voting place

เกาหลีใต้เลือกตั้ง ปธน.หลังการเมืองวุ่นหลายเดือน

โซล 3 มิ.ย.- ชาวเกาหลีใต้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันนี้ หลังจากการเมืองตกอยู่ในความวุ่นวาย นับตั้งแต่อดีตประธานาธิบดีประกาศใช้กฎอัยการศึกเมื่อเดือนธันวาคมปีก่อน ผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้ง 44.39 ล้านคน ในเกาหลีใต้เริ่มออกไปใช้สิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีตามหน่วยเลือกตั้งต่าง ๆ ทั่วประเทศในวันนี้ ที่เปิดให้ลงคะแนนตั้งแต่เวลา 06.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น เร็วกว่าไทย 2 ชั่วโมง ขณะที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติของเกาหลีใต้ส่งกำลังตำรวจทั้งหมด 28,590 นายไปประจำการตามคูหาเลือกตั้งทั้ง 14,295 แห่งทั่วประเทศเพื่อดูแลความสงบเรียบร้อย การลงคะแนนจะเสร็จสิ้นในเวลา 20.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น คาดว่าจะทราบผลเลือกตั้งได้ภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังปิดหีบ โดยเมื่อวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ที่แล้ว มีการจัดให้ลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า มีผู้ออกไปใช้สิทธิลงคะแนนมากกว่า 15 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 34.74 สูงที่สุดเป็นอันดับ 2 นับตั้งแต่เริ่มให้มีการเลือกตั้งล่วงหน้าได้ตั้งแต่ปี 2557 การเลือกตั้งประธานาธิบดีเกาหลีใต้ต้องจัดขึ้นก่อนกำหนดเดิมที่จะมีขึ้นในวันที่ 3 มีนาคม 2570 หลังเกิดความวุ่นวายทางการเมืองนานหลายเดือน จากการที่นายยุน ซ็อก ยอล อดีตประธานาธิบดี ประกาศใช้กฎอัยการศึกเป็นเวลาสั้นๆ เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ทำให้เขาถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งในเวลาต่อมา หลายฝ่ายมองว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการลงประชามติต่อการกระทำของนายยุน มากกว่าการชูนโยบายแข่งขันกันของผู้สมัครชิงตำแหน่ง […]

สิ้นพระเอกดัง “ไพโรจน์ สังวริบุตร” จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี

3 มิ.ย.- วงการบันเทิงเศร้า… สิ้นพระเอกดัง “เอ๋” ไพโรจน์ สังวริบุตร นักแสดง-ผู้กำกับในตำนาน จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี แฟนคลับร่วมแสดงความอาลัย ข่าวเศร้าช็อกวงการบันเทิง เอ๋-ไพโรจน์ สังวริบุตร เสียชีวิตอย่างสงบ เมื่อเวลา 03.00 น. (3 มิ.ย.68) ที่จังหวัดนครราชสีมา สิริอายุได้ 72 ปี กำหนดสวดพระอภิธรรม ณ วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร สำหรับพิธีรดน้ำศพ จะมีขึ้นในวันที่ 4 มิถุนายน 2568 โดยข้อมูลจากเพจดาราภาพยนตร์ เผยการจากไปของพระเอกรุ่นใหญ่ สร้างความโศกเศร้าให้กับวงการบันเทิงไทยอย่างมาก หากเอ่ยถึงชื่อ “ไพโรจน์ สังวริบุตร” คนไทยหลายรุ่นคงต้องนึกถึงชายหนุ่มร่างโปร่ง ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม และแววตาทะเล้นที่ปรากฏอยู่บนจอเงินในบท “ตั้ม” จากภาพยนตร์ วัยอลวน อันโด่งดังในยุค 2510–2520 เขาคือพระเอกผู้ก้าวข้ามกาลเวลา จากภาพลักษณ์ของวัยรุ่นสุดแนวในวันนั้น สู่ผู้กำกับภาพยนตร์มากฝีมือในวันนี้ และยังคงยืนหยัดเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์ไทย “ไพโรจน์ สังวริบุตร” เกิดเมื่อวันที่ 18 […]