อาเซอร์ไบจานจัดงานใหญ่…สิ่งท้าทายใหม่ที่สำนักข่าวทั่วโลกต้องรับมือ

อาเซอร์ไบจาน 23 พ.ย.- อาเซอร์ไบจานเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมใหญ่ของสำนักข่าวจากทั่วโลก ผู้บริหารและผู้แทนจากสำนักข่าวจาก 80 ประเทศ รวมถึงผู้แทนจากสำนักข่าวไทย อสมท เข้าร่วม เป็นอีกวาระหนึ่งที่อาเซอร์ไบจานได้แสดงบทบาทสำคัญบนเวทีโลก ขณะที่สำนักข่าวต่างๆ ได้ร่วมกันหาแนวทางรับมือกับการทำหน้าที่สื่อในสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ติดตามจากรายงานพิเศษจากกองบรรณาธิการข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวไทย


23

ได้ยินชื่อมานาน เพิ่งมีโอกาสเดินทางไปอาเซอร์ไบจาน (Azerbaijan) เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเพื่อร่วม 2 การประชุมนัดสำคัญ คือ 1. การประชุมใหญ่สำนักข่าวโลก ครั้งที่ 5 (5th News Agencies World Congress) ระหว่าง 16-17 พ.ย.2559 และ 2.การประชุมใหญ่ ครั้งที่ 16 ขององค์การสำนักข่าวแห่งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (โออานา) – the 16th General Assembly of the Organization of Asia-Pacific News Agencies (OANA) ในวันที่ 18 พ.ย. 2559 ต่อเนื่องกัน รวม 3 วันเต็ม


การประชุมทั้งสองนัด สำนักข่าวแห่งชาติอาเซอร์ไบจาน คือ AZERTAC ด้วยการสนับสนุนด้านงบประมาณจากมูลนิธิ Heydar Aliyev เป็นเจ้าภาพจัดขึ้นที่กรุงบากู (Baku) เมืองหลวงของอาเซอร์ไบจาน ในโอกาสนี้ สำนักข่าวไทย (Thai News Agency : TNA) ซึ่งมีสถานะเป็น news agency และเป็นสมาชิก OANA ได้รับเชิญจากเจ้าภาพให้เข้าร่วมทั้งสองการประชุม เช่นเดียวกับสำนักข่าวจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีก 3 แห่งที่ส่งผู้บริหารและผู้แทนเข้าร่วมคือ สำนักข่าว ANTARA ของอินโดนีเซีย สำนักข่าว BERNAMA ของมาเลเซีย และสำนักข่าว VNA ของเวียดนาม

15

“New Challenges for News Agencies’ (สิ่งท้าทายใหม่สำหรับสำนักข่าว) เป็นสโลแกนของการการประชุมใหญ่สำนักข่าวโลกครั้งที่ 5 และเป็นโจทย์สำหรับผู้นำสำนักข่าวกว่า 100 แห่ง เกือบ 200 คน 80 ประเทศ จากภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก ได้แลกเปลี่ยนและหาทางรับมือร่วมกัน


สถานที่จัดประชุมโออ่า ทันสมัย แต่การประชุมเปิดฉากอย่างเรียบง่าย ตรงเวลาแทบไม่ทันได้ตั้งตัว ไม่มีพิธีรีตอง ไม่มีพิธีกรออกมาสวัสดีแนะนำตัวหรือ เชิญใครกล่าวรายงานให้เสียเวลา ได้ยินเพียงเสียงประกาศดังๆ จากหลังฉากสั้นๆ ห้วนๆ แต่หนักแน่นสะกดผู้ฟังให้เงียบได้อย่างฉับพลันว่า.. Ladies and Gentlemen, the President of the Democratic Republic of Azerbaijan ..จากนั้นประธานก็ปรากฏตัว แล้วเดินตรงสู่โพเดียมโล้นๆ หน้าเวทีที่ไม่มีดอกไม้ประดับหรือวางให้บังหน้า

22

ประธานาธิบดี อิลฮัม อาลีเยฟ (Ilham Aliyev) แห่งอาเซอร์ไบจาน กล่าวสุนทรพจน์เปิดงานด้วยภาษาอังกฤษที่ลื่นไหลไม่ติดขัด เป็น speech ที่ยาว แต่ไม่ทำให้ผู้ฟังรู้สึกอึดอัด เพราะเนื้อหาน่าสนใจ อธิบายภาพรวมแทบทุกด้านของอาเซอร์ไบจานด้วยน้ำเสียงและบุคลิกที่เป็นธรรมชาติและมาดมั่นของผู้นำที่กุมอำนาจบริหารประเทศมานาน 13 ปี ใครที่ไม่เคยมีข้อมูลเกี่ยวกับบากู ก็ได้รู้จักอาเซอร์ไบจานได้เป็นอย่างดีภายในเวลา 45 นาทีที่ได้ฟังประธานาธิบดีอิลฮัมกล่าวสุนทรพจน์ อย่างน้อยก็ได้รู้ว่า 25 ปีที่เป็นอิสระจากสหภาพโซเวียต อาเซอร์ไบจานเปลี่ยนแปลงและพัฒนาไปอย่างไรบ้าง แตกต่างจาก 70 ปีก่อนหน้านั้นในด้านใด

ผู้นำวัย 55 ปี กล่าวบนเวทีด้วยความภาคภูมิใจใน 25 ปีที่อาเซอร์ไบจานประสบความสำเร็จในการสร้างประเทศให้ก้าวหน้าทันสมัย สามารถหาที่ยืนของตนเองได้ในแผนที่โลก จนกลายเป็นประเทศที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล เคยได้รับเลือกเป็นสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ และมีอีกอีกหลายบทบาทสำคัญบนเวทีโลก

1311

ในด้านเศรษฐกิจ ก่อนที่เคยพึ่งพานานาชาติ แต่อาเซอร์ไบจานในปัจจุบันเป็นประเทศที่สามารถยืนหยัดด้วยตนเอง เพราะมีสภาวะเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง หลากหลายขยายตัว ถูกจัดให้เป็นประเทศที่มีขีดความสามารถในการแข่งขันด้านเศรษฐกิจสูงในระดับต้นๆ เป็นที่สนใจของนักลงทุน โดยเฉพาะในโครงการพัฒนาด้านพลังงานเนื่องจากอาเซอร์ไบจานมีน้ำมันและสมบูรณ์ด้วยแหล่งทรัพยากร โดยเฉพาะก๊าซธรรมชาติ

ด้านสังคม นายอิลฮัม อาลีเยฟ กล่าวว่า นอกจากการพัฒนาด้านการศึกษา อาเซอร์ไบจานให้ความสำคัญกับการคุ้มครองทางด้านสวัสดิการและสังคมแก่ประชากรที่มีความหลากหลายด้านเชื้อชาติ (multi-ethnic) ให้สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างทัดเทียมและเป็นธรรม

1918

ทางด้านสื่อ อาจมีผู้ตั้งคำถามว่า อาเซอร์ไบจานถือดียังไงมาเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสำนักข่าวระดับโลก แถมสำนักข่าวแห่งชาติอาเซอร์ไบจานคือ AZERTAC ยังได้รับเลือกให้ทำหน้าที่ประธาน OANA เป็นระยะเวลา 4 ปี คือ ค.ศ. 2016 – 2019 ต่อจากสำนักข่าว Tass ของรัสเซียอีกด้วย

ประธานาธิบดีอาเซอร์ไบจาน คุยว่า 25 ปีที่ครองตนเป็นประเทศอิสระในสถานภาพ “สาธารณรัฐประชาธิปไตย” (The Democratic Republic) อาเซอร์ไบจานให้ความสำคัญกับการพัฒนาสื่อที่เป็นอิสระ (independent media) ให้ความสำคัญกับเสรีภาพของสื่อเช่นเดียวกันกับเสรีภาพพื้นฐานอื่นๆ (other fundamental freedoms) ของสังคม ยืนยันได้จากปัจจุบันที่อาเซอร์ไบจานมีหนังสือพิมพ์รายวันเกือบ 40 ฉบับ รายสัปดาห์และรายเดือนมากกว่า 200 สถานีโทรทัศน์ดาวเทียม 1 ช่อง สถานีภูมิภาค 13 ช่อง และเคเบิลทีวี 70 ช่อง อาเซอร์ไบจานเป็นประเทศที่ให้บริการอินเทอร์เน็ตฟรีแก่ประชาชน โดยกว่าร้อยละ 75 ของประชากรที่อยู่ประมาณเกือบ 10 ล้านคน เป็นผู้ใช้อินเทอร์เน็ต ในจำนวนนั้น มีอยู่ประมาณ 2 ล้านคนที่ใช้ social media ด้วยองค์ประกอบข้างต้น ฟังดูก็พอเป็นเหตุเป็นผลจนทำให้ได้รับความไว้วางใจจัดงานใหญ่เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมองค์กรสื่อระดับโลก

16

การรวมตัวกันของผู้นำสำนักข่าวจากทั่วโลกในการประชุม the 15th News Agencies World Congress ครั้งนี้ มีการพูดถึงอนาคตของการบริโภคข่าวสาร ความท้าทายและโอกาสของเทคโนโลยีใหม่ และ Social media นวัตกรรมสำนักข่าว การฝึกอบรมบุคลากรข่าวเพื่อให้พร้อมสำหรับอนาคตแห่งการเป็น Multi- media การปกป้องการทำหน้าที่ของคนทำข่าวทั้งในเรื่องของเสรีภาพ การเข้าถึงข้อมูล และความปลอดภัยในการรายงานข่าวในพื้นที่เสี่ยงอันตราย

อนาคตสำนักข่าวจะเป็นอย่างไร จะทำอย่างไรเพื่อให้สำนักข่าวอยู่รอดได้ ยังเป็นประเด็นคำถามที่พยายามหาคำตอบร่วมกัน เท่าที่นั่งฟัง speakers บนเวทีที่มีมาจากหลายสำนักข่าวและผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในงานที่เกี่ยวข้องกับสื่อ พอสรุปได้ว่า เพื่อความอยู่รอดได้ในอนาคต สำนักข่าวต่างๆ จะต้อง “diversify” หรือทำอะไรให้มีความแตกต่างหลากหลาย ไม่ย่ำอยู่กับที่ และจะต้อง “innovate” หรือ “create” อะไรใหม่ๆ เพื่อขาย ‘นวัตกรรม’ สำนักข่าวก็เหมือนสื่อแขนงอื่นๆ ที่ต้องชัดว่าตลาดอยู่ตรงไหน ต้องทำให้ได้ดังสำนวน “One needs to fish where the fish are” – จะตกปลาก็ต้องหาแหล่งที่มีปลาอยู่! ยิ่งถ้าอยากได้กลุ่มผู้บริโภคข่าวที่เอาใจยากอย่าง Generation ใหม่ สายพันธุ์ Millennial ยิ่งต้องปรับขยับกลยุทธ์ใหม่

ความเห็นหลากหลายบนเวที จับความได้ว่า เดี๋ยวนี้ใครๆ ก็เป็นนักข่าวและเผยแพร่ข่าวเองได้ เพราะฉะนั้น สำนักข่าวต้องไล่ตามให้ทัน “trend” ที่มีแนวโน้มชัดเจนเป็นกันทั่วโลกว่าผู้บริโภคหันหลังให้กับข่าวที่เป็น Text ที่มีไว้อ่าน หันมานิยมข่าวสารที่เป็นภาพ (visual imagery) อีกทั้งยังเลือกความสะดวกที่จะรับข่าวเข้าทางโทรศัพท์เคลื่อนที่ซึ่งมีกันแทบทุกคน เพื่อให้ได้ผล เนื้อหาข่าวก็ต้องปรับให้รับกับเครื่องมือที่ใช้สื่อสาร และปัจจุบันข่าวที่ผู้บริโภคนิยมเสพกันมักจะต้อง “short and sweet” หรือ “สั้น ไว ได้ใจความ” โดยภาพรวมก็คือ การนำเสนอข่าวหรือการเล่าเรื่องของสื่อ (Storytelling) จะต้องปรับทั้งด้านเนื้อหาและรูปแบบเพื่อให้เข้าถึงและตรึงผู้บริโภคข่าวได้ และควรต้องใช้หลักการสื่อสารสองทาง (two –way communication) เพื่อเพิ่มฐานผู้บริโภค

1221

ในด้านนวัตกรรมใหม่ ในกรณีของข่าวภาพ ข่าวที่เป็นคลิป หรือข่าวโทรทัศน์ มีการนำเสนอการใช้เทคนิคใหม่ๆ ด้านภาพข่าวมาใช้ในการนำเสนอ ซึ่งมีปัจจุบันทำกันได้ง่าย ไม่ต้องใช้เทคนิคที่ซับซ้อนก็ทำได้ ผู้แทนจากบางสำนักข่าวนำเสนอตัวอย่างความสำเร็จในการแสวงหาความร่วมมือจากกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีไอเดียล้ำๆ ไม่ว่าจะกลุ่มเยาวชน นักศึกษา ทั้งในระดับบุคคล หรือสถาบันศึกษา หรือไม่ก็กลุ่ม startups ที่กำลังเริ่มต้นธุรกิจมาร่วมคิดผลิตงานใหม่ๆ ให้กับงานข่าวเพื่อเจาะให้เข้าถึงคนรุ่นใหม่ อีกหนึ่งตัวอย่างที่น่าสนใจในประเด็นนวัตกรรมใหม่ของข่าว คือกรณีของญี่ปุ่น ซึ่งผู้แทนจากสำนักข่าว Kyodo News หยิบบกตัวอย่างการนำเอา AI (Artificial Intelligence) news presenter หรือผู้ประกาศข่าวปัญญาประดิษฐ์มาอ่านข่าวแทนคนเป็นๆ ซึ่งเริ่มมีให้เห็นแล้วที่ญี่ปุ่น
ในด้านการดำเนินกิจการของสำนักข่าว มีข้อเสนอร่วมกันว่า สำนักข่าวในปัจจุบันและในวันข้างหน้าจำเป็นต้องหารายได้จากหลายแหล่ง จึงจำเป็นพัฒนาสร้างสรรผลิตภันฑ์ข่าวให้ได้หลากหลาย formats

นอกจากเรื่องการความอยู่รอดด้านธุรกิจ (กรณีสำนักข่าวเอกชนหรือรัฐวิสาหกิจที่ไม่ได้พึ่งงบประมาณจากรัฐบาล) แล้ว เวทีการประชุมใหญ่สำนักข่าวโลกครั้งนี้ ยังให้ความสำคัญกับเรื่องการฝึกอบรมบุคลากรข่าวเพื่อให้พร้อมสำหรับอนาคตแห่งการเป็น Multi- media เรื่องอื่นๆ ต่างๆ ที่เป็นพื้นฐานหลักการของวิชาชีพสื่อมวลชน อาทิ การปกป้องการทำหน้าที่ของคนทำข่าวทั้งในเรื่องของเสรีภาพ บนพื้นฐานการรายงานข่าวที่เป็นกลาง ไม่มีอคติ การเข้าถึงแหล่งข่าวหรือข้อมูล และความปลอดภัยในการรายงานข่าวในพื้นที่เสี่ยงอันตราย ตัวอย่างที่ชัดเจนคือพื้นที่ที่มีความขัดแย้งและสู้รบ (war zone) ซึ่งตัวเลขโดยรวมทั่วโลกในระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา พบว่ามีคนทำข่าวเสียชีวิตในพื้นที่เสี่ยงภัยอย่างน้อย 827 คน

ที่ประชุม 5th News Agencies World Congress ได้ข้อสรุปร่วมกันว่า สิ่งที่ท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับสำนักข่าวทั่วโลกในปัจจุบัน คือ จะทำอย่างไรให้สำนักข่าวไปได้รอดในด้านการเงิน โดยเฉพาะสำนักข่าวที่ไม่ได้มีสถานภาพเป็นสำนักข่าวแห่งชาติที่มีงบประมาณจากรัฐบาลโอบอุ้ม จะทำอย่างไรเพื่อปกป้องและรักษามาตรฐานการรายงานข่าวที่เป็นอิสระ ไม่มีอคติ บนพื้นฐานหลักการเสรีภาพแห่งการพูดหรือแสดงออก (Freedom of speech) ที่สื่อต้องปรับตัวอย่างสูงในยุคดิจิทัล (Digital Era)

20

ขณะเดียวกัน ในช่วงท้าย มีการอ่านสารของนาย บีน คี-มูน เลขาธิการสหประชาชาติที่ส่งมาให้ที่ประชุม แสดงความยินดี มีใจความตอนหนึ่งที่ย้ำความสำคัญของเสรีภาพของการแสดงออก เสรีภาพสื่อที่มีต่อโรดแมปโลก และชี้ว่าสำนักข่าวมีบทบาทสำคัญในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่มีคุณภาพและทันต่อเวลาและสามารถผลักดันให้การเกิดการเปลี่ยนในทางบวก

การประชุม 5th News Agencies World Congress ซึ่งมีผู้บริหารและผู้แทนสำนักข่าวเข้าร่วมประชุมจำนวนมากจากกว่า 80 ประเทศ เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของอาเซอร์ไบจาน ประเทศที่ให้ความสำคัญกับความพยายามในการผลักดันตัวเองให้มีที่ยืนบนเวทีโลกในหลายๆ ด้าน.

“นรพล ผาเจริญ” กอง บก.ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวไทย อสมท

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

อดีตนายกฯ โพสต์พร้อมทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน-ตรวจสอบรัฐบาล

กรุงเทพ 5 ก.ย.- “แพทองธาร” ระบุ จากวันนี้เพื่อไทยทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานรัฐบาล บอก ไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่ พร้อมขอบคุณผู้สนับสนุน จะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ตลอดระยะเวลาการทำงานของพรรคเพื่อไทย เราผ่านสถานการณ์ทุกรูปแบบ ทั้งช่วงเวลาแห่งความสุข และช่วงเวลาที่ต้องแบกรับความยากลำบากร่วมกัน แต่สิ่งที่เราไม่เคยละวาง คือความหวัง โอกาส และอนาคตที่ดีกว่าของประชาชน จากวันนี้ เราจะทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล รักษาระบบรัฐสภาให้เดินหน้าตามวิถีทางประชาธิปไตย เราไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่นี้ แต่เราจะรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชน ด้วยความมุ่งมั่นและจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย ขอบคุณกำลังใจและการสนับสนุนจากทุกท่าน เราทราบดีว่า การเดินทางร่วมกับพรรคเพื่อไทยจนถึงวันนี้ ต้องใช้ความเข้มแข็งและอดทนถึงเพียงไหน เราจะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน .-316 -สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกฯ

รัฐสภา 5 ก.ย.- “อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 เดินทางไปเยี่ยม นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล บิดา ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ภายหลังได้รับการโหวตจากสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ด้วยคะแนน 311 เสียง ทันทีที่ถึงโรงพยาบาล นายอนุทินได้ก้มกราบที่ตักพ่อ พร้อมสวมกอดระหว่างที่พ่อกำลังรับประทานอาหารเย็น ทั้งคู่มีสีหน้ายิ้มแย้ม สดใส ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายอนุทินจะเดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ในเวลา 20.00 น. ของวันนี้.-315 -สำนักข่าวไทย

เริ่มลงตัว! เปิดโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” แบ่งโควตาคนนอก 5 เก้าอี้

กทม.5 ก.ย.- เช็กโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” เริ่มลงตัว “ภูมิใจไทย” 12 เก้าอี้ แบ่งโควตาคนนอกอีก 5 เก้าอี้ มีชื่อ “เศรษฐพุฒิ” อดีตผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ นั่งขุนคลัง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากที่นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล​ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี​ จากสภาผู้แทนราษฎร ความเคลื่อนไหวการจัดตั้ง “ครม.อนุทิน 1” ก็ขยับทันที​ โดยมีการจัดสรรโควตาตามจำนวนเสียงที่ประกาศจัดตั้งรัฐบาลเสียง​ข้างน้อย​ ร่วมกัน​ 146 ประกอบด้วย พรรคภูมิใจไทย​ 12 เก้าอี้ เนื่องจากมีโควตาของคนนอก ที่จะไม่นับรวม อีก 5 เก้าอี้​ ส่วนพรรคกล้าธรรม 7 เก้าอี้ แบ่งเป็น 4 รัฐมนตรีว่าการ​ และ 3 รัฐมนตรีช่วยว่าการ ขณะที่​ พรรคพลังประชารัฐ​ 4​ เก้าอี้ กลุ่มนายสุชาติ​ ชมกลิ่น​ จากพรรครวมไทยสร้างชาติ 4 […]

เพื่อไทยโพสต์พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน

กรุงเทพฯ 5 ก.ย.- พรรคเพื่อไทย พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ขอบคุณทุกแรงใจ ระบุ นโยบายหลายเรื่องค้างไว้ รอวันกลับมาสานต่อ ภายหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติ 311 เสียง เห็นชอบ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 พรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ว่า “พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตามครรลองของรัฐสภา ยึดมั่นหลักการประชาธิปไตย ขอขอบคุณทุกแรงใจ นโยบายหลายเรื่องที่ยังค้างไว้ เราจะรอวันกลับมาสานต่อให้สำเร็จ เพื่อคนไทยทุกคน…ตลอดไป” .-316 -สำนักข่าวไทย