วอชิงตัน 14 ส.ค.- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐเผยไม่สามารถชี้ขาดข่าวนางคามาลา แฮร์ริส ผู้สมัครคู่ของนายโจไบเดน ตัวเก็งตัวแทนพรรคเดโมแครตลงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐขาดคุณสมบัติ แต่คนให้ข่าวเป็นทนายความชื่อดัง
ประธานาธิบดีทรัมป์ตอบข้อถามระหว่างแถลงข่าวที่ทำเนียบขาวว่า ได้ยินข่าวสะพัดในโลกออนไลน์เรื่องนางแฮร์ริสมีคุณสมบัติไม่เป็นไปตามข้อกำหนด เขาไม่รู้ว่าเรื่องนี้จริงเท็จแค่ไหน แต่ทนายความผู้จุดประเด็นเป็นทนายความชื่อดังที่มีความสามารถมาก เขาคิดว่าพรรคเดโมแครตคงได้ตรวจสอบอย่างดีก่อนที่เธอจะได้รับเลือกเป็นผู้สมัครคู่ของนายไบเดน แต่กระแสข่าวที่ว่าเธอไม่มีคุณสมบัติเพราะไม่ได้เกิดในสหรัฐถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ ด้านผู้สื่อข่าวที่ถามตอบทรัมป์ว่า นางแฮร์ริสเกิดในสหรัฐ แต่ช่วงนั้นบิดามารดาของเธออาจยังไม่มีสถานะผู้พำนักถาวร
เรื่องนี้เป็นประเด็นขึ้นเมื่อนายจอห์น อีสต์แมน อาจารย์นิติศาสตร์มหาวิทยาลัยแชปแมนลงบทความในนิตยสารนิวส์วีค หนึ่งวันหลังจากไบเดนประกาศชื่อผู้สมัครคู่ เขาอ้างนักวิจารณ์บางคนว่า ส.ว.แฮร์ริส รัฐแคลิฟอร์เนียวัย 55 ปี ขาดคุณสมบัติที่จะเป็นรองประธานาธิบดีเพราะบิดาชาวจาเมกาและมารดาชาวอินเดียยังไม่ได้เป็นพลเมืองอเมริกันในช่วงที่เธอเกิดที่เมืองโอกแลนด์ รัฐแคลิฟอร์เนียในปี 2507 ดังนั้นจึงถือว่าเธอไม่ใช่ชาวอเมริกันโดยกำเนิด รัฐธรรมนูญสหรัฐบัญญัติไว้ว่า ผู้มีสิทธิเป็นรองประธานาธิบดีหรือประธานาธิบดีต้องเป็นชาวอเมริกันโดยกำเนิดที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป
ด้านนายเออร์วิน เชอเมอรินสกี คณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย วิทยาเขตเบิร์กลีย์ส่งอีเมลแย้งไปยังสถานีโทรทัศน์ซีบีเอสนิวส์ว่า เป็นข้ออ้างที่ไร้สาระอย่างมาก มาตรา 1 ในรัฐธรรมนูญฉบับที่ 14 บัญญัติไว้ว่า ผู้ใดเกิดในสหรัฐอเมริกาย่อมถือเป็นพลเมืองอเมริกัน และศาลฎีกาสหรัฐยึดเรื่องนี้มาตั้งแต่คริสต์ทศวรรษหลังปี 1890 นักอนุรักษ์นิยมบางคนอย่างนายอีสต์แมนคิดว่าการเกิดในสหรัฐอย่างเดียวยังไม่เพียงพอ ถือว่าผิดอย่างชัดเจนเมื่อพิจารณาตามรัฐธรรมนูญและคำชี้ขาดของศาลฎีกา.- สำนักข่าวไทย