วอชิงตัน 15 ก.ค. – มหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ ของสหรัฐ รายงานวันนี้ว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อโรคโควิด-19 รายใหม่ในสหรัฐ 63,262 คน และผู้เสียชีวิต 850 คน ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ทำให้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 3.42 ล้านคน และผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 136,432 คน
สหรัฐต้องรับมือกับการระบาดอย่างหนักของเชื้อไวรัสโคโรนาในช่วงสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะในภาคใต้และตะวันตกของประเทศ ทางการสหรัฐ รายงานว่า แม้ว่ารัฐฟลอริดา ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ เป็นรัฐแรกที่ประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวด แต่เมื่อวานนี้ก็ยังมีผู้เสียชีวิตถึง 132 คน ซึ่งทำสถิติใหม่ผู้เสียชีวิตสูงสุดของรัฐฟลอริดา อีกทั้งยังตรวจพบผู้ป่วยติดเชื้อรายวันกว่า 9,000 คน ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา จากแนวโน้มดังกล่าว ทำให้รัฐบางแห่งในสหรัฐ เช่น รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตก เลื่อนคำสั่งเปิดร้านค้าและบริการต่าง ๆ ออกไป และยังมีอีกหลายรัฐที่ออกคำสั่งให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยเมื่อออกจากบ้าน
ด้านศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ หรือซีดีซี เปิดเผยวานนี้ถึงผลการวิจัยที่สนับสนุนว่า การสวมหน้ากากอนามัยช่วยควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ได้ ขณะที่โมเดอร์นา บริษัทยาของสหรัฐ เผยว่า การทดลองด้านคลินิกเกี่ยวกับวัคซีนโรคโควิด-19 จะเข้าสู่การศึกษาในระยะสุดท้ายในวันที่ 27 กรกฎาคมนี้. – สำนักข่าวไทย