“เท้ง” แนะทบทวนใช้กฎหมายพิเศษ ดึงท้องถิ่นพัฒนาเศรษฐกิจ

ปัตตานี 12 ก.พ.-“เท้ง” แนะทบทวนใช้กฎหมายพิเศษ ดึงท้องถิ่นพัฒนาเศรษฐกิจ แก้ปัญหาชายแดนใต้ วอนฝ่ายความมั่นคงแจงเหตุคุมตัวนักข่าวอาสา จี้รัฐบาลชัดเจนเดินหน้ากระบวนการสร้างสันติภาพ

นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน ในสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่เพื่อรับฟังข้อมูลและแลกเปลี่ยนความเห็นในจังหวัดปัตตานีว่า บรรยากาศค่อนข้างเป็นกันเอง เมื่อช่วงเช้าได้ลงพื้นที่ไปยังชุมชนบาราโฮม ซึ่งประชาชนในพื้นที่ผลิตผ้าทำมือ ปริ้นด้วยดิจิทัล พร้อมกับพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว มีนักท่องเที่ยวจากประเทศมาเลเซียมาจองจนเต็ม นอกจากนี้จะมีการพูดคุยกับภาคประชาสังคมเรื่องสิทธิมนุษยชนในจังหวัดชายแดนใต้ด้วย


จังหวัดชายแดนใต้มีหลายเรื่องที่สามารถพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวได้ เพราะที่นี่อากาศไม่มีฤดูฝุ่นเหมือนกับจังหวัดอื่น โดยการพัฒนาในพื้นที่เริ่มต้นได้จะต้องปักหมุดเรื่องกระบวนการสร้างสันติภาพ และใช้กลไกขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นร่วมด้วย หากดูจำนวนนักท่องเที่ยวหรือรายได้ต่อหัวก็มีแนวโน้มดีขึ้น แม้จะยังไม่เท่ากับก่อนเกิดวิกฤตโควิด-19 โดยเมื่อวานนี้ได้ลงพื้นที่ไปดูตัวอย่างที่เทศบาลนครยะลา มีนโยบายในการทำครัวกลางให้กับเด็ก เป็นตัวอย่างที่ดีที่ท้องถิ่นพัฒนานโยบายที่ช่วยเสริมสร้างโภชนาการให้กับเด็ก

สำหรับยุทธศาสตร์ในการพัฒนาภาคใต้ของรัฐบาล เรื่องความมั่นคงและเศรษฐกิจจะต้องสอดประสานกัน เราอยากให้ทบทวนการใช้กฎหมายพิเศษที่น้อยลง และใช้กลไกขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการพัฒนาเศรษฐกิจ ซึ่งในวงประชุมร่วมกับ ศอ.บต.เมื่อวานนี้ก็มีความเห็นไปในทิศทางเดียวกัน


ส่วนกรณีที่เจ้าหน้าที่ความมั่นคงควบคุมตัว นายอับดุลอาฟิร เซ็ง อายุ 21 ปี นักกิจกรรมและอาสาสมัครนักข่าว สำนักสื่อวาร์ตานี ไปยังค่ายอิงคยุทธบริหาร จังหวัดปัตตานี เมื่อวานนี้นั้น คงต้องรอดูความชัดเจนของเจ้าหน้าที่ เราไม่อยากให้เกิดการใช้กฎหมายพิเศษหรืออำนาจพิเศษโดยเจ้าหน้าที่รัฐ ไปคุกคามหรือกดทับการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน จึงต้องรอคำชี้แจงจากเจ้าหน้าที่ว่าเข้าจับกุมด้วยข้อหา หรือการกระทำอะไร ซึ่งพรรคประชาชนมีตัวแทนในพื้นที่เพื่อติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด

ทั้งนี้ที่ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ออกมาชี้แจงว่าเป็นการคุมตัวโดยโปร่งใส และนายอับดุลอาฟิร มีการทำเพจโจมตีรัฐนั้น นายณัฐพงษ์ ระบุว่าจะต้องดูความชัดเจน หากเจ้าหน้าที่ยืนยันว่ามีความโปร่งใส ตัวแทนของพวกเราจะเข้าไปขอข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ ถ้ามีการชี้แจงอย่างตรงไปตรงมา ก็ไม่น่าจะมีประเด็นอะไร

เมื่อถามว่าการลงพื้นที่เมื่อวานนี้ ได้มีการพูดคุยกับฝ่ายความมั่นคง ซึ่งยืนยันว่าจะใช้กฎหมายพิเศษเท่าที่จำเป็น แต่กลับเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น นายณัฐพงษ์กล่าวว่า เป็นหนึ่งตัวอย่างที่ทำให้เห็นว่าประชาชนในพื้นที่ไม่ได้ไว้เนื้อเชื่อใจต่อเจ้าหน้าที่รัฐเท่าที่ควร ทั้งที่เป็นหัวใจสำคัญในการเดินหน้ากระบวนการสันติภาพ โดยเราจะผลักดันความโปร่งใสในด่านตรวจ เนื่องจากแม่ทัพภาค 4 ยินดีให้คณะของเราเข้าไปสำรวจด้วยเช่นกัน


สำหรับการแก้ไขปัญหาในระยะยาว กลไกสภาฯ เป็นกลไกสำคัญเพื่อให้ประชาชนในพื้นที่เข้าได้สะท้อนเสียงในพื้นที่ปลอดภัย ทั้งนี้เราต้องตั้งหมุดหมายแรกให้ตรงกันก่อน เพราะปัจจุบันยังขาดความชัดเจนจากรัฐบาล โดยเฉพาะการเดินหน้ากระบวนการสันติภาพ

อีกไม่นานนายกรัฐมนตรี จะจัด ครม.สัญจรมาในพื้นที่ภาคใต้ สิ่งที่น่าจับตาคือ รัฐบาลจะมีการสื่อสารเรื่องนี้มากน้อยแค่ไหน อย่างน้อยการแต่งตั้งตัวแทน หรือหัวหน้าคณะทำงานฝ่ายไทย ซึ่งเป็นตัวแทนในการเจรจาสันติภาพเป็นเรื่องที่สำคัญ เมื่อมีธงชัดเจนว่าเราจะมุ่งเป้าไปที่กระบวนการสร้างสันติภาพ การผลักดันพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมก็สำคัญไม่แพ้กัน จึงต้องเดินคู่ขนานกัน.-315.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตึกถล่มพบเสียชีวิตเพิ่ม

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่าง

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ในพื้นที่โซน B และโซน C มีซากอาคารถล่มทับร่างอยู่ ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่างและค้นหาผู้สูญหายใต้ซากอาคารต่อเนื่อง

ชายวัย 50 ไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องเมียท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากตึก สตง.

ชายวัย 50 ปี ยกมือไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องภรรยาท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากอาคาร สตง.ถล่ม ด้านรอง ผบช.น. เตือนอย่าใช้โอกาสที่มีผู้ประสบเหตุสร้างความสงสารหลอกเอาทรัพย์สิน มีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน

ออกแล้ว! ผลตรวจเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่ม พบไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น

ผลตรวจตัวอย่างเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่มจากแผ่นดินไหว พบได้มาตรฐาน 15 ชิ้น ไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น ยังไม่สรุปเป็นสาเหตุตึกถล่ม ชี้ต้องดูหลายองค์ประกอบ

ข่าวแนะนำ

ตึกถล่มพบเสียชีวิตเพิ่ม

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่าง

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ในพื้นที่โซน B และโซน C มีซากอาคารถล่มทับร่างอยู่ ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่างและค้นหาผู้สูญหายใต้ซากอาคารต่อเนื่อง

ยอดตายแผ่นดินไหวเมียนมา

แผ่นดินไหวเมียนมา ตายเพิ่มเป็นกว่า 2 พันราย

ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 7.7 ทางภาคกลางของเมียนมาเมื่อวันศุกร์พุ่งทะลุ 2 พันราย ขณะที่ชาวบ้านในเมืองมัณฑะเลย์ ใกล้ศูนย์กลางแผ่นดินไหว